พระพรแห่งงานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์
“พระพรของพระยะโฮวากระทำให้เกิดความมั่งคั่ง; และพระองค์จะไม่เพิ่มความทุกข์ยากให้เลย.”—สุภาษิต 10:22.
1, 2. (ก) ไพโอเนียร์คนหนึ่งแสดงความรู้สึกของเขาอย่างไรเกี่ยวกับงานรับใช้เต็มเวลา? (ข) เหตุใดไพโอเนียร์อยู่ในฐานะที่จะประสบความยินดีได้มากกว่าในการทำให้คนเป็นสาวก?
“มีความชื่นชมยินดีใดไหมที่ยิ่งใหญ่กว่าการเห็นคนที่คุณสอนกลายมาเป็นผู้สรรเสริญที่เอาการเอางานของพระยะโฮวา? นับว่าน่าตื่นเต้นและเสริมความเชื่อทีเดียวที่ได้เห็นว่าพระคำของพระเจ้ามีพลังสักเพียงไรในการโน้มน้าวผู้คนให้เปลี่ยนชีวิตของตนเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอพระทัย.” ไพโอเนียร์คนหนึ่งที่แคนาดาซึ่งอยู่ในงานรับใช้เต็มเวลากว่า 32 ปีเขียนมาดังข้างต้น. เกี่ยวกับงานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์ เขากล่าวว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะไปทำสิ่งอื่น. ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ว่ามีสิ่งใดที่จะนำมาซึ่งความยินดีอย่างนี้ได้.”
2 คุณเห็นด้วยไหมว่า มีความยินดีอย่างยิ่งในการมีส่วนร่วมช่วยคนให้เข้ามาอยู่ในแนวทางสู่ชีวิต? แน่นอน ไพโอเนียร์ไม่ใช่พวกเดียวที่ประสบความยินดีเช่นนั้น. ผู้รับใช้ทุกคนของพระยะโฮวาได้รับมอบหมายในการ “ทำให้ชนจากทุกชาติเป็นสาวก” และพวกเขาพยายามทำตามการมอบหมายนี้. (มัดธาย 28:19, ล.ม.) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไพโอเนียร์สามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงในงานรับใช้ พวกเขามักอยู่ในฐานะที่จะประสบความยินดีแห่งการทำให้คนเป็นสาวกได้มากกว่า. แต่การเป็นไพโอเนียร์มีผลตอบแทนอื่น ๆ ด้วย. จงคุยกับไพโอเนียร์ และเขาจะบอกคุณว่าการเป็นไพโอเนียร์นั้นเป็นแนวทางอันวิเศษที่จะประสบ ‘พระพรของพระยะโฮวาซึ่งกระทำให้เกิดความมั่งคั่ง.’—สุภาษิต 10:22.
3. อะไรอาจกระตุ้นเราขณะที่เรารับใช้พระยะโฮวาต่อ ๆ ไป?
3 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการขอให้ไพโอเนียร์จากส่วนต่าง ๆ ของโลกพรรณนาเกี่ยวกับพระพรที่พวกเขาได้รับในงานรับใช้เต็มเวลา. ให้เราพิจารณาสิ่งที่พวกเขากล่าว. อย่างไรก็ตาม อย่าท้อใจหากการรับใช้ของคุณถูกจำกัดเนื่องจากสุขภาพไม่ดี, อายุที่มากขึ้น, หรือสภาพการณ์อื่น ๆ. พึงจำไว้ว่า สิ่งสำคัญคือการรับใช้พระยะโฮวาด้วยสิ้นสุดจิตวิญญาณ ไม่ว่าในฐานะใดก็ตาม. ถึงกระนั้น การฟังความคิดเห็นของไพโอเนียร์อาจทำให้คุณมีความสนใจมากขึ้นที่จะรับเอางานนี้ที่ให้ผลตอบแทนยอดเยี่ยมหากเป็นไปได้.
ความรู้สึกอิ่มใจยินดีอย่างลึกซึ้ง
4, 5. (ก) เหตุใดการแบ่งปันข่าวดีให้กับคนอื่นจึงเป็นประสบการณ์ซึ่งให้ผลตอบแทนมาก? (ข) เหล่าไพโอเนียร์รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการมีส่วนในงานรับใช้เต็มเวลา?
