AWˬ LAWN 13
KʼA MUIˬ HKAWˇ 4 ‘Yaˬhoˉvaˬ lehˬ ngaˬ ve yawˬ hawˉ shehˍ hpaˇ hpehꞈ ve’
Yaˬhoˉvaˬ teˇ ceuˬ le le te gʼa ve
‘Ngaˬ kʼoˆ ve hkʼe hpehꞈ la maˇ gʼa ve laˇ?’—HEH PUIˉ HK’AW 11:23.
A YEˇ UIˍ VE AWˬ LAWN
เพื่อช่วยให้เราไว้วางใจพระยะโฮวามากขึ้นว่าพระองค์จะคอยดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็นเสมอ
1. Moˉseˍ Iˉsaˍreˍlaˆ chaw hui htaꞈ Eˇjiˇtuꞈ mvuhˇ miˬ lo shiˍ tawˆ la htaˇ, yawˇ Yaˬhoˉvaˬ htaꞈ gʼaˇ va ve tehꞈ hkʼaˬ hkʼe hpeuꞈ maw laˇ ve le?
หนังสือฮีบรูมีรายชื่อคนที่เป็นตัวอย่างในเรื่องความเชื่อ และโมเสสก็เป็นหนึ่งในนั้น (ฮบ. 3:2-5; 11:23-25) เขาแสดงความเชื่อตอนที่นำชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ เขาไม่ได้กลัวฟาโรห์กับกองทัพอียิปต์เลย แต่วางใจในพระยะโฮวาและนำชาติอิสราเอลผ่านทะเลแดง และหลังจากนั้นก็เข้าไปสู่ที่กันดาร (ฮบ. 11:27-29) ถึงแม้ว่าชาวอิสราเอลส่วนใหญ่เริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะดูแลพวกเขาได้ไหม แต่โมเสสก็ยังคงไว้วางใจในพระยะโฮวาอยู่เสมอ แล้วโมเสสก็ไม่ผิดหวังเลยเพราะพระยะโฮวาได้จัดเตรียมอาหารและน้ำอย่างอัศจรรย์เพื่อดูแลคนของพระองค์ในที่กันดารจริง ๆ a—อพย. 15:22-25; สด. 78:23-25
2. ‘Ngaˬ kʼoˆ ve hkʼe hpehꞈ la maˇ gʼa ve laˇ?’ tehꞈ aˬ htoꞈ ma te Yaˬhoˉvaˬ Moˉseˍ htaꞈ chi hkʼe na piˇ ve le? (Heh puiˉ hkʼaw 11:21-23)
2 ถึงแม้ว่าโมเสสมีความเชื่อเข้มแข็ง แต่ประมาณ 1 ปีหลังจากที่พระยะโฮวาช่วยชาติอิสราเอลให้รอดพ้นจากกองทัพอียิปต์อย่างอัศจรรย์ โมเสสก็เริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะหาเนื้อมาให้ประชาชนของพระองค์ได้จริง ๆ ไหม โมเสสนึกภาพไม่ออกว่าพระยะโฮวาจะไปหาเนื้อจากไหนมาให้ประชาชนเป็นล้าน ๆ ที่อยู่ในที่กันดาร พระยะโฮวาก็เลยถามโมเสสกลับว่า “เจ้าคิดว่าพระยะโฮวาทำไม่ได้หรือ?” (อ่านกันดารวิถี 11:21-23) ในข้อคัมภีร์นี้ ส่วนที่บอกว่า “ทำไม่ได้หรือ” ในต้นฉบับภาษาฮีบรูพูดถึง “มือของพระยะโฮวา” ซึ่งหมายถึงพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าที่ใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ ตามความประสงค์ของพระองค์ ดังนั้น การที่พระยะโฮวาพูดแบบนี้จึงเหมือนกับพระองค์กำลังถามโมเสสว่า ‘เจ้าคิดว่าเราไม่มีพลังมากพอที่จะทำสิ่งที่เราบอกว่าจะทำเหรอ?’
