อวนและปลาหมายความอย่างไรสำหรับคุณ?
“ข้อลับลึกแห่งแผ่นดินสวรรค์ทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายรู้ได้.”—มัดธาย 13:11.
1, 2. ทำไมเราจึงน่าจะสนใจในอุทาหรณ์ของพระเยซู?
คุณชอบการล่วงรู้ความลับหรือการแก้ปริศนาไหม? จะว่าอย่างไรหากการกระทำดังกล่าวช่วยคุณให้เข้าใจกระจ่างยิ่งขึ้นถึงหน้าที่ของคุณในพระประสงค์ของพระเจ้า? น่ายินดีที่คุณสามารถได้มาซึ่งการหยั่งเห็นเข้าใจอันเป็นสิทธิพิเศษนั้นโดยอุทาหรณ์หนึ่งที่พระเยซูตรัสไว้. อุทาหรณ์นั้นทำให้หลายคนที่ได้ยินรู้สึกงงงวยและทำให้คนมากมายฉงนสนเท่ห์ แต่คุณสามารถเข้าใจอุทาหรณ์นี้ได้.
2 ขอสังเกตสิ่งที่พระเยซูตรัสในมัดธายบท 13 เกี่ยวกับการที่พระองค์ทรงใช้อุทาหรณ์. เหล่าสาวกของพระองค์ทูลถามว่า “เหตุไฉนพระองค์ตรัสแก่เขาเป็นคำอุปมา?” (มัดธาย 13:10) ถูกแล้ว ทำไมพระเยซูจึงใช้อุทาหรณ์ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่คงไม่เข้าใจ? พระองค์ตรัสตอบในข้อ 11 ถึง 13 ดังนี้: “ข้อลับลึกแห่งแผ่นดินสวรรค์ทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายรู้ได้ แต่คนเหล่านั้นไม่โปรดให้รู้. . . . เหตุฉะนั้นเราจึงกล่าวแก่เขาเป็นคำอุปมา เพราะว่าถึงเขามองก็ไม่เห็น ถึงฟังก็ไม่ได้ยินและไม่เข้าใจ.”
3. ความเข้าใจในอุทาหรณ์ของพระเยซูก่อประโยชน์แก่เราอย่างไร?
3 ครั้นแล้วพระเยซูทรงใช้ยะซายา 6:9, 10 ซึ่งพรรณนาถึงผู้คนซึ่งหูหนวกและตาบอดฝ่ายวิญญาณ. แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนพวกนั้น. หากเราเข้าใจและทำตามอุทาหรณ์นั้น เราก็จะสามารถมีความยินดีอย่างยิ่ง—ทั้งบัดนี้และในอนาคตไม่สิ้นสุด. พระเยซูทรงให้คำรับรองอันทำให้อุ่นใจแก่เราดังนี้: “ตาของท่านทั้งหลายก็เป็นสุขเพราะได้เห็น และหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน.” (มัดธาย 13:16) คำรับรองนั้นใช้ได้กับอุทาหรณ์ของพระเยซูทุกเรื่อง แต่ขอให้เรามาเพ่งเล็งอยู่ที่อุทาหรณ์สั้น ๆ เกี่ยวกับอวนจับปลา ซึ่งบันทึกไว้ในมัดธาย 13:47-50.
อุทาหรณ์ที่มีความหมายลึกซึ้ง
4. พระเยซูทรงแจ้งเรื่องอะไรโดยการใช้อุทาหรณ์ ดังบันทึกไว้ในมัดธาย 13:47-50?
4 “แผ่นดินสวรรค์นั้นเปรียบเหมือนอวนที่ลากอยู่ในทะเลรวมปลาทุกอย่าง เมื่อเต็มแล้วเขาก็ลากขึ้นฝั่งนั่งเลือกเอาแต่ที่ดีใส่ตะกร้า แต่ที่ไม่ดีนั้นก็ทิ้งเสีย. ในเวลาสิ้นโลกนี้ก็จะเป็นอย่างนั้นแหละ พวกทูตสวรรค์จะมาแยกคนชั่วออกจากคนชอบธรรม แล้วจะทิ้งลงในเตาไฟ ที่นั่นจะมีการร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน.”
