พระธรรมเล่มที่ 51—โกโลซาย
ผู้เขียน: เปาโล
สถานที่เขียน: โรม
เขียนเสร็จ: ประมาณปี ส.ศ. 60-61
1. เมืองโกโลซายตั้งอยู่ที่ไหน?
ชายสองคนละเมืองเอเฟโซไว้เบื้องหลัง เดินทางมุ่งตะวันออกผ่านเอเชียไมเนอร์เลียบแม่น้ำมีอันเดอร์ (เมนเดอเรส). เมื่อมาถึงแม่น้ำสายที่แยกออกไปชื่อลีคุสในเขตฟรูเกีย พวกเขาเลี้ยวไปทางตะวันออกเฉียงใต้เลียบตามแม่น้ำผ่านหุบเขาไป. เบื้องหน้าพวกเขาเป็นภาพสวยงามของทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เขียวขจีที่มีแกะฝูงใหญ่. (ผลิตภัณฑ์จากขนแกะเป็นแหล่งเงินได้หลักของภูมิภาคนี้.a) เมื่อนักเดินทางมุ่งหน้าไปตามหุบเขา พวกเขาผ่านเมืองลาโอดิเคีย (ละโอดีไกอะ) ที่มั่งคั่งอันเป็นศูนย์กลางการบริหารของโรมในเขตการปกครองนั้นซึ่งอยู่ด้านขวามือ. ส่วนด้านซ้ายมือบนฝั่งแม่น้ำด้านตรงข้าม พวกเขามองเห็นเมืองฮิราโปลี (ฮีราโพลิส) ที่มีชื่อเรื่องวิหารและน้ำพุร้อน. มีประชาคมคริสเตียนในทั้งสองเมืองนี้และในโกโลซายเมืองเล็ก ๆ ด้วยซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปทางหุบเขาประมาณ 16 กิโลเมตร.
2. (ก) สองคนที่เปาโลใช้ไปโกโลซายคือใคร? (ข) เราทราบอะไรบ้างเกี่ยวกับประชาคมโกโลซาย?
2 โกโลซายเป็นจุดหมายของนักเดินทางคู่นี้. ทั้งสองเป็นคริสเตียน. อย่างน้อยหนึ่งในสองคนรู้จักเขตนี้ดีเพราะเขามาจากโกโลซาย. เขาชื่อโอเนซิมุส (โอเนซิโม) และเขาเป็นทาสที่กลับมาหานายของตนซึ่งเป็นสมาชิกประชาคมที่นั่น. เพื่อนร่วมทางของโอเนซิมุสคือตุคิโก ไม่เป็นทาสใคร และทั้งสองเป็นผู้ส่งข่าวจากอัครสาวกเปาโล นำจดหมายจากท่านที่เขียนถึง “พี่น้องที่ซื่อสัตย์ซึ่งร่วมสามัคคีกับพระคริสต์ที่โกโลซาย.” เท่าที่เราทราบ เปาโลไม่เคยเยือนโกโลซาย. ประชาคมนี้ซึ่งประกอบด้วยคนที่ไม่ใช่ยิวเป็นส่วนใหญ่ อาจเป็นได้ที่ตั้งขึ้นโดยเอปาฟรัสซึ่งทำงานหนักท่ามกลางพวกเขาและตอนนี้อยู่กับเปาโลที่โรม.—โกโล. 1:2, 7, ล.ม.; 4:12.
3. ตัวจดหมายที่เขียนถึงคริสเตียนชาวโกโลซายเผยให้ทราบอะไรเกี่ยวกับผู้เขียน อีกทั้งเวลาและสถานที่เขียน?
3 อัครสาวกเปาโลเป็นผู้เขียนจดหมายนี้ดังที่ท่านกล่าวไว้ในคำขึ้นต้นและคำลงท้าย. (1:1; 4:18) คำลงท้ายของท่านยังบอกด้วยว่าท่านเขียนจากที่คุมขัง. ครั้งนี้คงเป็นคราวที่ท่านถูกคุมขังครั้งแรกที่โรม คือในปี ส.ศ. 59-61 เมื่อท่านเขียนจดหมายให้กำลังใจหลายฉบับ จดหมายถึงคริสเตียนชาวโกโลซายถูกส่งพร้อมกับจดหมายถึงฟิเลโมน. (โกโล. 4:7-9; ฟิโล. 10, 23) ดูเหมือนว่าจดหมายนี้เขียนประมาณเวลาเดียวกับจดหมายที่เขียนถึงคริสเตียนที่เอเฟโซ เนื่องจากแนวคิดและคำพูดหลายตอนเหมือนกัน.