4 พระเยซูตรัสว่า “การให้ทำให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ.” (กิจการ 20:35, ล.ม.) ถูกแล้ว การให้อย่างไม่เห็นแก่ตัวมีผลตอบแทนอยู่ในตัว. (สุภาษิต 11:25) นี่เป็นจริงโดยเฉพาะ เมื่อแบ่งปันข่าวดีแก่คนอื่น ๆ. ที่จริง มีของขวัญอะไรอีกที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่เราช่วยเพื่อนมนุษย์ให้ได้รับความรู้ของพระเจ้า ซึ่งนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์?—โยฮัน 17:3.
5 ไม่น่าแปลก คนที่มีส่วนในงานรับใช้เต็มเวลามักกล่าวถึงความยินดีและความอิ่มใจอย่างลึกซึ้งในความสำเร็จผลที่เขาประสบในงานรับใช้ของตน. ไพโอเนียร์คนหนึ่งจากบริเตนอายุ 64 ปีกล่าวดังนี้: “ผมรู้ว่าไม่มีงานอื่นใดอาจนำความอิ่มใจพอใจเช่นนี้ อันเป็นผลมาจากการแบ่งปันความจริงกับคนอื่น.” หญิงม่ายคนหนึ่งจากซาอีร์พรรณนาว่าการเป็นไพโอเนียร์มีความหมายเช่นไรสำหรับเธอ: “งานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์เป็นที่ปลอบประโลมอย่างแท้จริงสำหรับดิฉันหลังจากสามีที่รักของดิฉันเสียชีวิต. ยิ่งดิฉันออกไปในงานรับใช้เพื่อช่วยคนอื่นมากเท่าใด ดิฉันก็ยิ่งรู้สึกโศกเศร้าในความสูญเสียน้อยลงเท่านั้น. ดิฉันเชื่อวางใจในคำสัญญาของพระยะโฮวาและคิดถึงแต่ว่า ดิฉันจะช่วยคนที่ดิฉันกำลังนำการศึกษาให้เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาได้อย่างไร. ในตอนสิ้นสุดของแต่ละวัน ดิฉันหลับสบาย และหัวใจดิฉันเต็มไปด้วยความเบิกบานยินดี.”
6. ไพโอเนียร์บางคนประสบความยินดีเป็นพิเศษอะไรบ้าง?
6 บางคนที่เป็นไพโอเนียร์มาแล้วหลายสิบปีได้ประสบความยินดีเป็นพิเศษที่ได้รับใช้ในเขตงานที่อยู่ห่างไกล ช่วยก่อตั้งประชาคมต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งในที่สุดก็ได้เติบโตจนกลายเป็นหมวด. ตัวอย่างเช่น ที่อาบะชิรี ฮอกไกโด (เกาะเหนือสุดของญี่ปุ่น) มีพี่น้องหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นไพโอเนียร์มาแล้ว 33 ปี. เธอเล่าถึงความหลังตอนที่ร่วมการประชุมหมวดเป็นครั้งแรก—ทั่วทั้งเกาะฮอกไกโด—มีผู้เข้าร่วมเพียง 70 คน. แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะ? มีถึง 12 หมวดบนเกาะนี้ พร้อมกับมียอดผู้ประกาศมากกว่า 12,000 คน. นึกภาพดูเถอะว่าหัวใจเธอเต็มล้นด้วยความยินดีสักเพียงไรเมื่อเธอเข้าร่วมการประชุมหมวดและการประชุมภาคร่วมกับฝูงชนซึ่งเป็นเพื่อนผู้ประกาศราชอาณาจักรด้วยกันบนเกาะนั้น!
7, 8. คนที่เป็นไพโอเนียร์มานานส่วนใหญ่ประสบความยินดีเช่นไร?