5. เกิดคำถามชนิดใดขึ้นในเรื่องความหมายของอุทาหรณ์เรื่องอวน?
5 คุณอาจเคยเห็นคนจับปลาด้วยอวน อย่างน้อยก็ในภาพยนตร์หรือในโทรทัศน์ ฉะนั้น อุทาหรณ์ของพระเยซูจึงไม่ยากจะนึกภาพออกได้. แต่จะว่าอย่างไรในเรื่องของรายละเอียดและความหมายของอุทาหรณ์นี้? ตัวอย่าง พระเยซูตรัสว่าอุทาหรณ์นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “แผ่นดินสวรรค์.” กระนั้น เป็นที่แน่นอนว่าพระองค์ไม่ได้หมายความว่าคน “ทุกชนิด” ทั้งคนดีและคนที่ไม่เหมาะสม หรือคนชั่ว จะอยู่ในราชอาณาจักรนั้น. นอกจากนั้น ใครเป็นผู้จับปลา? การจับปลาและแยกปลานี้เกิดขึ้นในสมัยพระเยซูไหม หรือถูกจำกัดไว้สำหรับยุคของเราอันเป็น “ช่วงอวสานแห่งระบบนี้”? คุณเห็นตัวเองอยู่ในอุทาหรณ์นี้ไหม? คุณจะหลีกเลี่ยงอย่างไรเพื่อจะไม่ถึงจุดจบร่วมกับคนเหล่านั้นซึ่งร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน?
6. (ก) ทำไมเราจึงควรสนใจอย่างยิ่งต่อการเข้าใจอุทาหรณ์เรื่องอวน? (ข) อะไรคือกุญแจไขความเข้าใจอุทาหรณ์นี้?
6 คำถามเหล่านั้นแสดงว่าอุทาหรณ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ทีเดียว. แต่อย่าลืมว่า “ตาของท่านทั้งหลายเป็นสุขเพราะได้เห็น และหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน.” ให้เรามาดูว่าเราจะขุดค้นหาความหมายของอุทาหรณ์นี้ได้ไหมเพื่อหูของเราจะไม่หนวกและตาจะไม่ปิดต่อความหมายสำคัญของอุทาหรณ์นี้. ที่จริง เรามีกุญแจสำคัญอยู่แล้วเพื่อไขความหมายของอุทาหรณ์นี้. บทความก่อนบอกถึงการที่พระเยซูทรงเชิญชวนคนจับปลาชาวฆาลิลายให้เลิกอาชีพนั้นและรับเอางานฝ่ายวิญญาณในฐานะ “ผู้จับคน.” (มาระโก 1:17) พระองค์ตรัสแก่พวกเขาว่า “ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน.”—ลูกา 5:10.
7. พระเยซูทรงแสดงถึงอะไรเมื่อตรัสถึงเรื่องปลา?
7 สอดคล้องกับเรื่องนั้น ปลาในอุทาหรณ์นี้หมายถึงคน. ฉะนั้น เมื่อข้อ 49 กล่าวถึงการแยกคนชั่วออกจากคนชอบธรรม นั่นไม่หมายถึงสัตว์น้ำที่ดีหรือชั่ว แต่หมายถึงคนชอบธรรมหรือคนชั่ว. ในทำนองเดียวกัน ข้อ 50 ไม่น่าจะทำให้เราคิดถึงสัตว์ในทะเลที่ร้องไห้หรือขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน. เปล่า. อุทาหรณ์นี้เกี่ยวข้องกับการรวบรวมมนุษย์เข้ามาและแยกออกจากกันในภายหลัง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังที่ผลลัพธ์แสดงให้เห็น.
