สิ่งที่พระยะโฮวาตั้งใจไว้จะต้องสำเร็จแน่นอน!
“เราจะทำตามที่พูดไว้ และจะทำให้สำเร็จตามที่ได้ตั้งใจ”—อสย. 46:11
1, 2. (ก) พระยะโฮวาบอกให้เรารู้อะไร? (ข) มีคำสัญญาอะไรที่อิสยาห์ 46:10, 11 และ 55:11?
“ในตอนเริ่มต้น พระเจ้าสร้างฟ้าและโลก” นี่เป็นประโยคแรกในคัมภีร์ไบเบิลที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง (ปฐก. 1:1) เราได้เห็นแค่บางสิ่งจากสิ่งต่าง ๆ มากมายที่พระเจ้าสร้างในเอกภพ และเราก็เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้น้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นอวกาศ แสงสว่าง และแรงโน้มถ่วง (ปญจ. 3:11) ถึงอย่างนั้น พระยะโฮวาบอกให้เรารู้ว่า ตั้งแต่แรกพระองค์ตั้งใจให้โลกกับมนุษย์เป็นอย่างไร พระองค์สร้างมนุษย์ให้มีลักษณะเหมือนพระองค์และอยากให้พวกเขามีความสุขกับการมีชีวิตอยู่บนโลก (ปฐก. 1:26) พระเจ้าจะเป็นพ่อของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นลูกของพระองค์
2 ในบท 3 ของหนังสือปฐมกาล พวกเราได้เรียนว่าสิ่งที่พระยะโฮวาตั้งใจไว้ถูกขัดขวาง (ปฐก. 3:1-7) แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่พระยะโฮวาจัดการไม่ได้ ไม่มีใครมาขวางพระองค์ได้ (อสย. 46:10, 11; 55:11) เรามั่นใจได้ว่าสิ่งที่พระยะโฮวาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกจะต้องเกิดขึ้นตามเวลาที่พระองค์กำหนดไว้อย่างแน่นอน!
3. (ก) คำสอนเรื่องอะไรเป็นความจริงที่สำคัญในคัมภีร์ไบเบิล? (ข) ทำไมเราน่าจะคุยกันเกี่ยวกับคำสอนเหล่านี้ในตอนนี้? (ค) เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถามอะไร?
3 เราเข้าใจว่าพระเจ้าตั้งใจอยากให้โลกกับมนุษย์เป็นแบบไหน และเราก็รู้ด้วยว่าพระเยซูมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ความตั้งใจของพระเจ้าสำเร็จ นี่เป็นความจริงที่สำคัญมากและน่าจะเป็นเรื่องแรก ๆ ที่เราได้เรียนตอนที่เริ่มเรียนคัมภีร์ไบเบิล และเราอยากช่วยคนอื่นให้ได้เรียนคำสอนที่สำคัญนี้ด้วย เรามีโอกาสที่จะทำอย่างนั้นในช่วงเวลานี้เป็นพิเศษตอนที่เชิญผู้คนให้เข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ที่ระลึกถึงการตายของพระเยซู (ลก. 22:19, 20) ถ้าพวกเขามาการประชุมที่สำคัญนี้ พวกเขาก็จะได้รู้มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่พระเจ้าตั้งใจจะทำ ดังนั้น ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะคิดถึงคำถามบางข้อที่เราจะใช้เพื่อกระตุ้นให้คนอื่นมาประชุมอนุสรณ์ ในบทความนี้ เราจะคุยกันเกี่ยวกับคำถาม 3 ข้อคือ ตั้งแต่แรกพระยะโฮวาตั้งใจอยากให้โลกกับมนุษย์เป็นแบบไหน? มีอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้โลกไม่ได้เป็นอย่างที่พระเจ้าตั้งใจไว้? และค่าไถ่ของพระเยซูเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและทำให้สิ่งที่พระเจ้าตั้งใจไว้เกิดขึ้นจริงได้อย่างไร?