7 คนอื่น ๆ ที่เป็นไพโอเนียร์มานานประสบความยินดีที่ได้เห็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลรับบัพติสมาและจากนั้นเอื้อมแขนรับสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่กว่าแห่งงานรับใช้. ที่ญี่ปุ่น พี่น้องหญิงคนหนึ่งซึ่งได้รับใช้ในงานมอบหมายไพโอเนียร์ในที่ต่าง ๆ เก้าแห่งนับตั้งแต่ปี 1957 ได้เล่าถึงเรื่องการเสนอวารสารตื่นเถิด! กับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งทำงานในธนาคาร. ภายในเก้าเดือนหญิงสาวคนนี้ได้รับบัพติสมา. ต่อมา เธอแต่งงาน แล้วทั้งเธอและสามีก็ได้เป็นไพโอเนียร์พิเศษ. พี่น้องหญิงไพโอเนียร์คนนี้รู้สึกปลื้มใจยินดีสักเพียงไรในตอนที่เธอได้รับเขตมอบหมายใหม่เป็นครั้งที่สาม และประชาคมของเธอได้รับการเยี่ยมจากผู้ดูแลหมวดคนใหม่พร้อมกับภรรยาของเขาซึ่งก็คือหญิงสาวที่เคยเป็นนักศึกษาพระคัมภีร์ของเธอนั่นเอง!
8 ไม่แปลกที่คนซึ่งได้ทำงานรับใช้ฐานะไพโอเนียร์มองดูงานนี้อย่างที่คนหนึ่งซึ่งเป็นไพโอเนียร์มา 22 ปีได้แสดงความรู้สึกไว้ว่าเป็น “สิทธิพิเศษอันล้ำค่าที่ต้องรักษาไว้”!
หลักฐานเกี่ยวกับการดูแลของพระยะโฮวา
9. ในฐานะพระผู้จัดเตรียมองค์ยิ่งใหญ่ พระยะโฮวาทรงสัญญาอะไรกับผู้รับใช้ของพระองค์ และเรื่องนี้มีความหมายเช่นไรสำหรับเรา?
9 พระยะโฮวา พระผู้จัดเตรียมองค์ยิ่งใหญ่ทรงสัญญาว่าจะค้ำจุนไพร่พลของพระองค์ โดยดูแลพวกเขาทางฝ่ายวิญญาณและฝ่ายวัตถุ. กษัตริย์ดาวิดแห่งโบราณกาลกล่าวได้อย่างเต็มปากทีเดียวว่า “ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นคนหนุ่ม, จนบัดนี้เป็นคนชราแล้ว; ข้าพเจ้าก็ยังไม่เคยเห็นคนสัตย์ธรรมต้องถูกละทิ้งเสีย, ไม่เคยเห็นพงศ์พันธุ์ของเขาขอทาน.” (บทเพลงสรรเสริญ 37:25) แน่นอน การรับรองที่มาจากพระเจ้าข้อนี้ไม่ได้ปลดเปลื้องเราจากพันธะในการจัดหาสิ่งฝ่ายวัตถุสำหรับครอบครัว อีกทั้งไม่ได้ให้สิทธิ์แก่เราที่จะทึกทักเอาความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากพี่น้องคริสเตียนของเรา. (1 เธซะโลนิเก 4:11, 12; 1 ติโมเธียว 5:8) กระนั้นก็ตาม เมื่อเราเต็มใจถวายชีวิตเพื่อรับใช้พระยะโฮวามากยิ่งขึ้น พระองค์จะไม่ทรงละทิ้งเรา.—มัดธาย 6:33.
10, 11. จากประสบการณ์ ไพโอเนียร์หลายคนทราบอะไรเกี่ยวกับความสามารถของพระยะโฮวาในการจัดสิ่งจำเป็นให้?