4. อะไรยืนยันว่าพระธรรมโกโลซายเป็นของแท้?
4 ไม่มีสาเหตุใด ๆ จะสงสัยความเชื่อถือได้ของจดหมายที่เขียนถึงคริสเตียนชาวโกโลซาย. การที่จดหมายนี้ปรากฏอยู่กับจดหมายของเปาโลฉบับอื่น ๆ ในเชสเตอร์ บีทตี พาไพรัส หมายเลข 2 (P46) ซึ่งเขียนขึ้นประมาณปี ส.ศ. 200 แสดงว่าคริสเตียนรุ่นแรกยอมรับว่าจดหมายนี้เป็นจดหมายฉบับหนึ่งของเปาโล. ที่ว่าจดหมายนี้เป็นของแท้ได้รับการยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญสมัยแรกชุดเดียวกับที่ยืนยันความเชื่อถือได้ของจดหมายฉบับอื่น ๆ ของเปาโล.
5. (ก) อะไรกระตุ้นเปาโลให้เขียนถึงคริสเตียนชาวโกโลซาย? (ข) จดหมายนี้เน้นอะไร?
5 อะไรกระตุ้นเปาโลให้เขียนจดหมายถึงคริสเตียนชาวโกโลซาย? ประการหนึ่งคือ โอเนซิมุสกำลังจะกลับไปยังโกโลซาย. เอปาฟรัสเพิ่งมาสมทบกับเปาโลไม่นาน และไม่ต้องสงสัยว่ารายงานของเขาเกี่ยวกับสภาพการณ์ในโกโลซายทำให้มีอีกเหตุผลหนึ่งที่เขียนจดหมาย. (โกโล. 1:7, 8; 4:12) อันตรายบางอย่างคุกคามประชาคมคริสเตียนที่นั่น. ศาสนาต่าง ๆ ในสมัยนั้นกำลังเสื่อม และมีการตั้งศาสนาใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลอมรวมส่วนต่าง ๆ ของศาสนาเก่า ๆ. มีปรัชญานอกรีตที่เกี่ยวข้องกับพรตนิยม, การถือผี, รวมทั้งการเชื่อโชคลางในแบบที่ไหว้รูปเคารพ, และสิ่งเหล่านี้รวมกับการงดเว้นอาหารต่าง ๆ ของพวกยิวและการถือวันต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบบางคนในประชาคม. ไม่ว่าปัญหาจะเป็นอย่างไร ปรากฏว่ามีเหตุผลพอเพียงให้เอปาฟรัสเดินทางไกลมายังโรมเพื่อพบกับเปาโล. อย่างไรก็ตาม ที่ประชาคมโดยรวมไม่ตกอยู่ในอันตรายที่ต้องจัดการทันทีนั้นมีบ่งชี้โดยรายงานที่ชูใจจากเอปาฟรัสในเรื่องความรักและการยืนหยัดมั่นคงของพวกเขา. เมื่อได้ยินรายงาน เปาโลได้ปกป้องความรู้ถ่องแท้และการนมัสการที่สะอาดอย่างเข้มแข็งโดยเขียนจดหมายนี้ถึงประชาคมโกโลซาย. จดหมายนี้เน้นความสูงส่งที่พระเจ้าประทานให้พระคริสต์เมื่อเทียบกับปรัชญานอกรีต, การนมัสการทูตสวรรค์, และประเพณีของพวกยิว.
เนื้อเรื่องในโกโลซาย
6. (ก) เปาโลอธิษฐานเพื่อคริสเตียนชาวโกโลซายอย่างไร? (ข) เปาโลอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับตำแหน่งและการรับใช้ของพระเยซูที่เกี่ยวกับประชาคม?
