การศึกษาหนังสือประจำประชาคม
ตอนที่ 3: การเยี่ยมของผู้ดูแลการรับใช้
1 ผู้ดูแลการรับใช้ควรเป็นผู้เผยแพร่ข่าวดีและเป็นครูด้วย. เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยประชาคมให้ทำหน้าที่รับผิดชอบในการประกาศและสั่งสอนข่าวดีในเขตทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ. (มโก. 13:10) เมื่อเขากระทำหน้าที่รับผิดชอบอย่างเอาจริงเอาจังและทุกคนให้ความร่วมมือ ผู้ประกาศทั้งหลายก็จะพัฒนาความชำนาญมากขึ้นในการเสนอข่าวดีและจะมีการทำงานทั่วถึงเขตทำงานมากขึ้น.
2 ผู้ดูแลการรับใช้เอาใจใส่ในการกระตุ้นให้มีกิจกรรมการประกาศมากขึ้น. แรกที่สุด สิ่งนี้สำเร็จได้โดยทางกลุ่มการศึกษาหนังสือประจำประชาคม. โดยปกติแล้ว ผู้ดูแลการรับใช้ได้รับมอบหมายให้นำการศึกษากลุ่มหนึ่ง แต่เมื่อเขาไปเยี่ยมกลุ่มการศึกษาอื่นเดือนละครั้ง ผู้ช่วยของเขาจะทำหน้าที่แทน.
3 การเตรียมตัวสำหรับการเยี่ยม: ก่อนหน้าสัปดาห์การเยี่ยม ผู้ดูแลการรับใช้ควรตรวจดูบันทึกของผู้ประกาศของประชาคมของผู้ที่สมทบกับกลุ่มที่จะเยี่ยม. นอกจากนั้น เขาควรจัดเตรียมที่จะพบกับผู้นำการศึกษาของกลุ่มนั้นและทบทวนดูกิจกรรมของผู้ประกาศที่ได้รับมอบหมายให้อยู่ในกลุ่มนี้. ผู้นำการศึกษาอาจแจ้งให้ผู้ดูแลการรับใช้ทราบเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรับใช้หรือความจำเป็นต่าง ๆ ที่อาจไม่ปรากฏให้เห็นจากใบบันทึกผู้ประกาศ. ผู้นำการศึกษาของกลุ่มควรได้รับการเตือนว่า การศึกษาควรกินเวลา 45 นาทีเพื่อให้มีเวลา 15 นาทีสำหรับคำบรรยายเรื่องการรับใช้โดยผู้ดูแลการรับใช้.
4 คำบรรยายนี้ควรมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การส่งเสริมความหยั่งรู้ค่ายิ่งขึ้นต่องานรับใช้. หากว่าผู้ประกาศต้องการความช่วยเหลือในบางลักษณะแห่งงานรับใช้ ผู้ดูแลการรับใช้ควรให้คำแนะนำที่ใช้การได้เพื่อการปรับปรุงแก้ไข. คำบรรยายของเขาควรเป็นไปในแง่เสริมสร้างและหนุนใจ เพื่อจะไม่ทำให้คนใดคนหนึ่งรู้สึกกระดากหรือท้อใจเนื่องจากความคิดเห็นในแง่ลบ. เพราะการทำเช่นนี้คงจะทำให้จุดประสงค์ของการเยี่ยมของเขาล้มเหลวไปเท่านั้น. คำบรรยายของเขาควรหนุนใจทุกคนให้ทำการปรับปรุงให้ดีขึ้น.
5 ผู้ดูแลการรับใช้พยายามจะให้ความเอาใจใส่เป็นรายบุคคลแก่พี่น้องชายหญิงให้มากเท่าที่เวลาจะอำนวย. เขาอาจทำการนัดหมายเพื่อทำงานกับพี่น้องหลายคนในงานรับใช้. ขณะที่ทำงานประกาศตามบ้านกับผู้ประกาศ เขาอาจให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เพื่อปรับปรุงการเสนอของพวกเขาได้. ควรทำสิ่งนี้ไม่ใช้ด้วยท่าทีแบบวิพากษ์วิจารณ์แต่ด้วยความปรารถนาอย่างจริงใจเพื่อให้เป็นประโยชน์. เขาอาจเสนอที่จะไปกับผู้ประกาศในการกลับเยี่ยมเยียนและการศึกษาได้ด้วย. หากปรากฏว่ามีคนใดในกลุ่มต้องการความช่วยเหลือเป็นส่วนตัว เขาอาจทำการเยี่ยมเพื่อบำรุงเลี้ยงในระหว่างสัปดาห์นั้นเพื่อช่วยเหลือเขาได้. หลังจากนั้น เขาอาจแจ้งให้ผู้นำการศึกษาทราบเกี่ยวกับคำแนะนำต่าง ๆ ที่เขาได้ให้ไป. การเอาใจใส่เป็นส่วนตัวด้วยความอบอุ่นเช่นนี้เคยเป็นสิ่งที่กระตุ้นหนุนใจแก่บางคนซึ่งเคยท้อถอยในงานรับใช้ของเขา.
6 การประชุมเพื่อการประกาศ: การประชุมเพื่อการประกาศในสัปดาห์นั้นควรนำโดยผู้ดูแลการรับใช้. พวกเขาควรเริ่มตรงเวลาถึงแม้จะมีไม่กี่คนเข้าร่วม. การประชุมไม่ควรนานกว่า 10 หรือ 15 นาที. การพิจารณาข้อพระคัมภีร์ประจำวันจะมีหรือไม่ก็ได้. ก่อนที่กลุ่มจะแยกย้ายกันออกไป ทุกคนควรทราบว่าจะทำงานที่ไหนและกับใคร. (1 โก. 14:33, 40) ผู้ดูแลการรับใช้ควรสนับสนุนทุกคนให้ออกไปเพื่อประกาศโดยไม่ชักช้า.
7 การที่ผู้ดูแลการรับใช้ไปเยี่ยมตามกลุ่มการศึกษาเป็นประจำอาจเป็นพระพรอย่างแท้จริงแก่ประชาคมได้. โดยการที่เราทุกคนให้ความร่วมมือกับเขาเมื่อเขาเยี่ยมที่กลุ่ม งานรับใช้ของเราก็จะเป็นระเบียบและบังเกิดผล. ยิ่งกว่านั้น เขาจะได้รับความยินดีจากการงานของเขา. (เฮ็บ. 13:17) บุคคลเยี่ยงแกะจะถูกรวบรวมเข้ามา และเราจะมีความชื่นชมยินดีที่ได้ทราบว่า เราได้ทำหน้าที่มอบหมายของเราที่ให้ประกาศแก่ทุกคนที่จะฟังนั้นจนสำเร็จ.—ยซา. 61:1, 2; ยเอศ. 9:11; โย. 17:26.