8. (ก) เราอาจเรียนรู้อะไรได้เกี่ยวกับผลลัพธ์สำหรับปลาที่ใช้ไม่ได้? (ข) เมื่อคำนึงถึงสิ่งที่มีกล่าวเกี่ยวกับปลาที่ใช้ไม่ได้ เราสามารถลงความเห็นได้อย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราชอาณาจักร?
8 จงสังเกตว่าปลาที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งก็คือคนชั่ว จะถูกโยนทิ้งลงในเตาไฟที่ลุกโชน ที่ซึ่งเขาจะต้องร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน. ในที่อื่น ๆ พระเยซูทรงเชื่อมโยงการร้องไห้และการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเช่นนั้นเข้ากับการอยู่นอกราชอาณาจักร. (มัดธาย 8:12; 13:41, 42) ที่มัดธาย 5:22 และ 18:9 พระองค์ถึงกับทรงกล่าวถึง “ไฟกิเฮนนา” ซึ่งหมายถึงความพินาศตลอดกาลด้วยซ้ำ. นั่นแสดงให้เห็นมิใช่หรือว่าการเข้าใจความหมายของอุทาหรณ์นี้และการทำตามความเข้าใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากเพียงใด? เราทุกคนทราบว่าในราชอาณาจักรของพระเจ้าไม่มีคนชั่วและจะไม่มีเลย. เพราะฉะนั้น เมื่อพระเยซูตรัสว่า “แผ่นดินสวรรค์ [ราชอาณาจักร, ล.ม.] นั้นเปรียบเหมือนอวนที่ลากอยู่ในทะเล” พระองค์คงต้องหมายความว่า เกี่ยวกับราชอาณาจักรนั้น มีลักษณะหนึ่งเหมือนอวนซึ่งหย่อนลงเพื่อรวบรวมปลาหลายหลากชนิด.
9. ทูตสวรรค์เกี่ยวข้องอย่างไรในอุทาหรณ์เรื่องอวน?
9 หลังจากหย่อนอวนลงและปลาถูกรวบรวม ก็คงจะมีงานแบ่งแยก. พระเยซูตรัสว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องด้วย? มัดธาย 13:49 ระบุชาวประมงที่คัดเลือกปลานั้นว่าเป็นทูตสวรรค์. ดังนั้น พระเยซูทรงบอกเราในเรื่องทูตสวรรค์ซึ่งคอยดูแลเครื่องมือบนแผ่นดินโลกที่มีการใช้เพื่อระบุตัวคน—บางคนเป็นคนดีและเหมาะสมสำหรับราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ คนอื่นนอกนั้นเป็นผู้ไม่เหมาะสมสำหรับการเรียกนั้น.
การจับปลา—เมื่อไร?
10. โดยการหาเหตุผลอย่างไรที่เราอาจระบุว่าการจับปลานั้นใช้เวลานานทีเดียว?
10 บริบทช่วยเราให้เห็นว่าเรื่องนี้ดำเนินการเมื่อไร. ก่อนยกอุทาหรณ์เรื่องนี้ พระเยซูตรัสอุทาหรณ์เรื่องการหว่านเมล็ดพืชที่ดี แต่ต่อมาก็มีการหว่านเมล็ดวัชพืชลงในทุ่งนา ซึ่งเป็นภาพถึงโลก. พระองค์ทรงชี้แจงไว้ที่มัดธาย 13:38 ว่าเมล็ดพืชดีนั้นหมายถึง “พลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า แต่ข้าวละมาน [วัชพืช] ได้แก่พลเมืองของผู้ชั่ว.” พืชเหล่านี้เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กันเป็นเวลาหลายศตวรรษ จนกระทั่งถึงฤดูเกี่ยวในช่วงอวสานแห่งระบบนี้. ครั้นแล้ว วัชพืชก็ถูกแยกออกและเผาทิ้งเสีย. โดยเทียบเคียงเรื่องนี้กับอุทาหรณ์เรื่องอวน เราจึงเห็นว่าการลากอวนให้ได้ปลานั้นต้องใช้เวลายาวนาน.—มัดธาย 13:36-43.