6 จงมีความเชื่อในพระคริสต์ ประมุขของประชาคม (1:1–2:12). หลังจากคำทักทายจากติโมเธียวและท่านเองในคำขึ้นต้น เปาโลขอบคุณสำหรับความเชื่อที่คริสเตียนชาวโกโลซายมีในพระคริสต์และความรักของพวกเขา. พวกเขาได้เรียนรู้เรื่องพระกรุณาอันไม่พึงได้รับของพระเจ้าอันเป็นผลจากการที่เอปาฟรัสประกาศข่าวดีท่ามกลางพวกเขา. ตั้งแต่ได้ยินรายงานเกี่ยวกับพวกเขา เปาโลอธิษฐานไม่หยุดหย่อนเพื่อให้พวกเขาเปี่ยมด้วย “ความรู้ถ่องแท้เรื่องพระทัยประสงค์ของพระองค์ในสรรพปัญญา และความเข้าใจฝ่ายวิญญาณ เพื่อจะดำเนินคู่ควรกับพระยะโฮวา” และ “จะเพียรอดทนเต็มที่และอดกลั้นทนนานด้วยความยินดี.” (1:9-11, ล.ม.) พระบิดาได้ช่วยพวกเขาให้รอดเข้าสู่ “ราชอาณาจักรแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์” ซึ่งเป็นแบบพระฉายของพระเจ้าผู้ไม่ประจักษ์แก่ตา และสรรพสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์. พระองค์ทรงเป็นประมุขของประชาคมและเป็นผู้แรกที่บังเกิดจากบรรดาคนตาย. โดยทางพระโลหิตของพระเยซู พระเจ้าทรงเห็นสมควรให้สิ่งสารพัดคืนดีกับพระองค์อีก ใช่ รวมทั้งคริสเตียนชาวโกโลซายซึ่งเคยเหินห่างจากพระเจ้าด้วย ‘แต่แน่นอน นั่นขึ้นอยู่กับการที่พวกเขาอยู่ในความเชื่อต่อไป.’—1:13, 23, ล.ม.
7. เปาโลประกาศเรื่องอะไร และเพื่อวัตถุประสงค์อะไร?
7 เปาโลยินดีในการทำให้ความลำบากของพระคริสต์เต็มขนาดเพื่อเห็นแก่ประชาคม ซึ่งท่านได้มาเป็นผู้รับใช้. เพื่อประโยชน์ของพวกเขา การนี้เป็นไปเพื่อประกาศอย่างเต็มที่เรื่องพระคำของพระเจ้าเกี่ยวกับ ‘ความลับอันศักดิ์สิทธิ์ คือความมั่งคั่งอันรุ่งโรจน์ซึ่งบัดนี้พระเจ้าทรงชอบพระทัยจะสำแดงให้เหล่าผู้บริสุทธิ์ได้ทราบ.’ เปาโลกล่าวว่า ‘คือพระคริสต์ที่เรากำลังประกาศอย่างเปิดเผย เตือนสติทุกคนและสอนทุกคนด้วยสติปัญญาทั้งสิ้น เพื่อเราจะถวายทุกคนให้ร่วมสามัคคีกับพระคริสต์อย่างครบถ้วน.’—1:26-28, ล.ม.
8. เหตุใดเปาโลจึงบากบั่นเพื่อพี่น้อง?
8 ที่เปาโลบากบั่นเพื่อคริสเตียนชาวโกโลซาย, ชาวลาโอดิเคีย และคนอื่น ๆ ก็เพื่อพวกเขาจะได้รับการประโลมใจและร่วมประสานกันในความรัก ด้วยประสงค์ให้พวกเขาได้รับ ‘ความรู้ถ่องแท้เรื่องความลับอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า คือเรื่องพระคริสต์ ซึ่งคลังทรัพย์ทั้งปวงแห่งสติปัญญาและความรู้ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดในพระองค์.’ ท่านไม่อยากเห็นพวกเขาหลงไปกับการชักเหตุผล พวกเขาควรดำเนินต่อไปโดยร่วมสามัคคีกับพระคริสต์ “หยั่งรากและถูกก่อขึ้นในพระองค์ และตั้งมั่นคงในความเชื่อ.” บัดนี้เปาโลกล่าวเตือนเรื่องหนึ่ง. “จงระวัง: อาจมีคนที่จะทำให้พวกท่านตกเป็นเหยื่อของเขาได้โดยใช้ปรัชญาและคำล่อลวงเหลวไหลตามประเพณีของมนุษย์ ตามสิ่งธรรมดาของโลก.”—2:2, 3, 7, 8, ล.ม.