10 ไพโอเนียร์ทั่วโลกทราบจากประสบการณ์ว่า พระยะโฮวาทรงเลี้ยงดูคนที่ทอดตัวอยู่ในการดูแลของพระองค์. ขอให้พิจารณากรณีของสามีภรรยาไพโอเนียร์คู่หนึ่งที่ย้ายไปยังเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีความต้องการผู้ประกาศราชอาณาจักรมากกว่า. หลังจากผ่านไปสองสามเดือน งานหาเลี้ยงชีพเริ่มหาได้ยาก และเงินออมของเขาก็หมดลง. จากนั้น ทั้งคู่ก็ได้รับใบเรียกเก็บเงินจากบริษัทประกันรถยนต์เป็นจำนวนเงิน 2,400 บาท. พี่น้องชายผู้เป็นสามีเล่าว่า “เราไม่มีทางจ่ายเบี้ยประกันนี้ได้เลย. ในคืนนั้นเราอธิษฐานอย่างแรงกล้า.” วันต่อมา ทั้งสองได้รับบัตรจากครอบครัวหนึ่งซึ่งพวกเขาเองก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนทางการเงินอยู่เหมือนกัน. ในบัตรนั้นอธิบายไว้ว่าครอบครัวนี้ได้รับการคืนภาษีจำนวนหนึ่ง และเนื่องจากเงินจำนวนนี้มากกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้ จึงอยากแบ่งบางส่วนให้แก่คู่สมรสไพโอเนียร์คู่นี้. สิ่งที่แนบมาด้วยคือเช็คจำนวนเงิน 2,400 บาท! ไพโอเนียร์ผู้เป็นสามีกล่าวว่า “ผมจะไม่มีวันลืมวันนั้นได้เลย—ผมรู้สึกขนลุกเลยทีเดียว! เราหยั่งรู้ค่าความเอื้อเฟื้อของครอบครัวนี้มาก.” เช่นเดียวกัน พระยะโฮวาทรงหยั่งรู้ค่าความกรุณาเช่นนั้นซึ่งเป็นลักษณะของความมีใจกว้างที่พระองค์สนับสนุนให้ผู้รับใช้ของพระองค์มี.—สุภาษิต 19:17; เฮ็บราย 13:16.
11 ไพโอเนียร์หลายคนจะเล่าประสบการณ์คล้าย ๆ กันนี้ได้. ลองถามพวกเขาดู และเขาจะบอกคุณว่าเขาไม่เคยถูก “ละทิ้งเสีย.” เมื่อมองย้อนกลับในช่วง 55 ปีในงานรับใช้เต็มเวลา ไพโอเนียร์คนหนึ่งที่อายุ 72 ปี กล่าวว่า “พระยะโฮวาไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง.”—เฮ็บราย 13:5, 6.
“วิธีที่ดีเยี่ยมที่จะเข้าใกล้ชิดกับ พระยะโฮวามากขึ้น”
12. เหตุใดงานประกาศข่าวดีเป็นสิทธิพิเศษอันยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง?
12 การที่พระยะโฮวาถึงกับทรงขอเราให้ประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระองค์ทำให้เรามีสิทธิพิเศษ. พระองค์ทรงถือว่าเราเป็น “ผู้ร่วมทำการด้วยกัน” กับพระองค์ในกิจกรรมช่วยชีวิตนี้แม้เราเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์. (1 โกรินโธ 3:9; 1 ติโมเธียว 4:16) ขณะที่เราสั่งสอนคนอื่นเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้า, ขณะที่เราประกาศถึงอวสานของความชั่วช้า, และขณะที่เราอธิบายแก่ประชาชนถึงความรักอันมหัศจรรย์ของพระองค์ในการจัดเตรียมค่าไถ่, ขณะที่เราเปิดพระคำของพระองค์และสอนเนื้อหาอันล้ำค่านั้นแก่คนที่มีหัวใจสุจริต นั่นย่อมชักนำเราให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับพระยะโฮวา พระผู้สร้างของเรา.—บทเพลงสรรเสริญ 145:11; โยฮัน 3:16; เฮ็บราย 4:12.
13. บางคนกล่าวไว้เช่นไรเกี่ยวกับผลของงานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์ที่มีต่อสัมพันธภาพของเขากับพระยะโฮวา?