พระเจ้าผู้สร้างตั้งใจอยากให้มนุษย์กับโลกเป็นแบบไหน?
4. สิ่งที่พระเจ้าสร้าง “ประกาศสง่าราศีของพระเจ้า” อย่างไร?
4 พระยะโฮวาเป็นผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ ทุกอย่างที่พระองค์สร้างนั้นยอดเยี่ยม (ปฐก. 1:31; ยรม. 10:12) เราได้เรียนอะไรจากความสวยงามและความเป็นระเบียบที่เราเห็นจากสิ่งที่พระองค์สร้าง? เราได้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งที่พระยะโฮวาสร้างตั้งแต่สิ่งที่เล็กที่สุดไปจนถึงสิ่งที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีจุดมุ่งหมายและมีประโยชน์ ลองคิดถึงเซลล์ของมนุษย์ เด็กทารกที่เพิ่งเกิดใหม่ หรือความสวยงามของดวงอาทิตย์ตกดูสิ คุณรู้สึกอย่างไร? เราชอบและประทับใจในสิ่งเหล่านั้นเพราะพระยะโฮวาสร้างเราให้รับรู้ถึงสิ่งที่สวยงามได้—อ่านสดุดี 19:1; 104:24
5. พระยะโฮวาทำอะไรเพื่อให้ทุกสิ่งที่พระองค์สร้างทำงานกันอย่างเป็นระบบ?
5 พระยะโฮวากำหนดขอบเขตของทุกสิ่งที่พระองค์สร้างไว้อย่างรอบคอบ พระองค์ตั้งกฎธรรมชาติและกฎทางศีลธรรม พระเจ้าตั้งกฎเหล่านั้นเพื่อทุกสิ่งในเอกภพจะทำงานกันอย่างเป็นระบบ (สด. 19:7-9) พระเจ้ากำหนดให้ทุกสิ่งในเอกภพมีตำแหน่งที่ตั้งและมีหน้าที่ของมัน ตัวอย่างเช่น กฎแรงโน้มถ่วงช่วยให้ชั้นบรรยากาศอยู่ใกล้โลก และกฎนี้คอยควบคุมมหาสมุทรและน้ำขึ้นน้ำลง ถ้าไม่มีกฎแรงโน้มถ่วงก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ ขอบเขตที่พระยะโฮวาตั้งไว้ในธรรมชาติช่วยให้เอกภพของเรามีระเบียบอย่างสมบูรณ์แบบ นี่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์และโลกอย่างที่มีจุดมุ่งหมาย ดังนั้น ในงานรับใช้ของเรา เราก็น่าจะช่วยคนอื่นให้รู้เกี่ยวกับพระเจ้าผู้สร้างเอกภพที่น่ามหัศจรรย์นี้—วว. 4:11
6, 7. พระยะโฮวาให้ของขวัญอะไรบ้างกับอาดัมและเอวา?