9. เปาโลเตือนให้ระวังการนมัสการแบบใด และเหตุใดชาวโกโลซายไม่ควรยอมอยู่ใต้พระบัญญัติ?
9 เป็นผู้ที่ตายแล้วต่อการของเนื้อหนัง แต่มีชีวิตกับพระคริสต์ (2:13–3:17). แม้ว่าพวกเขาตายแล้วด้วยการล่วงละเมิดและการมิได้รับสุหนัต แต่พระเจ้าทรงทำให้พวกเขามีชีวิตด้วยกันกับพระคริสต์ โดยลบเอกสารพระบัญญัติที่เขียนไว้ซึ่งกล่าวโทษพวกยิว. “เหตุฉะนั้น อย่าให้ผู้ใดพิพากษา” พวกเขาเนื่องด้วยพระบัญญัติหรือการถือวันต่าง ๆ ตามพระบัญญัติซึ่งเป็นแต่เงาของตัวจริง คือพระคริสต์. นอกจากนั้น ถ้าพวกเขาตายแล้วร่วมกับพระคริสต์ต่อสิ่งพื้นฐานของโลก ไฉนพวกเขาจึงยอมอยู่ใต้กฎต่าง ๆ เช่น “อย่าจับ อย่าชิม อย่าแตะต้อง” ตามคำสั่งและคำสอนของมนุษย์? การนมัสการแบบโอ้อวดที่กำหนดขึ้นเอง, การแสร้งถ่อมตัว, การทรมานกาย เหล่านี้ไม่มีค่าอะไรในการต่อสู้กับความปรารถนาของเนื้อหนัง.—2:16, 21, ล.ม.
10. คนเราจะแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบนและสวมใส่บุคลิกภาพใหม่ต่อ ๆ ไปได้อย่างไร?
10 แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เปาโลแนะนำว่า “จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบนต่อไป ที่ที่พระคริสต์ทรงประทับนั่ง ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า. จงให้จิตใจของพวกท่านยึดมั่นเสมอกับสิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินโลก.” จะทำอย่างนั้นได้โดยการถอดทิ้งบุคลิกภาพเก่าและสวมบุคลิกภาพใหม่ ซึ่งโดยความรู้ถ่องแท้ ไม่ทำให้มีความแตกต่างใด ๆ ทางเนื้อหนังระหว่างชาวยิวและชาวกรีก ด้วยว่า “พระคริสต์ทรงเป็นทุกสิ่งและสถิตอยู่ในทุกสิ่ง.” “ในฐานะเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร” นั่นหมายถึงการสวมความรักใคร่อันอ่อนละมุนแห่งความเมตตา, ความกรุณา, จิตใจอ่อนน้อม, ความอ่อนโยน, และความอดกลั้นไว้นาน. ท่านอัครสาวกกล่าวว่า “พระยะโฮวาทรงให้อภัยท่านอย่างใจกว้างฉันใด ท่านทั้งหลายจงกระทำฉันนั้น. แต่นอกจากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด จงสวมตัวท่านด้วยความรัก เพราะความรักเป็นเครื่องเชื่อมสามัคคีที่ดีพร้อม.” ไม่ว่าโดยคำพูดหรือการกระทำ ควรทำทุกสิ่ง “ในนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยพระองค์.”—3:1, 2, 11-14, 17, ล.ม.
11. (ก) มีการให้คำแนะนำอะไรเกี่ยวกับครอบครัวและความสัมพันธ์อื่น ๆ? (ข) เปาโลส่งคำทักทายอะไรในคำลงท้าย?