13 ไพโอเนียร์สามารถใช้เวลามากในแต่ละเดือนในการเรียนรู้และสอนเกี่ยวกับพระยะโฮวา. พวกเขารู้สึกอย่างไรในเรื่องนี้ที่มีผลต่อสัมพันธภาพของเขากับพระเจ้า? ผู้ปกครองคนหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นไพโอเนียร์มาแล้วสิบกว่าปีตอบว่า “การเป็นไพโอเนียร์เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมที่ทำให้ใกล้ชิดกับพระยะโฮวามากขึ้น.” ไพโอเนียร์อีกคนหนึ่งในประเทศเดียวกันซึ่งทำงานรับใช้เต็มเวลามาได้ 18 ปีแล้ว กล่าวว่า “งานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์ทำให้เราสามารถ ‘ชิมดูแล้วรู้ว่าพระยะโฮวาทรงเป็นองค์ประเสริฐ’ แต่ละวันที่ผ่านไปจะช่วยสานทอสัมพันธภาพที่มีกับพระผู้สร้างของเราให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ.” (บทเพลงสรรเสริญ 34:8) พี่น้องหญิงคนหนึ่งในบริเตนซึ่งเป็นไพโอเนียร์มาได้ 30 ปีแล้วรู้สึกคล้าย ๆ กัน. เธอกล่าวว่า “การให้พระวิญญาณของพระยะโฮวาชี้นำในงานรับใช้ทำให้ดิฉันใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับพระองค์. ดิฉันรู้สึกจริง ๆ ว่า พระวิญญาณของพระยะโฮวาทรงนำดิฉันในหลาย ๆ โอกาสให้ไปยังบ้านหลังใดหลังหนึ่งในเวลาที่เหมาะเจาะ.”—เทียบกับกิจการ 16:6-10.
14. ไพโอเนียร์ได้รับผลประโยชน์อย่างไรจากการใช้คัมภีร์ไบเบิลและสรรพหนังสือซึ่งอาศัยพระคัมภีร์เป็นหลักวันแล้ววันเล่าในการสอนคนอื่น?
14 ไพโอเนียร์หลายคนพบว่าการใช้คัมภีร์ไบเบิลและสรรพหนังสือที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลักวันแล้ววันเล่าในการอธิบายและสอนความจริงตามหลักพระคัมภีร์ช่วยพวกเขาให้เติบโตขึ้นในความรู้เกี่ยวกับพระคำของพระเจ้า. พี่น้องชายคนหนึ่งที่ประเทศสเปนอายุ 85 ปีและเป็นไพโอเนียร์มาแล้ว 31 ปีอธิบายดังนี้: “การเป็นไพโอเนียร์ได้ช่วยผมให้ได้รับความรู้ที่ลึกซึ้งในคัมภีร์ไบเบิล ความรู้ซึ่งผมได้ใช้เพื่อช่วยหลายคนให้มารู้จักพระยะโฮวาและพระประสงค์ของพระองค์.” พี่น้องหญิงคนหนึ่งจากบริเตนซึ่งได้อยู่ในงานไพโอเนียร์มาเป็นเวลา 23 ปีแล้วกล่าวว่า “งานรับใช้เต็มเวลาช่วยดิฉันปลูกฝังความหิวกระหายอย่างมากต่ออาหารฝ่ายวิญญาณ.” การอธิบายกับคนอื่นถึง ‘เหตุผลสำหรับความหวังของคุณ’ สามารถเสริมความเชื่อมั่นของคุณเองในเรื่องความเชื่อที่คุณถือว่ามีค่ายิ่ง. (1 เปโตร 3:15) ไพโอเนียร์คนหนึ่งจากออสเตรเลียกล่าวดังนี้: “การเป็นไพโอเนียร์ช่วยพัฒนาความเชื่อของผมขณะที่ผมได้พูดกับคนอื่น ๆ.”
15. หลายคนเต็มใจทำอะไรเพื่อเข้าสู่งานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์และรักษาฐานะนี้เอาไว้ และเพราะเหตุใด?
15 เห็นได้ชัดว่า ไพโอเนียร์ผู้รับใช้เหล่านี้มั่นใจว่าพวกเขาได้เลือกแบบแห่งการรับใช้ที่นำมาซึ่งพระพรเหลือคณานับจากพระยะโฮวา. ไม่แปลกที่หลายคนเต็มใจทำการปรับเปลี่ยนในชีวิตของตน ถึงกับสละงานอาชีพฝ่ายโลกและความมั่งคั่งทางวัตถุ แล้วเข้าสู่งานรับใช้ฐานะไพโอเนียร์และรักษาฐานะนี้เอาไว้!—สุภาษิต 28:20.