3. Moˉseˍ leh Iˉsaˍreˍlaˆ chaw hui htaꞈ hpehꞈ la ve awˬ ceuˬ aˬ htoꞈ ma te ngaˬ hui yaw daꞈ cawˇ ve le?
3 คุณเคยสงสัยไหมว่าพระยะโฮวาจะดูแลคุณกับครอบครัวให้มีสิ่งจำเป็นได้หรือเปล่า? ไม่ว่าคุณจะเคยสงสัยเรื่องนี้หรือไม่ ให้เรามาดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับโมเสสและชาวอิสราเอลที่เริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะดูแลพวกเขาได้จริง ๆ ไหม และเราจะดูข้อคัมภีร์บางข้อที่จะช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าYaˬhoˉvaˬ teˇ ceuˬ le le te gʼa ve
MOˉSEˍ LEH IˉSAˍREˍLAˆ CHAW HUI HTAꞈ HENˇ YUˬ VE
4. Iˉsaˍreˍlaˆ chaw lehˬ Yaˬhoˉvaˬ yawˇ hui htaꞈ awˬ tehˬ nyi haꞈ shaˉ laˇ gʼa˗aw laˇ tehꞈ htawˇ dawˇ nawˬ dawˇ cawˬ tuˬ aˬ htoꞈ ma te piˇ ve le?
4 ให้เรามาดูท้องเรื่องด้วยกัน ตอนนั้นชาติอิสราเอลออกมาจากอียิปต์แล้วและอยู่ในที่กันดาร พวกเขาทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไปแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา “มีคนอื่น ๆ จำนวนมาก” เดินทางไปกับพวกเขาด้วย (อพย. 12:38; ฉธบ. 8:15) คนกลุ่มนี้เริ่มเบื่อมานาและทำให้ชาวอิสราเอลหลายคนเบื่อตามไปด้วย ทุกคนเลยพากันบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ (กดว. 11:4-6) พวกเขาพากันเรียกร้องจะเอาอาหารที่เคยกินตอนที่อยู่อียิปต์ โมเสสเองก็รู้สึกถูกกดดันมาก และดูเหมือนเขาคิดว่าเขาเองต้องเป็นคนที่ไปหาอาหารมาให้ประชาชนเหล่านี้กิน—กดว. 11:13, 14
5-6. Buiˇ shaˆ aˉ naˆ chaw hui Iˉsaˍreˍlaˆ chaw hui htaꞈ te piˇ ve awˬ ceuˬ ngaˬ hui htaꞈ aˬ htoꞈ ma maˍ laˇ ve le?
5 ดูเหมือนว่าชาวอิสราเอลได้รับอิทธิพลจากคนต่างชาติที่ไม่เห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวาทำเพื่อพวกเขา ทุกวันนี้เราเองก็อาจได้รับอิทธิพลจากคนในโลกที่ไม่รู้จักขอบคุณ และเราอาจเริ่มไม่พอใจกับสิ่งที่พระยะโฮวาจัดเตรียมให้เรา เราอาจเริ่มคิดถึงสิ่งที่เราเคยมีหรือเริ่มอิจฉาสิ่งที่คนอื่นมี แต่ถ้าเรารู้จักพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เราจะมีความสุขมากกว่าไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นยังไงก็ตาม
6 ชาวอิสราเอลน่าจะจำไว้ว่าพระยะโฮวารับรองว่าพอพวกเขาไปถึงแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา พวกเขาจะได้รับสิ่งดี ๆ มากมายและมีความสุข แต่คำสัญญานี้จะเกิดขึ้นตอนที่พวกเขาไปถึงแผ่นดินนั้น ไม่ใช่ระหว่างที่อยู่ในที่กันดาร เหมือนกันแทนที่เราจะเอาแต่คิดว่าเรายังไม่มีอะไรบ้างในตอนนี้ เราน่าจะคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่พระยะโฮวาสัญญาว่าจะให้กับเราในโลกใหม่ และเรายังสามารถคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับข้อคัมภีร์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เราวางใจพระยะโฮวามากขึ้น
