จงนำการศึกษาพระคัมภีร์ด้วยหนังสือชีวิตตลอดไป
1 เมื่อกล่าวถึงหนังสือชีวิตตลอดไป สตรีผู้หนึ่งพูดออกมาว่า “ถัดจากพระคัมภีร์แล้ว ดิฉันเห็นว่าหนังสือนี้เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด, มีแรงบันดาลใจ, และเป็นแรงกระตุ้นให้ลงมือกระทำมากที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยอ่านมา!” เราทุกคนเห็นพ้องด้วยว่าหนังสือนี้เป็นหนังสือดีที่สุดเล่มหนึ่งที่เคยพิมพ์ขึ้นมาเพื่อช่วยผู้คนให้เข้าใจพระคัมภีร์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อกระตุ้นพวกเขาให้มาเป็นผู้สรรเสริญพระยะโฮวาที่เอาจริงเอาจัง.
2 ในปี 1983 ซึ่งเป็นปีที่มีการออกหนังสือชีวิตตลอดไป ในภาษาไทย ผู้ประกาศ 793 คนนำการศึกษาพระคัมภีร์ 680 รายในประเทศไทย. ปัจจุบันนี้ ผู้ประกาศ 1,311 คนนำการศึกษาพระคัมภีร์ 1,454 ราย. จนถึงวันนี้ หนังสือชีวิตตลอดไป ได้มีการพิมพ์ออกแล้ว 62 ล้านเล่มใน 115 ภาษา. หนังสือนี้มีผลกระทบจริง ๆ ต่องานของเราทั่วโลก!
3 จงตั้งเป้า: การเพิ่มทวีอันยอดเยี่ยมนี้เป็นผลเนื่องจากการอวยพระพรของพระยะโฮวาและจากการที่ไพร่พลของพระองค์ปรารถนาจะช่วยคนที่จริงใจด้วยข่าวสารที่ช่วยชีวิตในพระคัมภีร์. (โรม 10:13-15; 1 ติโม. 2:4) พวกเราตระหนักถึงความเร่งด่วนของเวลาและความจำเป็นต้องขยันขันแข็งในการประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้า.
4 ขณะที่องค์การกำลังรุดไปข้างหน้า เราแต่ละคนล่ะเป็นอย่างไร? เราตั้งใจจะมีส่วนเต็มที่ไหมในงานทำให้คนเป็นสาวกอันสำคัญยิ่ง? เพื่อทำให้งานนี้สัมฤทธิ์ผล เราควรตั้งเป้าส่วนตัว. เราจะขยันมากขึ้นอีกได้ไหมในการติดตามผู้สนใจ? เราน่าจะตั้งเป้าจะเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์รายใหม่สักหนึ่งรายในเดือนกุมภาพันธ์มิใช่หรือ?
5 ใครบ้างสามารถนำการศึกษาพระคัมภีร์?: ผู้ประกาศหลายคนจากพื้นเพหลายหลากเคยมีความชื่นชมยินดีจากการนำการศึกษาพระคัมภีร์ด้วยหนังสือชีวิตตลอดไป. รูปแบบการเขียนที่เรียบง่ายของหนังสือนี้ทำให้การนำการศึกษาง่ายขึ้น ซึ่งทำให้แม้แต่ผู้ประกาศใหม่ ๆ สามารถมีส่วนในงานสำคัญนี้ได้. นอกจากนั้น พวกเราหลายคนได้ศึกษาหนังสือนี้เป็นส่วนตัวแล้ว ดังนั้น เราจึงคุ้นเคยกับสิ่งที่มีอยู่ในหนังสือนี้. ผู้ประกาศคนหนึ่งซึ่งไม่เคยนำการศึกษาพระคัมภีร์มาก่อนที่มีการใช้หนังสือชีวิตตลอดไป ได้เขียนมาด้วยความหยั่งรู้ค่าว่า “ผมมีการศึกษาสามรายและกำลังจะเริ่มรายที่สี่. ผมไม่รู้จะกล่าวคำขอบคุณอย่างไรดีจึงจะมากเพียงพอกับการที่คุณทำให้การนำการศึกษาพระคัมภีร์เป็นเรื่องที่ง่าย.”
6 คนหนุ่มสาวก็เช่นกัน กำลังมีส่วนอย่างขันแข็งในงานศึกษาพระคัมภีร์โดยการใช้หนังสือชีวิตตลอดไป. พี่น้องหนุ่มคนหนึ่งละหนังสือนี้ไว้บนโต๊ะของเขาที่โรงเรียน. การทำเช่นนั้นปูทางไว้สำหรับการสนทนาและการศึกษาพระคัมภีร์หลายราย. หนุ่มสาวบางคนได้ใช้การเสนอโดยตรงโดยการขออนุญาตผู้ที่เป็นบิดามารดาซึ่งเขาพบในงานประกาศตามบ้านเพื่อมีการศึกษาพระคัมภีร์กับลูก ๆ ของเขา. ลูก ๆ ของเราไม่เด็กเกินไปที่จะพูดคุยถึงเรื่องคำสัญญาของพระยะโฮวาเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน.
7 ไม่ว่าเยาวชนหรือคนสูงอายุ ความยินดีอย่างยิ่งที่ใคร ๆ ก็ตามจะมีได้ในงานรับใช้ก็คือการนำการศึกษาพระคัมภีร์ตามบ้าน. ดังนั้น ให้เราทุกคนอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาและฉวยทุกโอกาสที่จะประกาศถึงความหวังของเราอย่างเปิดเผย. จงใช้หนังสือชีวิตตลอดไป เพื่อช่วยคนอื่น ๆ ให้เรียนรู้ถึงวิธีที่เขาสามารถมีส่วนในการสรรเสริญพระยะโฮวา พระเจ้าของเราได้.—เพลง. 148:12, 13.