11. เป็นไปอย่างไรที่ปฏิบัติการจับปลานานาชาติได้เริ่มดำเนินการในศตวรรษแรก?
11 ตามอุทาหรณ์ของพระเยซูนั้น จะมีการรวบรวมเอาปลาเข้ามาโดยไม่ได้เลือก นั่นคือ อวนนั้นลากมาได้ทั้งปลาดีและปลาที่ใช้ไม่ได้. ขณะที่พวกอัครสาวกยังมีชีวิตอยู่ ทูตสวรรค์ที่ชี้นำการปฏิบัติการจับปลาได้ใช้องค์การคริสเตียนของพระเจ้าออกจับ “ปลา” ซึ่งได้มาเป็นคริสเตียนผู้ถูกเจิม. คุณอาจบอกว่าก่อนวันเพ็นเตคอสเตปีสากลศักราช 33 พระเยซูทรงจับคนมาเป็นสาวกได้ประมาณ 120 คน. (กิจการ 1:15) แต่ครั้นประชาคมคริสเตียนผู้ถูกเจิมถูกตั้งขึ้นแล้ว การจับปลาด้วยการใช้อวนเป็นเครื่องมือได้เริ่มต้น และปลาดีนับเป็นพัน ๆ ถูกจับมา. ตั้งแต่ปีสากลศักราช 36 การจับปลาได้ขยายขอบเขตกว้างออกไปถึงน่านน้ำสากล เมื่อคนต่างชาติถูกจับเข้ามาเป็นคริสเตียนและได้เป็นสมาชิกของประชาคมคริสเตียนผู้ถูกเจิม.—กิจการ 10:1, 2, 23-48.
12. มีอะไรเกิดขึ้นภายหลังการตายของเหล่าอัครสาวก?
12 ระหว่างศตวรรษต่าง ๆ หลังจากเหล่าอัครสาวกล่วงลับไปแล้ว ก็ยังมีคริสเตียนบางคนที่พยายามค้นหาและยึดมั่นอยู่กับความจริงของพระเจ้า. อย่างน้อยพวกเขาบางคนก็เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าและพระองค์ได้ทรงเจิมพวกเขาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์. กระนั้น การตายของเหล่าอัครสาวกได้ทำให้อิทธิพลที่หน่วงเหนี่ยวไว้หมดไป เปิดช่องให้เกิดการออกหากอย่างกว้างขวาง. (2 เธซะโลนิเก 2:7, 8) องค์การหนึ่งเติบโตขึ้นซึ่งกล่าวอ้างอย่างไม่คู่ควรว่าเป็นประชาคมของพระเจ้า. องค์การนี้อ้างอย่างผิด ๆ ว่าเป็นชาติบริสุทธิ์ที่ถูกเจิมด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าเพื่อปกครองร่วมกับพระเยซู.
13. ทำไมจึงอาจกล่าวได้ว่าคริสต์ศาสนจักรมีบทบาทในปฏิบัติการลากอวนนั้น?