6 พระยะโฮวาตั้งใจให้มนุษย์มีชีวิตตลอดไปบนโลก (ปฐก. 1:28; สด. 37:29) พระองค์เป็นพระเจ้าที่ใจดี พระองค์ให้ของขวัญที่มีค่าหลายอย่างกับอาดัมและเอวา (อ่านยากอบ 1:17) พระยะโฮวาให้พวกเขามีอิสระที่จะตัดสินใจได้เองและมีความสามารถที่จะคิดหาเหตุผล รู้จักรักและมีความสุขกับมิตรภาพ พระเจ้าผู้สร้างพูดคุยกับอาดัมและสอนเขาให้ทำสิ่งที่ดี อาดัมยังได้เรียนเกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเอง ดูแลสัตว์และโลก (ปฐก. 2:15-17, 19, 20) พระยะโฮวาให้อาดัมกับเอวามีประสาทสัมผัส เช่น การลิ้มรส ดมกลิ่น ได้ยิน สัมผัส และมองเห็นสิ่งดี ๆ มากมายที่พระองค์สร้างให้พวกเขา พวกเขาจึงมีความสุขกับชีวิตในโลกที่เป็นเหมือนบ้านที่สวยงามนี้ นอกจากนั้น อาดัมกับเอวามีงานที่น่าสนใจมากมาย พวกเขาสามารถเรียนรู้และค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ได้ไม่มีวันหมด
7 ยังมีอะไรอีกที่เป็นความตั้งใจของพระเจ้า? พระยะโฮวาให้อาดัมกับเอวามีความสามารถที่จะมีลูกที่เป็นคนสมบูรณ์แบบ และลูก ๆ ของพวกเขาก็จะมีลูกหลานจนในที่สุดจะมีมนุษย์อยู่เต็มโลก พระยะโฮวาอยากให้พ่อแม่ทุกคนรักลูกเหมือนกับที่พระองค์รักอาดัมกับเอวามนุษย์คู่แรก พระองค์ให้โลกนี้กับมนุษย์ และให้ทุกสิ่งที่ยอดเยี่ยมสวยงามในโลกกับพวกเขาด้วย โลกนี้จะเป็นบ้านของพวกเขาตลอดไป—สด. 115:16
มีอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้โลกไม่ได้เป็นอย่างที่พระเจ้าตั้งใจไว้?
8. ทำไมพระยะโฮวาให้กฎหมายที่ปฐมกาล 2:16, 17 กับอาดัมและเอวา?
8 แต่ตอนนั้นสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่พระยะโฮวาอยากให้เป็น เกิดอะไรขึ้น? พระยะโฮวาให้กฎง่าย ๆ ข้อหนึ่งกับอาดัมและเอวา เพื่อจะดูว่าพวกเขารู้ขีดจำกัดของอิสระที่พวกเขามีไหม พระองค์บอกว่า “เจ้ากินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวนนี้ได้จนพอใจ แต่ห้ามกินผลจากต้นไม้ที่ให้รู้ดีรู้ชั่ว ถ้าเจ้ากินผลจากต้นนั้นในวันไหน เจ้าจะต้องตายในวันนั้น” (ปฐก. 2:16, 17) กฎนั้นไม่ยากเกินกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจและทำตาม เพราะพวกเขามีอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมายให้กินในสวนนั้น
9, 10. (ก) ซาตานกล่าวหาอะไรพระยะโฮวา? (ข) อาดัมกับเอวาตัดสินใจทำอะไร? (ดูภาพแรก)
9 มารซาตานใช้งูหลอกเอวาให้ไม่เชื่อฟังพระยะโฮวาพ่อของเธอ (อ่านปฐมกาล 3:1-5; วว. 12:9) ซาตานทำให้เกิดประเด็นขึ้น มันตั้งข้อสงสัยว่าพระเจ้าไม่ให้มนุษย์ที่เป็นลูกของพระองค์ “กินผลไม้ทุกต้นในสวนนี้” การพูดแบบนี้เหมือนกับว่าซาตานบอกว่า ‘พวกคุณทำอะไรที่อยากทำไม่ได้เลยเหรอ?’ จากนั้น ซาตานก็บอกเอวาว่า “พวกคุณจะไม่ตายหรอก” ซาตานโกหก หลังจากนั้นมันก็พยายามโน้มน้าวเอวาว่าเธอไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังพระเจ้า มันบอกว่า “พระเจ้าก็รู้ว่า ในวันที่พวกคุณกินผลของต้นนั้น พวกคุณจะตาสว่าง” ซาตานกำลังบอกเอวาว่าพระยะโฮวาไม่อยากให้พวกเขากินผลไม้นั้นเพราะมันจะทำให้พวกเขามีความรู้พิเศษ สุดท้าย ซาตานก็ให้คำสัญญาที่หลอกลวงว่า “พวกคุณ . . . จะเป็นเหมือนพระเจ้า รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว”
10 อาดัมและเอวาต้องตัดสินใจ พวกเขาจะฟังพระเจ้า หรือฟังซาตาน? น่าเสียดายที่พวกเขาตัดสินใจไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาปฏิเสธพระยะโฮวาพ่อของพวกเขาและไปเข้าร่วมกับซาตาน พวกเขาต้องอยู่ด้วยตัวเองและไม่ได้รับการปกป้องจากพระเจ้าอีกต่อไป—ปฐก. 3:6-13
11. ทำไมพระยะโฮวามองข้ามความผิดของอาดัมกับเอวาไม่ได้?
