พระคำของพระเจ้ามีพลัง
1 คัมภีร์ไบเบิลส่งผลกระทบมากมายต่อชีวิตของหลายล้านคน. สิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวมีพลังกระตุ้นยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ที่มนุษย์สามารถคิดขึ้น. (เฮ็บ. 4:12) จงพิจารณาผลประโยชน์ที่เราได้จากคัมภีร์ไบเบิล. จริงทีเดียว คัมภีร์ไบเบิลมีคุณค่ายิ่งกว่าหนังสืออื่นใด.
2 พยานพระยะโฮวาเป็นนักศึกษาและผู้สนับสนุนคัมภีร์ไบเบิลที่เด่นที่สุด. เราพึงถือว่าการอ่านคัมภีร์ไบเบิลเป็นส่วนสำคัญยิ่งในกำหนดการประจำของเราตามระบอบของพระเจ้า ให้การทำเช่นนี้มาก่อนการดูโทรทัศน์และการมุ่งติดตามนันทนาการอื่น ๆ ทั้งหมด.
3 จงทำให้การอ่านคัมภีร์ไบเบิลเป็นนิสัย: ไพร่พลของพระยะโฮวาได้มารู้ซึ้งถึงแรงชักจูงอันทรงพลังของการอ่านคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ. เป็นเวลาหลายปีมีป้ายขนาดใหญ่บนอาคารโรงงานแห่งหนึ่งของสมาคมฯ ในบรุกลินได้กระตุ้นผู้คนสัญจรให้ “อ่านคัมภีร์ไบเบิลบริสุทธิ์พระคำของพระเจ้าทุกวัน.” สมาชิกใหม่ของครอบครัวเบเธลต้องอ่านคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่มในช่วงปีแรกแห่งการรับใช้ที่เบเธล.
4 แม้จะมีตารางเวลาที่เต็มเหยียด คุณตามทันกับการอ่านคัมภีร์ไบเบิลประจำสัปดาห์ตามที่มีแจ้งไว้ในกำหนดการโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าไหม? ถ้าคุณมีความยุ่งยากในการทำเช่นนั้น คุณก็น่าจะลองปรับกำหนดการสำหรับการอ่านคัมภีร์ไบเบิลระหว่างเดือนพฤศจิกายนนี้. การอ่านคัมภีร์ไบเบิลสำหรับทั้งเดือนนั้นคือ 2 โครนิกา บท 34 ถึง เอษรา บท 10 ซึ่งจะต้องอ่านราวสี่หรือห้าหน้าต่อสัปดาห์. บางคนเลือกอ่านทีละน้อยทุกวัน บางทีในตอนเช้าหรือก่อนเข้านอนตอนกลางคืน. ไม่ว่าคุณจะทำโดยวิธีใด สิ่งสำคัญคือว่า คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ส่งเสริมสุขภาพซึ่งคุณจะได้รับเนื่องจากการอ่านพระคำของพระเจ้าเป็นประจำ.
5 ถูกแล้ว คัมภีร์ไบเบิลคือพระคำของพระเจ้า. ถ้าเราอ่านคัมภีร์ไบเบิล, เชื่อคัมภีร์ไบเบิล, และนำคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิลไปใช้ในชีวิตของเรา เราก็จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากมาย. คัมภีร์ไบเบิลถูกจารึกไว้เพื่อให้คำสั่งสอนและความหวังแก่เรา. (โรม 15:4) เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะค้นดูคัมภีร์ไบเบิลทุกวันและพร้อมจะใช้คัมภีร์ไบเบิลเพื่อสอนคนอื่น ๆ.