13 คุณคิดไหมว่าพวกที่อ้างตัวอย่างไม่ซื่อสัตย์ว่าเป็นคริสเตียนนั้นมีส่วนในอุทาหรณ์เรื่องอวน? มีเหตุผลที่จะตอบว่า ใช่ พวกเขามีส่วน. อวนโดยนัยนั้นรวมคริสต์ศาสนจักรเอาไว้ด้วย. จริง นานหลายสมัยที่คริสต์จักรคาทอลิกพยายามเก็บงำคัมภีร์ไบเบิลไว้จากสามัญชน. อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายศตวรรษนั้น สมาชิกของคริสต์ศาสนจักรมีบทบาทสำคัญในการแปล, ทำสำเนา, และจ่ายแจกพระวจนะของพระเจ้า. ต่อมา คริสต์ศาสนจักรได้ก่อตั้งหรือไม่ก็ให้การสนับสนุนสมาคมพระคริสต์ธรรมต่าง ๆ ซึ่งได้แปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาของประเทศที่อยู่ห่างไกล. นอกจากนั้น คริสต์จักรยังได้ส่งผู้เผยแพร่ศาสนาและผู้สอนออกไป ซึ่งทำให้มีผู้เข้ามาเป็นคริสเตียนเพราะได้ประโยชน์. การทำเช่นนั้นได้รวบรวมปลาที่ใช้ไม่ได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้รับความพอพระทัยจากพระเจ้า. แต่อย่างน้อยก็ทำให้คนที่ไม่ใช่คริสเตียนนับล้าน ๆ คนได้เห็นคัมภีร์ไบเบิลและศาสนาคริสเตียนในรูปแบบหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นรูปแบบที่ผิดก็ตาม.
14. การงานที่กระทำโดยคริสต์จักรต่าง ๆ แห่งคริสต์ศาสนจักรมีส่วนช่วยอย่างไรในการจับปลาดี?
14 ในระหว่างนั้น เหล่าผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่กระจัดกระจายซึ่งยึดมั่นกับพระคำของพระเจ้าก็ได้ทุ่มเทตนเองเท่าที่เขาจะทำได้. ไม่ว่าในเวลาใดก็ตาม พวกเขาประกอบกันเป็นประชาคมแท้แห่งผู้ถูกเจิมของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก. และเราจะแน่ใจได้ว่าพวกเขากำลังจับปลา หรือคนอยู่เช่นกัน ซึ่งในจำพวกนี้มีหลายคนที่พระเจ้าจะทรงเห็นว่าดี และผู้ซึ่งพระองค์จะทรงเจิมด้วยพระวิญญาณของพระองค์. (โรม 8:14-17) ผู้เลื่อมใสศาสนาคริสเตียนเหล่านี้สามารถจะนำความจริงแห่งพระคัมภีร์ไปยังคนมากมายซึ่งเข้ามาเป็นคริสเตียนเพราะได้ประโยชน์หรือผู้ซึ่งได้รับความรู้ด้านคัมภีร์ไบเบิลอย่างจำกัดจากพระคัมภีร์ที่มีการแปลเป็นภาษาของเขาโดยสมาคมพระคริสต์ธรรมของคริสต์ศาสนจักร. เป็นความจริง การรวบรวมปลาดีดำเนินต่อไป แม้ว่าปลาส่วนใหญ่ที่ถูกรวบรวมเข้ามาโดยคริสต์ศาสนจักรนั้นเป็นปลาที่ใช้ไม่ได้ในทัศนะของพระเจ้าก็ตาม.
15. พูดอย่างตรงเป้า อะไรคือความหมายของอวนในอุทาหรณ์?
15 ดังนั้นเอง อวนจึงหมายถึงเครื่องมือทางแผ่นดินโลกนี้ซึ่งประกาศตัวเป็นประชาคมของพระเจ้าและซึ่งทำการรวบรวมปลาเข้ามา. อวนนี้รวมเอาทั้งคริสต์ศาสนจักรและประชาคมแห่งคริสเตียนผู้ถูกเจิม จำพวกหลังนี้ยังคงทำการรวบรวมปลาดีต่อไป ภายใต้การทรงนำที่ไม่ประจักษ์ของเหล่าทูตสวรรค์ สอดคล้องกับมัดธาย 13:49.
สมัยของเราเป็นสมัยพิเศษ
16, 17. ทำไมสมัยที่เรามีชีวิตอยู่นี้จึงสำคัญยิ่งในความสำเร็จเป็นจริงของอุทาหรณ์ของพระเยซูเรื่องอวน?