7. Yaˬhoˉvaˬ teˇ ceuˬ le le te gʼa ve tehꞈ aˬ htoꞈ ma te ngaˬ hui yonˍ gʼa ve le?
7 แต่ถึงอย่างนั้นคุณอาจจะยังสงสัยว่าทำไมพระยะโฮวาถึงถามโมเสสว่า “เจ้าคิดว่าพระยะโฮวาทำไม่ได้หรือ?” พระยะโฮวาอาจกำลังช่วยให้โมเสสคิดถึง 2 อย่างคือ 1) พระองค์มีพลังอำนาจไม่จำกัด และ 2) พระองค์สามารถใช้พลังอำนาจของพระองค์ที่ไหนก็ได้ พระยะโฮวาสามารถหาเนื้อปริมาณมหาศาลมาให้กับประชาชนของพระองค์ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในที่กันดารที่ห่างไกลมาก พระองค์สามารถใช้ “อำนาจอันยิ่งใหญ่” ได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน (สด. 136:11, 12) ดังนั้น ถ้าเรากำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาสามารถช่วยเราแต่ละคนได้แน่นอนไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม—สด. 138:6, 7
8. Heh puiˉ hkʼaw chehˇ htaˇ chaw laiˉ gʼaˇ te yaꞈ ve hkʼa shuˍ ngaˬ hui kaꞈ hkʼaˬ hkʼe maˇ gʼa te yaꞈ tuˬ le? (Awˬ han htaꞈ nyi sheˍ.)
8 แล้วพระยะโฮวาก็จัดเตรียมเนื้อให้กับพวกเขาจริง ๆ พระองค์ให้มีนกคุ่มจำนวนมหาศาลมาที่ค่ายของชาวอิสราเอล แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้ขอบคุณพระยะโฮวาสำหรับการอัศจรรย์นี้เลย แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกเขาหลายคนกลับกลายเป็นคนโลภ พวกเขาออกไปจับนกคุ่มทั้งกลางวันและกลางคืน พระยะโฮวาโกรธคน “ที่ตะกละตะกลาม” เหล่านี้มาก แล้วพระองค์ก็ลงโทษพวกเขา (กดว. 11:31-34) สิ่งที่เราได้เรียนจากเรื่องนี้ก็คือ เราต้องระวังที่จะไม่กลายเป็นคนโลภ ไม่ว่าเราจะรวยหรือจนเราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการ “สะสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์” โดยการสนิทกับพระยะโฮวาและพระเยซู (มธ. 6:19, 20; ลก. 16:9) เมื่อเราทำอย่างนั้น เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะคอยดูแลเราเสมอ
หลังจากที่พระยะโฮวาให้นกคุ่มกับชาวอิสราเอลในที่กันดาร พวกเขาแสดงนิสัยยังไง? และเราได้เรียนอะไรจากเรื่องนี้? (ดูข้อ 8)
9. Ngaˬ hui Yaˬhoˉvaˬ htaꞈ aˬ htoꞈ ma yonˍ gʼa ve le?
9 พระยะโฮวาพร้อมจะดูแลคนของพระองค์ในทุกวันนี้ด้วย แต่นี่หมายความว่าเราจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินหรือจะไม่มีทางขาดแคลนอาหารเลยไหม?b ไม่ใช่ เรามั่นใจได้แน่นอนว่าพระยะโฮวาจะไม่มีวันทิ้งเรา พระองค์จะคอยช่วยเราให้รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้ แล้วเราจะแสดงยังไงว่าเรามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเรา? ให้เรามาดู 2 สถานการณ์ด้วยกันคือ (1) ตอนที่เรารับมือกับปัญหาเรื่องเงิน และ (2) ตอนที่เรากังวลว่าจะมีเงินใช้ไหมตอนที่อายุมาก