หัวใจคุณปรารถนาที่จะทำมากขึ้นไหม?
16, 17. (ก) หากคุณสงสัยอยู่ว่าจะเป็นไพโอเนียร์ได้หรือไม่ คุณอาจทำเช่นไร? (ข) บางคนรู้สึกอย่างไรเมื่อไม่สามารถเป็นไพโอเนียร์ได้?
16 หลังจากพิจารณาคำพูดของไพโอเนียร์เกี่ยวกับพระพรต่าง ๆ แห่งงานรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์แล้ว คุณอาจสงสัยอยู่ว่าคุณมีทางจะเป็นไพโอเนียร์ได้หรือไม่. ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่คุยกับไพโอเนียร์ที่ประสบความสำเร็จในงานรับใช้เต็มเวลาดูล่ะ? คุณอาจพบด้วยว่าเป็นประโยชน์ที่จะคุยกับผู้ปกครองในประชาคม ใครสักคนที่รู้จักคุณ—รู้จักสภาพสุขภาพ, ข้อจำกัดต่าง ๆ, และหน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัวของคุณ. (สุภาษิต 15:22) ความเห็นของคนอื่นซึ่งกล่าวตามจริงอาจช่วยคุณตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าคุณจะเป็นไพโอเนียร์ได้หรือไม่. (เทียบกับลูกา 14:28.) หากคุณสามารถเป็นไพโอเนียร์ได้ คุณจะได้รับพระพรที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง.—มาลาคี 3:10.
17 อย่างไรก็ตาม จะว่าอย่างไรสำหรับผู้ประกาศราชอาณาจักรที่ซื่อสัตย์หลายคนซึ่งไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นไพโอเนียร์ได้ แม้ว่าเขาอาจปรารถนาอย่างยิ่งที่จะทำมากขึ้นในงานรับใช้? ตัวอย่างเช่น ขอให้พิจารณาความรู้สึกของพี่น้องหญิงคริสเตียนคนหนึ่งซึ่งต้องดิ้นรนเลี้ยงดูลูกสี่คนแต่ลำพังเธอเอง. เธอกล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย เพราะตัวเองเคยเป็นไพโอเนียร์ประจำ แต่เดี๋ยวนี้สภาพการณ์ไม่อำนวย ดิฉันจึงไม่สามารถรับใช้ในเขตงานรับใช้ได้มากเหมือนเคย.” พี่น้องหญิงคนนี้รักลูก ๆ มากและต้องการจัดหาให้พวกเขามีสิ่งจำเป็น. ขณะเดียวกัน เธอก็ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะทำมากขึ้นในงานประกาศ. เธออธิบายว่า “ดิฉันรักงานรับใช้.” คริสเตียนที่ได้อุทิศตัวคนอื่น ๆ ซึ่งความรักต่อพระเจ้ากระตุ้นพวกเขาให้รับใช้พระยะโฮวา “ด้วยสุดใจ” ต่างก็รู้สึกคล้าย ๆ กันด้วย.—บทเพลงสรรเสริญ 86:12.
18. (ก) พระยะโฮวาทรงคาดหมายอะไรจากเรา? (ข) เหตุใดเราไม่ควรท้อใจหากสภาพการณ์จำกัดสิ่งที่เราสามารถทำได้?
18 พึงระลึกไว้เสมอว่าพระยะโฮวาทรงคาดหมายการรับใช้ด้วยสิ้นสุดจิตวิญญาณจากเรา. การรับใช้ด้วยสิ้นสุดจิตวิญญาณดังกล่าวจะมากน้อยแค่ไหนนั้นอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละคน. บางคนสามารถปรับกิจธุระและการงานของตนเพื่อรับใช้เป็นไพโอเนียร์ประจำ. คนอื่นอีกจำนวนมากสมัครเป็นไพโอเนียร์สมทบ บางคนสมัครเป็นครั้งคราว บางคนเป็นอย่างต่อเนื่อง แต่ละเดือนใช้เวลา 60 ชั่วโมงในงานรับใช้. อย่างไรก็ตาม ไพร่พลพระยะโฮวาส่วนใหญ่ทุ่มเทตัวเพื่องานประกาศและสั่งสอนอย่างสิ้นสุดจิตวิญญาณในฐานะผู้ประกาศประจำประชาคม. ดังนั้น หากคุณถูกจำกัดจริง ๆ ด้วยสุขภาพไม่ดี, อายุมาก, หน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัว, หรือสภาพการณ์อื่น ๆ ในชีวิต ก็อย่าได้ท้อใจ. ตราบใดที่คุณได้ให้สิ่งดีที่สุด งานรับใช้ของคุณย่อมมีค่าในสายพระเนตรพระเจ้า เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในงานรับใช้เต็มเวลา!