16 ตอนนี้ให้เราพิจารณาในเรื่องเวลา. นานหลายศตวรรษที่อวนได้จับปลามาทั้งปลาดีและปลาที่ใช้ไม่ได้หรือปลาเลว ๆ. แล้วก็ถึงเวลาเมื่อทูตสวรรค์เข้ามาเกี่ยวข้องในการแยกปลาอันเป็นการชี้ขาด. เมื่อไร? ในข้อ 49 กล่าวอย่างชัดเจนว่าเป็นเวลาระหว่าง “ช่วงอวสานแห่งระบบนี้.” เรื่องนี้ตรงกันกับคำตรัสของพระเยซูในอุทาหรณ์เรื่องแกะกับแพะที่ว่า “เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาด้วยสง่าราศีของพระองค์ พร้อมด้วยหมู่ทูตสวรรค์ทั้งสิ้น ครั้นแล้วพระองค์จะทรงประทับบนพระที่นั่งอันรุ่งโรจน์ของพระองค์. และบรรดาชนนานาชาติจะถูกรวบรวมเข้ามาเฉพาะพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกผู้คนออกจากกันเหมือนผู้เลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ.”—มัดธาย 25:31, 32, ล.ม.
17 ฉะนั้น ตามมัดธาย 13:47-50 งานแบ่งแยกในแบบชี้ขาดภายใต้การนำของทูตสวรรค์ดำเนินไปไม่หยุดยั้งตั้งแต่ “ช่วงอวสานของระบบนี้” เริ่มต้นในปี 1914. งานแบ่งแยกนี้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะภายหลังปี 1919 เมื่อชนที่เหลือแห่งผู้ถูกเจิมได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสหรือเชลยฝ่ายวิญญาณอยู่ชั่วระยะหนึ่ง และได้มาเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการทำให้งานจับคนสำเร็จ.
18. ปลาดีถูกรวบรวมไว้ในตะกร้าอย่างไร?
18 จะเกิดอะไรขึ้นกับปลาดีที่ถูกคัดออกมา? ข้อ 48 กล่าวว่าผู้แยกปลาซึ่งได้แก่ทูตสวรรค์ “เลือกเอา [ปลา] ที่ดีใส่ตะกร้า แต่ที่ไม่ดีนั้นก็ทิ้งเสีย.” ตะกร้าคือภาชนะป้องกันซึ่งปลาดีถูกใส่ลงไป. การนี้เกิดขึ้นในสมัยของเราไหม? แน่นอน. เมื่อปลาดีโดยนัยนั้นถูกจับมาเป็น ๆ พวกเขาก็ถูกรวบรวมเข้ามาสู่ประชาคมแห่งคริสเตียนแท้. ประชาคมที่เปรียบเสมือนตะกร้านี้ได้ช่วยป้องกันและรักษาพวกเขาไว้เพื่องานรับใช้พระเจ้า คุณเห็นด้วยมิใช่หรือ? กระนั้น บางคนอาจคิดว่า ‘ทั้งหมดนี้ก็ดีและถูกต้อง แต่เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องอย่างไรกับชีวิตของฉันทั้งในปัจจุบันและในอนาคต?’
19, 20. (ก) เพราะเหตุใดการเข้าใจอุทาหรณ์นี้จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในทุกวันนี้? (ข) งานจับปลาอันสำคัญอะไรที่ได้กระทำตั้งแต่ปี 1919?