HPU VE AWˬ LAWN SHOꞈ SHAꞈ VE GʼA HPFUHˇ HTAˇ
10. Ngaˬ hui hpu ve awˬ lawn shoꞈ shaꞈ ve gʼa hpfuhˇ tuˬ aˬ htoꞈ ma teˇ ceuˬ te laˇ ve le?
10 ยิ่งจุดจบของโลกชั่วใกล้จะมาถึงมากเท่าไหร่ เราก็คาดหมายได้เลยว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะแย่ลงมากเท่านั้น ปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด อาจทำให้เรามีปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้เราตกงาน สูญเสียทรัพย์สิน หรือแม้แต่สูญเสียบ้านของเรา เมื่อเราเจอเหตุการณ์เหล่านี้ เราอาจต้องหางานใหม่ หรือแม้แต่อาจจะต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่นเพื่อจะหางานทำ แล้วอะไรจะช่วยให้เราตัดสินใจในแบบที่แสดงให้เห็นว่าเราไว้วางใจพระยะโฮวา?
11. Nawˬ hpu ve awˬ lawn shoꞈ shaꞈ ve htaꞈ haꞈ yuˬ gʼa tuˬ aˬ htoꞈ ma ga laˇ gʼa ve le? (Luˉkaꞈ 12:29-31)
11 สิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้มากก็คือการอธิษฐานระบายความกังวลกับพระยะโฮวา (สภษ. 16:3) ให้อธิษฐานขอสติปัญญาจากพระยะโฮวาเพื่อจะช่วยให้คุณตัดสินใจในแบบที่ฉลาด และช่วยให้คุณมีความสงบใจเพื่อจะไม่ “กังวล” กับปัญหาของตัวเองมากเกินไป (อ่านลูกา 12:29-31) นอกจากนั้น ให้คุณอธิษฐานอ้อนวอนพระยะโฮวาช่วยให้คุณพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ (1 ทธ. 6:7, 8) คุณยังสามารถค้นคว้าคำแนะนำขององค์การที่ช่วยให้รับมือกับปัญหาเรื่องเงินได้ พี่น้องหลายคนได้ประโยชน์จากคำแนะนำเหล่านี้ที่มีอยู่ในเว็บไซต์ jw.org
12. Hkriꞈ yaˇ yawˇ ve yehˬ kʼa hkʼaw heuˆ la kuiˬ cawˬ ve awˬ lawn htaꞈ gʼa dawˇ cheˆ htaˇ, yawˇ aˬ htoꞈ ma na hkawˇ htaꞈ dawˇ nyi cawˇ ve le?
12 พี่น้องบางคนตัดสินใจไปทำงานในที่ที่ห่างไกลจากครอบครัว แล้วตอนหลังก็มาคิดได้ว่าไม่น่าตัดสินใจแบบนั้นเลย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะทำงานอะไร แทนที่จะคิดถึงแต่ว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ คุณควรคิดว่างานนั้นจะส่งผลยังไงกับความสัมพันธ์ที่ครอบครัวของคุณมีต่อพระยะโฮวา (ลก. 14:28) ให้ถามตัวเองว่า ‘ถ้าฉันต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว สามีหรือภรรยาของฉันจะเป็นยังไง? งานนี้จะทำให้ฉันสามารถเข้าร่วมการประชุมได้ทุกรายการ เข้าร่วมในงานประกาศ หรือสามารถใช้เวลากับพี่น้องได้ไหม?’ และถ้าคุณมีลูกคุณก็ต้องถามตัวเองด้วยว่า ‘ฉันจะเลี้ยงลูก “ด้วยคำสั่งสอนและคำตักเตือนจากพระยะโฮวา” ได้ยังไงถ้าฉันไม่ได้อยู่กับลูก?’ (อฟ. 6:4) ขอให้คุณตัดสินใจในแบบที่สอดคล้องกับความคิดของพระยะโฮวา ไม่ใช่ตัดสินใจตามคำแนะนำของคนในครอบครัว ญาติ หรือเพื่อนที่ไม่ได้เอาหลักการในคัมภีร์ไบเบิลมาใช้c ให้เรามาดูประสบการณ์ของโทนี่ด้วยกัน โทนี่อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันตก มีคนมาเสนองานดี ๆ ให้กับเขาหลายงาน แต่เขาต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ โทนี่อธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้และคุยกับภรรยา แล้วเขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่รับข้อเสนอ แต่จะอยู่กับครอบครัวต่อไปและพยายามลดค่าใช้จ่ายลง เมื่อมองย้อนกลับไป โทนี่บอกว่า “การที่ผมตัดสินใจแบบนี้ทำให้ผมมีสิทธิพิเศษได้ช่วยหลายคนให้รู้จักพระยะโฮวาและได้มีโอกาสช่วยลูก ๆ ให้สนิทกับพระองค์ ครอบครัวของเราได้เรียนรู้ว่า ตราบใดที่เราทำตามคำแนะนำที่อยู่ในมัทธิว 6:33 พระยะโฮวาก็จะดูแลเราเสมอ”
NGAˬ HUI A SHAꞈ MAˇ LA HTAˇ HPU YEHˇ LAWꞈ˗AW LAˇ TEHꞈ DAWˇ HAˍ HTAˇ
13. Ngaˬ hui a shaꞈ maˇ la htaˇ hpu yehˇ lawꞈ tuˬ, chi teˇ kuiˬ kaꞈ aˬ htoꞈ ma te gʼa ve le?
13 เรายังสามารถแสดงให้เห็นว่าเราไว้วางใจพระยะโฮวาตอนที่วางแผนว่าจะทำยังไงตอนอายุมาก คัมภีร์ไบเบิลสนับสนุนให้เราขยันทำงานเพื่อจะมีเงินใช้ในวันข้างหน้า (สภษ. 6:6-11) ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่มีเหตุผลที่เราจะวางแผนเก็บเงินไว้สำหรับอนาคตเท่าที่เราทำได้ เพราะเงินก็เป็นเครื่องป้องกันในระดับหนึ่ง (ปญจ. 7:12) แต่เราจะไม่ให้การหาเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต
14. Ngaˬ hui hpu ve awˬ lawn gu teh htaˇ, Heˍbrehˇ liꞈ 13:5 hkʼaw ngaˬ hui htaꞈ hkʼaˬ hkʼe ga laˇ gʼa ve le?
14 พระเยซูเล่าตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่องไม่ฉลาดที่จะตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินแต่ไม่สนใจที่จะ “ร่ำรวยในสายตาพระเจ้า” (ลก. 12:16-21) เหตุผลหนึ่งก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง (สภษ. 23:4, 5; ยก. 4:13-15) และพระเยซูยังบอกด้วยว่าเราทุกคนต้องพร้อมจะสละหรือ “ทิ้ง” ทรัพย์สมบัติของตัวเองเพื่อเป็นสาวกของท่าน (ลก. 14:33) เราเห็นเรื่องนี้ได้จากคริสเตียนในศตวรรษแรกที่อยู่ในยูเดียที่เต็มใจสูญเสียทรัพย์สมบัติของตัวเอง (ฮบ. 10:34) ในปัจจุบัน พี่น้องหลายคนยอมสละทรัพย์สินที่มีอยู่หรือแม้แต่ยอมตกงานเพราะไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง (วว. 13:16, 17) อะไรช่วยให้พวกเขาทำแบบนั้นได้? สิ่งที่ช่วยพวกเขาได้ก็คือ พวกเขามั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวาที่บอกว่า “เราจะไม่มีวันทิ้งเจ้า เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเลย” (อ่านฮีบรู 13:5) ดังนั้น แม้ว่าเราพยายามเต็มที่ที่จะวางแผนเรื่องเงินในอนาคต แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นกับเรา เราก็มั่นใจว่าพระยะโฮวาจะช่วยเราแน่นอน