11 เนื่องจากอาดัมกับเอวาไม่ทำตามกฎหมายของพระเจ้า พวกเขาจึงไม่ได้เป็นคนสมบูรณ์แบบอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น การทำชั่วของพวกเขาทำให้พวกเขากลายเป็นศัตรูของพระเจ้าเพราะพระองค์เกลียดความชั่ว คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ตาของพระองค์บริสุทธิ์เกินกว่าจะมองดูสิ่งชั่วช้า” (ฮบก. 1:13) ถ้าพระยะโฮวาไม่จัดการกับความผิดที่อาดัมกับเอวาทำ สิ่งอื่น ๆ ที่พระองค์สร้างจะมีปัญหารวมทั้งความหวังในอนาคตของพวกเขาด้วย ทั้งทูตสวรรค์และมนุษย์อาจสงสัยว่าจะเชื่อคำพูดของพระเจ้าได้อีกไหม แต่พระยะโฮวาซื่อสัตย์กับมาตรฐานของพระองค์ พระองค์ไม่ฝ่าฝืนสิ่งที่พระองค์ตั้งไว้ (สด. 119:142) ถึงแม้อาดัมกับเอวามีอิสระที่จะคิดตัดสินใจได้เอง แต่พวกเขาก็ต้องรับผลเสียจากการกบฏขัดขืนพระยะโฮวา พวกเขาต้องตายและกลับไปเป็นดิน—ปฐก. 3:19
12. เกิดอะไรขึ้นกับลูกหลานของอาดัม?
12 เนื่องจากอาดัมและเอวากินผลไม้นั้น พระยะโฮวาจึงไม่ยอมรับพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพระองค์อีกต่อไป พระองค์ให้พวกเขาออกจากสวนเอเดนและไม่ให้พวกเขามีโอกาสกลับไปที่นั่นได้อีก (ปฐก. 3:23, 24) พระยะโฮวาให้พวกเขาเจอกับผลเสียหายที่เกิดจากการตัดสินใจที่ไม่ดีของพวกเขา (อ่านเฉลยธรรมบัญญัติ 32:4, 5) ผลคือ อาดัมและเอวาไม่สามารถเลียนแบบคุณลักษณะของพระยะโฮวาได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกต่อไป อาดัมเสียโอกาสที่จะมีอนาคตที่ดีเยี่ยม และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ลูกหลานทั้งหมดของเขาด้วย อาดัมทำได้แค่เพียงถ่ายทอดความไม่สมบูรณ์ บาป และความตาย (รม. 5:12) อาดัมทำให้ลูกหลานของเขาเสียโอกาสที่จะมีชีวิตตลอดไป เขากับเอวาไม่สามารถมีลูกที่สมบูรณ์แบบได้ และลูก ๆ ของเขาก็ไม่สามารถมีลูกหลานที่สมบูรณ์แบบได้เหมือนกัน ตั้งแต่ที่ซาตานทำให้มนุษย์คู่แรกเป็นศัตรูกับพระเจ้า มันก็พยายามทำให้มนุษย์ทุกคนเป็นอย่างนั้นด้วยเหมือนกัน—ยน. 8:44
ค่าไถ่ทำให้เราเป็นเพื่อนกับพระเจ้าได้
13. พระยะโฮวาอยากให้มนุษย์มีอนาคตแบบไหน?
