-
นางระบายความในใจกับพระเจ้าในคำอธิษฐานหอสังเกตการณ์ 2010 | 1 กรกฎาคม
-
-
การที่ฮันนาได้ระบายความในใจต่อพระยะโฮวาและนมัสการพระองค์ที่พลับพลามีผลเช่นไรต่อนาง? บันทึกกล่าวว่า “แล้วนางก็ลาไปรับประทานอาหาร, โดยหน้าชื่นบานมิได้เศร้าโศกต่อไปอีก.” (1 ซามูเอล 1:18) ฮันนารู้สึกโล่งใจ. ประหนึ่งว่านางได้ยกภาระที่หนักอึ้งในใจตนวางไว้บนบ่าที่กว้างและแข็งแรงซึ่งไม่มีผู้ใดเทียบได้ของพระบิดาผู้อยู่ในสวรรค์. (บทเพลงสรรเสริญ 55:22) มีปัญหาใดที่หนักเกินไปสำหรับพระองค์ไหม? ไม่มีเลย ไม่ว่าในอดีต, ปัจจุบัน, หรือในอนาคต!
เมื่อเรารู้สึกหดหู่ท้อใจหรือเป็นทุกข์ นับว่าดีที่เราจะทำตามตัวอย่างของฮันนา และทูลทุกสิ่งต่อผู้ที่คัมภีร์ไบเบิลเรียกว่า “ผู้สดับคำอธิษฐาน.” (บทเพลงสรรเสริญ 65:2) ถ้าเราทำเช่นนั้นด้วยความเชื่อ เราจะประสบเช่นกันว่า “สันติสุขของพระเจ้าซึ่งเหนือกว่าความคิดทุกอย่าง” จะเข้ามาแทนที่ความทุกข์ใจของเรา.—ฟิลิปปอย 4:6, 7
-
-
นางระบายความในใจกับพระเจ้าในคำอธิษฐานหอสังเกตการณ์ 2010 | 1 กรกฎาคม
-
-
พะนีนามารู้ตัวเมื่อไรว่าการกระทำของนางไม่สามารถทำให้ฮันนาทุกข์ใจได้อีกแล้ว? คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้กล่าวไว้ แต่วลีที่ว่า “มิได้เศร้าโศกต่อไปอีก” บ่งบอกว่าตั้งแต่นั้นมาฮันนามีความสุขไม่เป็นทุกข์อีกต่อไป. ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ช้าพะนีนาก็มารู้ว่าการกระทำที่ร้ายกาจของนางไม่เกิดผลอะไรเลย. คัมภีร์ไบเบิลไม่พูดถึงนางอีกเลย.
-