ทุกคนสามารถแสดงน้ำใจไพโอเนียร์
19. น้ำใจไพโอเนียร์คืออะไร?
19 แม้ว่าคุณอาจไม่สามารถสมัครเป็นไพโอเนียร์ คุณอาจแสดงน้ำใจไพโอเนียร์ได้. น้ำใจไพโอเนียร์คืออะไร? พระราชกิจของเรา ประจำเดือนกรกฎาคม 1988 บอกดังนี้: “คำนี้อาจจะนิยามได้ว่า เป็นคนมีทัศนะในแง่บวกต่อคำสั่งให้ทำการประกาศและทำให้คนเป็นสาวก ตั้งใจแสดงความรักและความห่วงใยแก่ประชาชน เป็นคนเสียสละตัวเอง ประสบความสุขในการติดตามพระเยซูอย่างใกล้ชิด และได้รับความยินดีจากสิ่งฝ่ายวิญญาณไม่ใช่ฝ่ายวัตถุ.” คุณจะแสดงน้ำใจไพโอเนียร์ได้อย่างไร?
20. บิดามารดาจะแสดงน้ำใจไพโอเนียร์ได้อย่างไร?
20 ถ้าคุณเป็นบิดาหรือมารดาซึ่งมีลูกที่อยู่ในวัยเยาว์ คุณสามารถสนับสนุนเขาอย่างสุดใจให้ยึดเอางานรับใช้เป็นไพโอเนียร์. เจตคติทางบวกของคุณที่มีต่องานรับใช้อาจทำให้เขาสำนึกถึงความจำเป็นที่จะทำให้การรับใช้พระยะโฮวาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา. คุณอาจเชิญไพโอเนียร์และผู้ดูแลเดินทางกับภรรยาเขามาที่บ้าน เพื่อลูก ๆ สามารถได้รับประโยชน์จากตัวอย่างของคนที่ได้พบความยินดีในงานรับใช้เต็มเวลา. (เทียบกับเฮ็บราย 13:7.) แม้แต่ในครอบครัวที่ความเชื่อทางศาสนาต่างกัน บิดาหรือมารดาซึ่งเป็นผู้มีความเชื่อสามารถช่วยลูก ๆ โดยทางคำพูดและการวางตัวอย่างให้ตั้งเป้าหมายในชีวิตจะรับใช้เต็มเวลา.—2 ติโมเธียว 1:5; 3:15.
21. (ก) เราทุกคนจะให้การสนับสนุนพี่น้องที่เป็นไพโอเนียร์ได้โดยวิธีใด? (ข) ผู้ปกครองสามารถทำอะไรได้เพื่อสนับสนุนไพโอเนียร์?