13 พระยะโฮวายังรักมนุษย์อยู่ ถึงแม้อาดัมกับเอวาจะทิ้งพระองค์แต่พระองค์ก็ยังอยากให้มนุษย์เป็นเพื่อนกับพระองค์ และพระองค์ไม่อยากให้ใครสักคนต้องตาย (2 ปต. 3:9) ดังนั้น ทันทีหลังจากอาดัมกับเอวากบฏ พระเจ้าได้จัดเตรียมวิธีที่มนุษย์จะกลับมาเป็นเพื่อนกับพระองค์อีก แต่พระองค์จะทำอย่างนั้นได้อย่างไรโดยไม่ฝ่าฝืนกฎหรือมาตรฐานของพระองค์เอง? ให้เรามาดูด้วยกัน
14. (ก) จากยอห์น 3:16 พระเจ้าทำอะไรเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดจากบาปและความตาย? (ข) เราจะคุยกับผู้คนเกี่ยวกับคำถามอะไร?
14 อ่านยอห์น 3:16 อาจมีบางคนที่เราเชิญมาประชุมอนุสรณ์รู้จักและท่องข้อนี้ได้ แต่ค่าไถ่ของพระเยซูทำให้เรามีโอกาสมีชีวิตตลอดไปได้อย่างไร? เรามีโอกาสช่วยคนอื่นให้เข้าใจคำตอบของคำถามนี้ได้ทั้งในตอนที่เราเชิญพวกเขามาที่การประชุมอนุสรณ์ ตอนที่เราอยู่กับพวกเขาในการประชุม และตอนที่เรากลับไปเยี่ยมพวกเขาหลังจากนั้น ยิ่งพวกเขาเข้าใจเรื่องค่าไถ่มากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งประทับใจว่าพระยะโฮวารักมนุษย์มากขนาดไหนและเป็นพระเจ้าที่ฉลาดขนาดไหนด้วย ดังนั้น มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับค่าไถ่ที่เราน่าจะบอกพวกเขา?
15. พระเยซูแตกต่างกับอาดัมอย่างไร?
15 พระยะโฮวาจัดให้มีมนุษย์สมบูรณ์แบบคนหนึ่งที่สามารถให้ชีวิตของเขาเป็นค่าไถ่ได้ มนุษย์สมบูรณ์คนนี้ต้องซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้า เขาต้องเต็มใจตายและสละชีวิตให้มนุษย์ (รม. 5:17-19) พระยะโฮวาย้ายชีวิตของพระเยซูผู้แรกที่พระองค์สร้างจากสวรรค์ลงมาบนโลก (ยน. 1:14) ดังนั้น พระเยซูจึงเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบเหมือนกับที่อาดัมเคยเป็น แต่พระเยซูไม่เหมือนอาดัมตรงที่ว่า ท่านทำตามมาตรฐานของพระยะโฮวาอย่างที่พระองค์คาดหมายจากมนุษย์สมบูรณ์ได้อย่างครบถ้วน ถึงแม้พระเยซูต้องเจอกับการทดสอบที่ยากลำบากที่สุด แต่ท่านก็ไม่เคยฝ่าฝืนกฎหมายของพระเจ้าเลย
16. ทำไมค่าไถ่ถือเป็นของขวัญที่มีค่ามาก?
16 พระเยซูเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ท่านตายเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสที่จะไม่ต้องมีบาปและต้องตายอีก พระเยซูเป็นทุกอย่างที่อาดัมควรจะเป็น พระเยซูเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ท่านเป็นคนที่ซื่อสัตย์ภักดีและเชื่อฟังพระเจ้าทุกอย่าง (1 ทธ. 2:6) พระเยซูตายเพื่อพวกเรา และค่าไถ่ของท่านทำให้มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือเด็ก ๆ มีโอกาสมีชีวิตตลอดไป (มธ. 20:28) ค่าไถ่เป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและทำให้สิ่งที่พระเจ้าตั้งใจไว้เกิดขึ้นจริง—2 คร. 1:19, 20
พระยะโฮวาเปิดโอกาสให้เรากลับไปหาพระองค์
17. ค่าไถ่ทำให้เรื่องอะไรเป็นไปได้?
