แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 2-8 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 ซามูเอล 27-29
“แผนการรบของดาวิด”
it-1-E น. 41
อาคีช
ตอนที่ดาวิดกำลังหนีซาอูล เขามาหลบอยู่ในเขตแดนของกษัตริย์อาคีชถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกมีคนสงสัยว่าเขาเป็นศัตรู เขาเลยแกล้งทำตัวเป็นคนบ้า อาคีชเลยปล่อยตัวเขาไปเพราะคิดว่าเขาสติไม่ดี (1ซม 21:10-15; หัวบทของสดุดี 34; หัวบทของสดุดี 56) ครั้งที่สอง ดาวิดมาพร้อมกับพรรคพวกของเขา 600 คน รวมทั้งครอบครัวของแต่ละคนด้วย อาคีชเลยให้พวกเขาไปอยู่ในเมืองศิกลาก พวกเขาอยู่ที่นั่น 1 ปี 4 เดือน ในช่วงเวลานั้น อาคีชคิดว่าดาวิดไปโจมตีเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์ แต่จริง ๆ แล้วดาวิดไปโจมตีชาวเกชูร์ ชาวเกอร์ซี และชาวอามาเลข (1ซม 27:1-12) แผนการที่ดาวิดใช้เพื่อหลอกอาคีชได้ผลมาก อาคีชถึงกับแต่งตั้งดาวิดให้เป็นองครักษ์ของเขาตอนที่ “เจ้าเมืองของฟีลิสเตีย” กำลังวางแผนจะไปโจมตีกษัตริย์ซาอูล แต่พวกเจ้าเมืองของฟีลิสเตียไม่ไว้ใจดาวิด อาคีชเลยต้องส่งดาวิดกับพรรคพวกของเขากลับไปเมืองศิกลาก (1ซม 28:2; 29:1-11) ตอนที่ดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์และไปทำสงครามกับเมืองกัท ดูเหมือนว่าอาคีชไม่ได้ถูกฆ่า เขามีชีวิตอยู่ต่อไปจนถึงช่วงที่โซโลมอนปกครอง—1พก 2:39-41
it-2-E น. 245 ว. 6
โกหก
ถึงแม้คัมภีร์ไบเบิลตำหนิการโกหกแบบมีเจตนาร้าย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคนคนหนึ่งต้องบอกความจริงทุกอย่างให้กับคนที่ไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องนั้น พระเยซูบอกว่า “อย่าเอาของที่ควรถวายพระเจ้าไปให้หมา และอย่าโยนไข่มุกให้หมู เพราะมันจะเหยียบย่ำเสียเปล่า ๆ แถมยังหันมาทำร้ายคุณอีก” (มธ 7:6) นี่เป็นเหตุผลที่บางครั้งพระเยซูไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมดหรือไม่ได้ตอบคำถามบางอย่างตรง ๆ เพราะรู้ว่าถ้าทำอย่างนั้นก็อาจเกิดอันตรายโดยไม่จำเป็น (มธ 15:1-6; 21:23-27; ยน 7:3-10) ดูเหมือนว่าตอนที่อับราฮัม อิสอัค ราหับ และเอลีชา ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดกับคนที่ไม่ได้เป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหรือทำให้พวกเขาเข้าใจผิด ก็เพราะการทำอย่างนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายโดยไม่จำเป็นเหมือนกัน—ปฐก 12:10-19; บท 20; 26:1-10; ยชว 2:1-6; ยก 2:25; 2พก 6:11-23
วันที่ 16-22 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 1-3
“เราเรียนอะไรได้จากเพลง ‘คันธนู’?”