21 ในประชาคม เราทุกคนสามารถให้การสนับสนุนอย่างสุดใจแก่คนที่เป็นไพโอเนียร์ได้. ตัวอย่างเช่น คุณจะพยายามเป็นพิเศษที่จะทำงานร่วมกับไพโอเนียร์ในงานรับใช้ได้ไหม โดยเฉพาะในยามที่ไพโอเนียร์อาจต้องทำงานคนเดียว? คุณอาจจะเห็นว่าการทำเช่นนั้นเป็นการ “หนุนใจซึ่งกันและกัน.” (โรม 1:11, 12) หากคุณเป็นผู้ปกครอง คุณจะทำได้มากกว่านั้นอีกในการให้กำลังใจไพโอเนียร์. เมื่อคณะผู้ปกครองประชุมกัน พวกเขาควรพิจารณากันเป็นประจำถึงความจำเป็นของไพโอเนียร์. เมื่อไพโอเนียร์คนหนึ่งท้อแท้หรือประสบความยุ่งยากลำบาก อย่าด่วนแนะนำให้เขาเลิกงานไพโอเนียร์. ขณะที่การให้คำแนะนำอาจจำเป็นในบางกรณี อย่าลืมว่าการเป็นไพโอเนียร์เป็นสิทธิพิเศษล้ำค่าที่ผู้รับใช้เต็มเวลาคนนั้นอาจถือว่ามีค่ามาก. สิ่งที่นับว่าจำเป็นก็อาจมีเพียงแค่การให้กำลังใจและคำแนะนำหรือการช่วยเหลือบางอย่างที่ใช้การได้. สำนักงานสาขาของสมาคมที่สเปนเขียนมาดังนี้: “เมื่อผู้ปกครองสนับสนุนการเป็นไพโอเนียร์, สนับสนุนไพโอเนียร์ในเขตรับใช้, และบำรุงเลี้ยงพวกเขาเป็นประจำ ไพโอเนียร์ประสบความยินดีมากขึ้น, รู้สึกมีค่า, และต้องการรับใช้ต่อไปแม้ว่าอาจมีอุปสรรคบางอย่างเกิดขึ้น.”
22. ในเวลานี้ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติแห่งประวัติศาสตร์มนุษย์ เราควรตั้งใจแน่วแน่จะทำอะไร?
22 เรากำลังมีชีวิตอยู่ในช่วงวิกฤติแห่งประวัติศาสตร์มนุษย์. พระยะโฮวาได้ทรงมอบงานช่วยชีวิตให้เราทำให้สำเร็จ. (โรม 10:13, 14) ไม่ว่าเราสามารถมีส่วนร่วมในงานนี้ด้วยการรับใช้เต็มเวลาในฐานะไพโอเนียร์หรือไม่ก็ตาม ให้เราแสดงน้ำใจไพโอเนียร์. ให้เราสำนึกในเรื่องความเร่งด่วนและน้ำใจเสียสละตัวเอง. ให้เราตั้งใจแน่วแน่จะให้แก่พระยะโฮวาตามที่พระองค์ทรงเรียกเอาจากเรา กล่าวคือการรับใช้ด้วยสิ้นสุดจิตวิญญาณ. และให้เราจำไว้ว่า เมื่อเราให้ทั้งหมดที่เราสามารถให้ได้ ไม่ว่าการให้นั้นจะคล้ายกันกับเหรียญค่าเล็กน้อยของหญิงม่ายหรือน้ำมันราคาแพงของมาเรียก็แล้วแต่ งานรับใช้ที่เราทำเป็นแบบสิ้นสุดจิตวิญญาณ และพระยะโฮวาทรงถือว่างานรับใช้ด้วยสิ้นสุดจิตวิญญาณของเรานั้นมีค่ามาก!
คุณจำได้ไหม?
▫ เหตุใดงานรับใช้เต็มเวลานำมาซึ่งความรู้สึกอิ่มใจและชื่นชมยินดี?
▫ จากประสบการณ์ ไพโอเนียร์หลายคนทราบอะไรเกี่ยวกับความสามารถของพระยะโฮวาในการดูแลผู้รับใช้พระองค์?
▫ ตามความรู้สึกของไพโอเนียร์งานรับใช้ของเขามีผลกระทบเช่นไรต่อสัมพันธภาพที่มีกับพระยะโฮวา?
▫ คุณจะแสดงน้ำใจไพโอเนียร์ได้อย่างไร?
[รูปภาพหน้า 23]
ไพโอเนียร์ได้รับความยินดีอย่างยิ่งจากการทำให้คนเป็นสาวก
[รูปภาพหน้า 23]
ลูก ๆ คุณสามารถได้รับประโยชน์จากการคบหาสมาคมกับผู้ประกาศราชอาณาจักรเต็มเวลา
[รูปภาพหน้า 23]
ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนไพโอเนียร์ได้ในเขตงานรับใช้