15. Hkriꞈ yaˇ hpehꞈ ve awˬ pa awˬ e yaˇ cawˬ tuˬ ve htaꞈ hkʼaˬ hkʼe dawˇ nyi cawˇ ve le? (Awˬ han htaꞈ nyi sheˍ.)
15 ในบางวัฒนธรรม สามีภรรยาจะคิดว่าต้องมีลูกเพื่อจะให้ลูกมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่ พวกเขามองว่าลูกเป็นสิ่งที่ต้องมีใน “แผนเกษียณ” ของพวกเขา แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพ่อแม่ต้องเป็นฝ่ายดูแลเอาใจใส่ความจำเป็นของลูก (2 คร. 12:14) แน่นอนว่าพ่อแม่อาจจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือบางอย่างจากลูกตอนที่พวกเขาแก่ตัวลง และลูกก็ยินดีที่จะดูแลพ่อแม่ (1 ทธ. 5:4) แต่พ่อแม่คริสเตียนรู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขมากที่สุดไม่ใช่การเลี้ยงลูกเพื่อให้ลูกมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่ แต่ความสุขของพวกเขามาจากการช่วยลูกให้ได้เป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวา—3 ยน. 4
สามีภรรยาคริสเตียนจะคิดถึงหลักการในคัมภีร์ไบเบิลเมื่อต้องตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา (ดูข้อ 15)d
16. Yaˇ a shu yawˇ awˬ to hu gʼa tuˬ, awˬ pa awˬ e hkʼaˬ hkʼe gu piˇ gʼa ve le? (Eˇfeˇsuꞈ 4:28)
16 ให้คุณสอนลูกโดยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขาในเรื่องการไว้วางใจพระยะโฮวาและช่วยลูกให้เตรียมตัวที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้เมื่อโตขึ้น สอนเขาตั้งแต่ยังเล็กให้เป็นคนขยันทำงาน (สภษ. 29:21; อ่านเอเฟซัส 4:28) แล้วเมื่อลูกเริ่มโตขึ้น ก็สอนเขาให้ตั้งใจเรียน พ่อแม่สามารถค้นคว้าหลักการในคัมภีร์ไบเบิลและเอามาช่วยลูกให้ตัดสินใจว่าเขาควรเรียนอะไร นี่จะช่วยให้ลูกพร้อมจะหาเลี้ยงตัวเองได้และสามารถทำงานรับใช้ได้มากขึ้น
17. Ngaˬ hui aˬ htoꞈ ma awˬ lawn htaꞈ hkʼa dehꞈ yonˍ gʼa ve le?
17 ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวามั่นใจได้เลยว่าพระองค์จะดูแลพวกเขาให้มีสิ่งจำเป็นแน่นอนและพระองค์อยากช่วยพวกเขาจริง ๆ ยิ่งจุดจบของโลกนี้ใกล้เข้ามา เราก็ยิ่งต้องวางใจในพระยะโฮวามากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เราวางใจว่าพระยะโฮวาสามารถใช้พลังอำนาจของพระองค์เพื่อดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็นได้เสมอ เรามั่นใจได้แน่นอนว่าพระยะโฮวาสามารถทำได้ทุกอย่างและพระองค์สามารถช่วยเราได้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน
KʼA MUIˬ HKAWˇ 150 Ngaˬ hui ponˬ gʼa tuˬ, Gʼuiˬ sha hpawˇ chehˇ˗oˆ
a ดู “คำถามจากผู้อ่าน” ในหอสังเกตการณ์ เดือนตุลาคม 2023
b ดู “คำถามจากผู้อ่าน” ในหอสังเกตการณ์ 15 กันยายน 2014
c ดูบทความ “ไม่มีใครเป็นทาสของนายสองคนได้” ในหอสังเกตการณ์ 15 เมษายน 2014
d คำอธิบายภาพ สามีภรรยาคริสเตียนคุยกับลูกสาวของพวกเขาที่รับใช้ในโครงการก่อสร้างหอประชุมกับสามี