19 ความสำเร็จของอุทาหรณ์นี้ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะในช่วงศตวรรษต่าง ๆ ระหว่างสมัยอัครสาวกถึงปี 1914 เท่านั้น. ในช่วงเวลานั้น อวนได้รวบรวมผู้เลื่อมใสศาสนาคริสเตียนทั้งแท้และเท็จเข้ามา. ถูกแล้ว อวนรวบรวมทั้งปลาไม่ดีและปลาดีเข้ามา. ยิ่งกว่านั้น งานแบ่งแยกที่กระทำโดยทูตสวรรค์ก็ไม่ได้ยุติลงในปี 1919. ไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน. ในบางแง่ อุทาหรณ์เรื่องอวนนี้ใช้ได้เรื่อยมาจนถึงสมัยของเรา. พวกเราเกี่ยวข้องอยู่ด้วยและนี่จึงเป็นเรื่องอนาคตของเราโดยตรง. เป็นเรื่องจำเป็นยิ่งสำหรับเราที่จะเข้าใจถึงวิธีและเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นหากเราต้องการให้ถ้อยคำเหล่านี้เป็นจริงกับเรา ที่ว่า “ตาของท่านทั้งหลายก็เป็นสุขเพราะได้เห็น และหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน” ด้วยความเข้าใจ.—มัดธาย 13:16.
20 คุณคงทราบว่าภายหลังปี 1919 ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมได้ทำงานประกาศอย่างเอาจริงเอาจังโดยร่วมมือกับพวกทูตสวรรค์ซึ่งยังคงใช้อวนโดยนัยนั้นลากปลาเข้าหาฝั่ง เพื่อแยกปลาดีออกจากปลาไม่ดี. สถิติต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าการจับปลาดีสำหรับการเจิมด้วยพระวิญญาณของพระเจ้านั้นดำเนินเรื่อยมาจนคนสุดท้ายแห่งชน 144,000 คน ถูกอวนโดยนัยนั้นรวบรวมเข้ามา. (วิวรณ์ 7:1-4) แต่ในช่วงกลางทศวรรษปี 1930 การรวบรวมปลาดีเพื่อการเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สิ้นสุดลง. และแล้วประชาคมแห่งชนที่เหลือผู้ถูกเจิมก็ทิ้งอวนเสียและนั่งเฉย ๆ คอยบำเหน็จทางภาคสวรรค์เช่นนั้นไหม? ไม่เลย!
คุณเกี่ยวข้องด้วยในการจับนี้
21. การจับปลาอะไรอื่นอีกที่เกิดขึ้นในสมัยของเรา? (ลูกา 23:43)
21 อุทาหรณ์ของพระเยซูที่ว่าด้วยเรื่องอวนนั้นมุ่งอยู่ที่ปลาดีซึ่งจะได้รับบำเหน็จด้วยการมีตำแหน่งในราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์. แต่นอกจากอุทาหรณ์เรื่องนี้แล้ว ยังมีการจับปลาโดยนัยอย่างอื่นที่เกิดขึ้นในขอบเขตใหญ่โต เช่นเดียวกับที่แสดงไว้ในบทความก่อนหน้านี้. การจับปลาคราวนี้ไม่ใช่เพื่อจะได้ปลาดีที่ถูกเจิมดังมีกล่าวถึงในอุทาหรณ์ของพระเยซู แต่เพื่อจะได้ปลาโดยนัยซึ่งจะถูกจับมาเป็น ๆ และได้รับความหวังอันยอดเยี่ยมด้วยการมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน.—วิวรณ์ 7:9, 10; เทียบมัดธาย 25:31-46.
22. เราสามารถประสบผลอันน่ายินดีอะไร และอะไรคือผลอีกอย่างหนึ่ง?