17 พระยะโฮวาจัดเตรียมค่าไถ่ที่มีราคาสูงมาก (1 ปต. 1:19) นี่แสดงว่าพวกเรามีค่ามากในสายตาของพระองค์ พระองค์ถึงเต็มใจให้ลูกชายที่พระองค์รักมากมาตายเพื่อพวกเรา (1 ยน. 4:9, 10) ในแง่หนึ่ง พระเยซูจึงกลายเป็นพ่อของพวกเราแทนอาดัม (1 คร. 15:45) พระเยซูให้พวกเรามีโอกาสที่ดีมากมาย ไม่ใช่แค่มีชีวิตตลอดไป แต่ในที่สุดเราจะได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพระเจ้า เนื่องจากค่าไถ่พวกเราจึงมีโอกาสได้เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้พระยะโฮวาสามารถยอมรับเรากลับมาในครอบครัวของพระองค์ได้โดยไม่ได้ฝ่าฝืนกฎของพระองค์เอง ลองคิดดูสิว่ามันจะดีขนาดไหนตอนที่ทุกคนที่ซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาจะกลายเป็นคนสมบูรณ์แบบ ในที่สุด ทุกคนในสวรรค์และโลกจะเป็นครอบครัวเดียวกัน เราทุกคนจะเป็นลูกของพระเจ้า—รม. 8:21
18. ตอนไหนที่พระยะโฮวาจะ “เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับทุกคน”?
18 ถึงแม้ว่าพ่อแม่คู่แรกของเราจะกบฏต่อพระยะโฮวา แต่พระองค์ก็ไม่ได้เลิกรักมนุษย์ พระองค์จัดให้มีค่าไถ่เพื่อพวกเรา และถึงแม้ว่าเราจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ซาตานก็ไม่สามารถขัดขวางเรา มันไม่สามารถทำให้เราไม่ซื่อสัตย์ภักดีต่อพระยะโฮวาได้ โดยทางค่าไถ่พระยะโฮวาจะช่วยเราให้เป็นคนดีพร้อมและทำตามมาตรฐานของพระองค์ได้อย่างครบถ้วน ลองคิดดูว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรเมื่อทุกคนที่ “ยอมรับและแสดงความเชื่อในลูกของพระองค์มีชีวิตตลอดไป” (ยน. 6:40) พระเจ้าผู้เป็นพ่อที่ฉลาดและรักเรามากจะทำให้สิ่งที่พระองค์ตั้งใจไว้เกิดขึ้นจริงและทำให้ทุกคนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ แล้วตอนนั้นพระยะโฮวาก็ “จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับทุกคน”—1 คร. 15:28
19. (ก) ถ้าเรารู้สึกขอบคุณสำหรับค่าไถ่ เราจะทำอะไร? (ดูกรอบ “ไปหาคนที่เต็มใจต้อนรับคุณและสนใจฟัง”) (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความถัดไป?
19 ถ้าเรารู้สึกขอบคุณสำหรับค่าไถ่ เราก็น่าจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับของขวัญที่มีค่านี้ ผู้คนต้องรู้ว่าพระยะโฮวารักมนุษย์ทุกคน และพระองค์ให้พวกเขามีโอกาสได้มีชีวิตตลอดไปโดยทางค่าไถ่ของพระเยซู แต่ค่าไถ่มีประโยชน์มากกว่านั้นอีก ค่าไถ่จัดการประเด็นที่ซาตานยกขึ้นมาในสวนเอเดน เราจะดูเรื่องนี้ในบทความถัดไป