11 ความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ (3:18–4:18). เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว ให้ภรรยายอมอยู่ใต้อำนาจสามี, และให้สามีรักภรรยา, ให้บุตรเชื่อฟังบิดามารดาและอย่าให้บิดายั่วบุตรให้ขัดเคืองใจ. ทาสจะต้องเชื่อฟังนายด้วยความเกรงกลัวพระยะโฮวา และนายจะต้องปฏิบัติต่อทาสด้วยความชอบธรรม. ให้ทุกคนหมั่นอธิษฐานและดำเนินต่อไปโดยใช้สติปัญญากับคนภายนอก. ตุคิโกและโอเนซิมุสจะเล่าให้พวกเขาฟังเองในเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับเปาโลและเพื่อนร่วมงานกับท่านเพื่อราชอาณาจักรของพระเจ้า. พวกท่านส่งคำทักทายมายังพี่น้องที่โกโลซาย และเปาโลยังทักทายพี่น้องที่ลาโอดิเคียด้วย ขอให้พวกเขาแลกเปลี่ยนจดหมายที่ท่านส่งมา. เปาโลเขียนคำลงท้ายจดหมายด้วยตนเองว่า “ขอให้ระลึกถึงเครื่องจองจำข้าพเจ้าต่อ ๆ ไป. ขอพระกรุณาอันไม่พึงได้รับจงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด.”—4:18, ล.ม.
เหตุที่เป็นประโยชน์
12. จดหมายที่เปาโลเขียนถึงคริสเตียนชาวโกโลซายบอกความจริงอะไรซึ่งทำให้สดชื่น และก่อประโยชน์อย่างไรแก่ประชาคม?
12 เรานึกภาพออกว่าข่าวการมาถึงของพี่น้องสองคนจากโรมจะแพร่ไปท่ามกลางพวกพี่น้องในโกโลซายอย่างรวดเร็วเพียงไร. พวกเขาคงประชุมกันด้วยความคาดหมายอย่างแรงกล้าเพื่อฟังการอ่านจดหมายของเปาโล อาจเป็นที่บ้านฟิเลโมนก็ได้. (ฟิเล. 2) จดหมายนี้บอกความจริงอันน่าชื่นใจจริง ๆ เกี่ยวกับฐานะที่แน่นอนของพระคริสต์และความจำเป็นต้องมีความรู้ถ่องแท้! ปรัชญาของมนุษย์กับประเพณีของชาวยิวถูกทำให้เงียบ และสันติสุขและพระคำของพระคริสต์ได้รับการเชิดชูอย่างชัดแจ้งเพียงไร! นี่คือการบำรุงจิตใจและหัวใจสำหรับทุกคนในประชาคม ทั้งผู้ดูแล, สามี, ภรรยา, บิดา, บุตร, นาย, และทาส. แน่นอนว่ามีคำแนะนำที่ดีสำหรับฟิเลโมนและโอเนซิมุสเมื่อเขาทั้งสองกลับมามีความสัมพันธ์ฉันนายกับทาสอีก. เป็นแบบอย่างที่ดีจริง ๆ แก่ผู้ดูแลในการนำฝูงแกะกลับมาสู่คำสอนที่ถูกต้อง! ถ้อยคำของเปาโลนับว่าช่วยจริง ๆ ในการปรับปรุงความหยั่งรู้ค่าที่ชาวโกโลซายมีต่อสิทธิพิเศษแห่งการทำงานสุดจิตวิญญาณแด่พระยะโฮวา! และคำแนะนำที่เสริมสร้างแก่คริสเตียนชาวโกโลซายในเรื่องการเป็นอิสระจากการเป็นทาสของแนวคิดและกิจปฏิบัติของโลกยังคงเป็นข่าวสารที่ใช้การได้อยู่สำหรับประชาคมในทุกวันนี้.—โกโล. 1:9-11, 17, 18; 2:8; 3:15, 16, 18-25; 4:1.
13. เปาโลให้คำเตือนสติอะไรเกี่ยวกับถ้อยคำที่สุภาพอ่อนโยน, คำอธิษฐาน, และการคบหาแบบคริสเตียน?