22 หากคุณมีความหวังนั้น คุณก็สามารถมีความยินดีที่พระยะโฮวาทรงอนุญาตให้งานจับปลาเพื่อช่วยชีวิตดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน. ทั้งนี้ทำให้เป็นไปได้ที่คุณจะได้รับความหวังอันดีเลิศ. ความหวังหรือ? ใช่แล้ว การใช้คำนี้นับว่าเหมาะทีเดียว เนื่องจากผลลัพธ์ที่จะมีขึ้นนั้นจะเป็นไปตามความซื่อสัตย์ที่เรามีตลอดเวลาต่อพระองค์ผู้ทรงบริหารงานจับปลาที่ดำเนินอยู่. (ซะฟันยา 2:3) จงนึกทบทวนอุทาหรณ์นั้นที่ว่าไม่ใช่ปลาทุกตัวที่ถูกอวนลากขึ้นมานั้นจะประสบผลน่ายินดี. พระเยซูตรัสว่าปลาที่ใช้ไม่ได้ หรือคนชั่ว จะถูกแยกออกจากคนชอบธรรม. สู่บั้นปลายเช่นไร? ที่มัดธาย 13:50 พระเยซูทรงพรรณนาถึงผลลัพธ์อันร้ายแรงสำหรับปลาที่ใช้ไม่ได้หรือที่ชั่ว. ปลาเหล่านั้นจะถูกโยนลงในเตาไฟ ซึ่งหมายถึงความพินาศนิรันดร์.—วิวรณ์ 21:8.
23. อะไรทำให้งานจับปลาในทุกวันนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง?
23 สำหรับปลาดีที่ถูกเจิม และปลาโดยนัยซึ่งจะมีชีวิตตลอดไปบนแผ่นดินโลกนั้น มีอนาคตอันรุ่งโรจน์. ฉะนั้น ด้วยเหตุผลอันดี ทูตสวรรค์จึงทำให้แน่ใจว่าเวลานี้ทีเดียวการจับปลาอย่างประสบผลสำเร็จกำลังดำเนินการอยู่ตลอดทั่วโลก. แต่ช่างเป็นการจับปลาโดยนัยที่ใหญ่โตจริง ๆ! คุณคงจะเป็นฝ่ายถูกเช่นกันเมื่อพูดว่าในแง่หนึ่ง นั่นเป็นการจับปลาอย่างอัศจรรย์เช่นเดียวกับการจับปลาจริง ๆ ที่พวกอัครสาวกได้ประสบเมื่อพวกเขาหย่อนอวนลงตามบัญชาของพระเยซู.
24. เราควรต้องการจะทำอะไรที่เกี่ยวกับการจับปลาฝ่ายวิญญาณ?
24 คุณกำลังมีส่วนอย่างขันแข็งเท่าที่คุณทำได้ไหมในงานจับปลาฝ่ายวิญญาณนี้ซึ่งเป็นการช่วยชีวิต? ไม่ว่าโดยส่วนตัวแล้วเราจะเข้าส่วนมากน้อยแค่ไหนจนถึงเวลานี้ เราทุกคนต่างก็ได้รับประโยชน์เมื่อมองดูงานจับปลาและงานช่วยชีวิตอันใหญ่โตที่ดำเนินไปไม่หยุดยั้งซึ่งสัมฤทธิ์ผลอยู่แล้วทั่วโลก. การทำเช่นนี้น่าจะกระตุ้นเราให้กระตือรือร้นยิ่งขึ้นในการหย่อนอวนลงจับปลาในวันต่อ ๆ ไป!—เทียบกับมัดธาย 13:23; 1 เธซะโลนิเก 4:1.
คุณจำเรื่องเหล่านี้ได้ไหม?
▫ ปลาสองชนิดในอุทาหรณ์ของพระเยซูเป็นภาพเล็งถึงอะไร?
▫ ในแง่ใดที่คริสต์จักรต่าง ๆ แห่งคริสต์ศาสนจักรมาเกี่ยวข้องในปฏิบัติการจับปลานั้น?
▫ ทำไมการจับปลาที่เกิดขึ้นในยุคของเรานี้จึงสำคัญยิ่ง?
▫ อุทาหรณ์เรื่องอวนควรกระตุ้นเราทุกคนให้วิเคราะห์ตัวเองอย่างไร?
[คำถาม 18]
ปฏิบัติการจับปลาได้กระทำกัน ณ ทะเลฆาลิลายหลายศตวรรษมาแล้ว
[ที่มาของภาพ]
Pictorial Archive (Near Eastern History) Est.