it-1-E น. 369 ว. 2
พี่ชาย, น้องชาย
มีการใช้คำว่า “พี่ชาย” หรือ “น้องชาย” กับคนที่มีความตั้งใจและมีเป้าหมายแบบเดียวกัน เช่น กษัตริย์ฮีรามแห่งไทระเรียกกษัตริย์โซโลมอนว่า “พี่น้อง” ไม่ใช่แค่เพราะพวกเขามีตำแหน่งเท่าเทียมกัน แต่อาจเป็นเพราะพวกเขาสนใจสิ่งเดียวกันคือการจัดหาไม้และวัสดุอื่น ๆ ในการสร้างวิหารให้พระยะโฮวา (1พก 9:13; 5:1-12) ดาวิดเขียนว่า “ดูสิ เมื่อพี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ก็เป็นเรื่องดีและน่าชื่นชมจริง ๆ” นี่ทำให้เห็นว่าความเป็นพี่เป็นน้องที่มีสันติสุขและเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพียงอย่างเดียว (สด 133:1) การที่ดาวิดเรียกโยนาธานว่าพี่ชายไม่ใช่เพราะว่ามีพ่อแม่คนเดียวกัน แต่เพราะทั้งสองคนรักและสนใจในสิ่งเดียวกัน (2ซม 1:26) คนที่มีนิสัยคล้าย ๆ กันแม้จะเป็นนิสัยที่ไม่ดีก็เรียกว่าเป็นพี่น้องกันได้—สภษ 18:9
วันที่ 30 พฤษภาคม–5 มิถุนายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 7-8
“พระยะโฮวาทำสัญญากับดาวิด”
it-2-E น. 206 ว. 2
สมัยสุดท้าย
คำพยากรณ์ของบาลาอัม ก่อนที่ชาวอิสราเอลจะเข้าแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา ผู้พยากรณ์บาลาอัมพูดกับบาลาคกษัตริย์ของโมอับว่า “มานี่สิ ผมจะบอกท่านให้รู้ว่าชนชาตินี้จะทำอะไรกับชนชาติของท่านในอนาคต . . . ดาวดวงหนึ่งจะขึ้นมาจากยาโคบ คทาอันหนึ่งจะออกมาจากอิสราเอล เขาจะตีหน้าผากของชาวโมอับให้แตก และทุบกะโหลกของพวกนักรบบ้าเลือด” (กดว 24:14-17) คำพยากรณ์นี้ที่พูดถึง “ดาวดวงหนึ่ง” เกิดขึ้นจริงครั้งแรกกับกษัตริย์ดาวิด เพราะเขารบชนะชาวโมอับ (2ซม 8:2) ดังนั้น ตอนที่บาลาอัมบอกว่า “ในอนาคต” จึงเริ่มต้นตอนที่ดาวิดขึ้นปกครองเป็นกษัตริย์ เนื่องจากดาวิดเป็นภาพล่วงหน้าถึงพระเยซูในฐานะกษัตริย์เมสสิยาห์ คำพยากรณ์นี้จึงหมายถึงพระเยซูด้วยตอนที่ท่านทำลายศัตรูทั้งหมดของท่าน—อสย 9:7; สด 2:8, 9
วันที่ 6-12 มิถุนายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 9-10
“ดาวิดแสดงความรักความเมตตา”
it-1-E น. 266
เครา
ในสมัยโบราณ คนที่อยู่ทางตะวันออกรวมทั้งชาวอิสราเอลถือว่าเคราเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงศักดิ์ศรีของผู้ชาย กฎหมายของพระเจ้าห้ามไม่ให้โกนผมด้านข้างที่อยู่ระหว่างหูกับตาและห้ามตัดแต่งเคราให้ผิดรูป (ลนต 19:27; 21:5) เพราะการทำแบบนี้เกี่ยวข้องกับศาสนาของคนนอกรีต
วันที่ 13-19 มิถุนายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 11-12
“อย่าให้ความต้องการผิด ๆ ควบคุมคุณ”
it-1-E น. 590 ว. 1
ดาวิด
พระยะโฮวาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเปิดเผยการกระทำที่ชั่วร้ายของดาวิด ถ้าพระยะโฮวาให้มนุษย์ตัดสินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างดาวิดกับบัทเชบาโดยใช้กฎหมายของโมเสส ทั้งสองคนคงจะถูกประหารชีวิต และลูกในท้องของบัทเชบาที่เกิดจากการเล่นชู้ก็จะต้องตายด้วย (ฉธบ 5:18; 22:22) แต่พระยะโฮวาจัดการเรื่องนี้ด้วยพระองค์เองและแสดงความเมตตากับดาวิดเพราะพระองค์ได้ทำสัญญาเรื่องรัฐบาลกับดาวิด (2ซม 7:11-16) และดาวิดเองก็เคยแสดงความเมตตามาก่อน (1ซม 24:4-7; เทียบกับ ยก 2:13) และพระเจ้าเห็นว่าทั้งสองคนได้กลับใจแล้ว (สด 51:1-4) แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังต้องได้รับโทษบางอย่าง พระยะโฮวาบอกผ่านทางผู้พยากรณ์นาธันว่า “เราจะให้ราชวงศ์ของเจ้าเจอหายนะ”—2ซม 12:1-12