13 คำแนะนำอันดีเยี่ยมสำหรับคริสเตียนผู้เผยแพร่มีบอกไว้ที่โกโลซาย 4:6 ว่า “ให้วาจาของท่านทั้งหลายประกอบด้วยความสุภาพอ่อนโยนเสมอ ปรุงรสด้วยเกลือ เพื่อจะรู้ว่าท่านควรให้คำตอบแต่ละคนอย่างไร.” ถ้อยคำที่สุภาพอ่อนโยนแห่งความจริงจะดึงดูดผู้มีหัวใจสุจริตและเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ถาวรของพวกเขา. นอกจากนั้น การอธิษฐานอย่างตื่นตัวของคริสเตียนซึ่งทูลจากหัวใจที่หยั่งรู้ค่าย่อมนำมาซึ่งพระพรอันอุดมจากพระยะโฮวา: “จงเพียรอธิษฐาน ตื่นตัวอยู่เสมอในการอธิษฐานพร้อมด้วยการขอบพระคุณ.” และนับเป็นความยินดีและความสดชื่นที่ให้การเสริมสร้างจริง ๆ ที่พบได้ในการคบหาแบบคริสเตียน! เปาโลกล่าวว่า “จงสอนและเตือนสติกันเสมอ . . . โดยร้องเพลงในหัวใจท่านแด่พระยะโฮวา.” (4:2, ล.ม.; 3:16, ล.ม.) คุณจะพบอัญมณีอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นคำสั่งสอนที่สุขุมและใช้ได้ผลขณะที่คุณค้นคว้าจดหมายที่เขียนถึงคริสเตียนชาวโกโลซายโดยตลอด.
14. (ก) มีการเน้นความเป็นจริงอะไรในพระธรรมโกโลซาย? (ข) ความหวังเรื่องราชอาณาจักรได้รับการเน้นอย่างไร?
14 เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระบัญญัติ จดหมายนี้บอกว่า “สิ่งเหล่านั้นเป็นเงาของสิ่งที่จะมีมา แต่ความเป็นจริงเป็นของพระคริสต์.” (2:17, ล.ม.) มีการเน้นความเป็นจริงข้อนี้ของพระคริสต์ในพระธรรมโกโลซาย. มีหลายครั้งที่จดหมายนี้กล่าวถึงความหวังอันรุ่งโรจน์ซึ่งสงวนไว้ในสวรรค์สำหรับผู้ที่ร่วมสามัคคีกับพระคริสต์. (1:5, 27; 3:4) คนเหล่านั้นควรรู้สึกขอบพระคุณอย่างยิ่งที่พระบิดาทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากอำนาจของความมืดและย้ายพวกเขา “เข้าสู่ราชอาณาจักรแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์.” ดังนั้น พวกเขาจึงอยู่ใต้อำนาจพระองค์ผู้ทรงเป็น “แบบพระฉายของพระเจ้าผู้ซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา เป็นผู้แรกที่บังเกิดก่อนสรรพสิ่งทรงสร้าง; เพราะโดยพระองค์ สิ่งอื่นทั้งสิ้นถูกสร้างขึ้นทั้งในสวรรค์และที่แผ่นดินโลก สิ่งที่เห็นได้และสิ่งที่เห็นไม่ได้ ไม่ว่าบัลลังก์หรือบรรดาศักดิ์ หรือการปกครองหรือสิทธิอำนาจ.” พระองค์ผู้นี้มีคุณสมบัติดีเลิศที่จะปกครองด้วยความชอบธรรมในราชอาณาจักรของพระเจ้า. ดังนั้น เปาโลจึงเตือนสติคริสเตียนผู้ถูกเจิมว่า “แต่ถ้าท่านทั้งหลายถูกปลุกให้เป็นขึ้นมากับพระคริสต์ จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบนต่อไป ที่ที่พระคริสต์ทรงประทับนั่ง ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า.”—1:12-16, ล.ม.; 3:1, ล.ม.
[เชิงอรรถ]
a พจนานุกรมคัมภีร์ไบเบิลของเวสต์มินสเตอร์ฉบับใหม่ 1970 หน้า 181.