วันที่ 20-26 มิถุนายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 13-14
“ความเห็นแก่ตัวของอัมโนนทำให้เกิดโศกนาฏกรรม”
it-1-E น. 32
อับซาโลม
การฆ่าอัมโนน อับซาโลมมีน้องสาวที่สวยมากคนหนึ่งชื่อทามาร์ อัมโนนพี่ชายต่างแม่หลงรักทามาร์ อัมโนนแกล้งป่วยเพื่อจะให้ทามาร์เข้ามาที่บ้านและทำอาหารให้เขา แล้วเขาใช้กำลังข่มขืนเธอ ต่อมาความรักแบบชู้สาวที่อัมโนนเคยมีต่อทามาร์ก็กลายเป็นความเกลียดชัง เขาสั่งให้เอาทามาร์ออกไปจากบ้าน ทามาร์ฉีกชุดของเธอซึ่งเป็นชุดพิเศษแบบที่ลูกสาวกษัตริย์ซึ่งยังไม่แต่งงานใส่กัน แล้วก็เอาขี้เถ้าใส่หัว อับซาโลมเดินมาเห็นเข้า เขาเลยถามว่าอัมโนนเป็นคนทำใช่ไหม เขาคงเดาได้จากท่าทีของอัมโนนตอนที่หลงรักทามาร์อย่างหัวปักหัวปำก่อนหน้านี้ แต่อับซาโลมบอกน้องสาวว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครและพาเธอไปอยู่ที่บ้านของเขา—2ซม 13:1-20
it-1-E น. 33 ว. 1
อับซาโลม
เวลาผ่านไป 2 ปีเต็ม ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของการตัดขนแกะและเป็นช่วงของการเลี้ยงฉลอง อับซาโลมจัดงานเลี้ยงที่บาอัลฮาโซร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 22 กิโลเมตร เขาเชิญลูกชายทุกคนของกษัตริย์รวมถึงกษัตริย์ดาวิดด้วย เมื่อดาวิดพ่อของเขาปฏิเสธไม่ยอมไป อับซาโลมเลยคะยั้นคะยอให้ดาวิดส่งอัมโนนลูกชายคนโตไปงานเลี้ยงแทน (สภษ 10:18) “ตอนที่อัมโนนกำลังดื่มเหล้าองุ่นอย่างสบายใจ” ในงานเลี้ยง อับซาโลมก็สั่งให้คนรับใช้ของเขาฆ่าอัมโนน จากนั้น ลูกชายคนอื่น ๆ ของดาวิดก็หนีกลับไปที่เยรูซาเล็ม ส่วนอับซาโลมก็หนีไปหาตาของเขาซึ่งเป็นชาวซีเรียที่เมืองเกชูร์ทางตะวันออกของทะเลสาบกาลิลี (2ซม 13:23-38) “หายนะ” ที่ผู้พยากรณ์นาธันบอกไว้ล่วงหน้าได้เกิดกับ “ราชวงศ์” ของดาวิดแล้ว และดาวิดต้องเจอหายนะไปตลอดชีวิตของเขา—2ซม 12:10
วันที่ 27 มิถุนายน–3 กรกฎาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 15-17
“อับซาโลมกบฏเพราะอยากเป็นคนสำคัญ”
it-1-E น. 860
คนวิ่งนำหน้ารถม้า
ดินแดนที่อยู่ทางตะวันออกมีธรรมเนียมให้คนวิ่งนำหน้ารถม้าเพื่อเตรียมและประกาศว่ากษัตริย์กำลังมาและทำหน้าที่ช่วยเหลือกษัตริย์ในเรื่องทั่ว ๆ ไป (1ซม 8:11) อับซาโลมและอาโดนียาห์ให้มีคนวิ่งนำหน้ารถม้า 50 คนเพื่อแสดงถึงเกียรติยศของกษัตริย์และให้คนที่พยายามจะขืนอำนาจยอมรับอำนาจของเขา—2ซม 15:1; 1พก 1:5
it-1-E น. 1083-1084
เฮโบรน
ไม่กี่ปีหลังจากนั้น อับซาโลมลูกชายของดาวิดกลับไปที่เมืองเฮโบรนและเริ่มแผนการแย่งชิงบัลลังก์พ่อของเขาที่นั่น แต่เขาทำไม่สำเร็จ (2ซม 15:7-10) เหตุผลที่อับซาโลมเลือกเมืองนี้อาจเป็นเพราะเฮโบรนเคยเป็นเมืองหลวงของยูดาห์ และเป็นเมืองเกิดของเขาด้วย ในเวลาต่อมากษัตริย์เรโหโบอัมหลานชายของดาวิดได้บูรณะเมืองเฮโบรนขึ้นมาใหม่ (2พศ 11:5-10) หลังจากที่ชาวบาบิโลนทำลายยูดาห์และปล่อยเชลยชาวยิวให้กลับบ้านเกิด ชาวยิวบางคนก็ได้ตั้งรกรากในเมืองเฮโบรน (คีริยาทอาร์บา)—นหม 11:25