“ให้ผู้ใดที่ได้ยิน กล่าวว่า‘เชิญมาเถิด!’”
“พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า ‘เชิญมาเถิด!’ และให้ผู้ใดที่ได้ยิน กล่าวว่า ‘เชิญมาเถิด!’ และให้ผู้ใดที่กระหายมา; ให้ผู้ใดปรารถนารับน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องเสียค่า.”—วิวรณ์ 22:17, ล.ม.
ปีหน้าตลอดทั้งปี พยานพระยะโฮวาในที่ต่าง ๆ กว่า 200 ประเทศทั่วโลกจะทำงานอย่างเสียสละให้ประสานกับข้อคัมภีร์ประจำปี 1991 ที่ว่า:“ให้ผู้ใดที่ได้ยิน กล่าวว่า: ‘เชิญมาเถิด!’”
1. เราได้รับเชิญให้ “มา” ถึง “น้ำ” ชนิดไหน?
คุณได้รับเชิญว่า “มาเถิด!” มาเพื่อสิ่งใด? ก็มาดื่มน้ำดับกระหายอย่างไรล่ะ. นี้ไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำอย่างเดียวกับที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสแก่หญิงชาวซะมาเรียที่บ่อน้ำว่า “ผู้ใดที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย แต่น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุพลุ่งขึ้นในตัวเขาเพื่อให้ชีวิตนิรันดร์.” (โยฮัน 4:4, ล.ม.) พระเยซูได้ “น้ำ” ดังกล่าวจากที่ไหน?
2. อะไรคือที่มาของ “น้ำ” ชนิดนี้ และน้ำนี้ไหลภายหลังเหตุการณ์อะไร?
2 อัครสาวกโยฮันได้สิทธิพิเศษที่จะเห็นในนิมิตที่ชี้ถึงบ่อเกิดของ “น้ำ” นี้ดังที่ท่านบันทึกไว้ในวิวรณ์ 22:1 (ฉบับแปลใหม่) ว่า “ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้วไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และพระที่นั่งของพระเมษโปดก.” ใช่แล้ว บ่อเกิดของน้ำใสเหมือนแก้วพร้อมด้วยปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งให้มีชีวิตนี้ จะเป็นอะไรอื่นไม่ได้นอกจากพระยะโฮวาผู้ประทานชีวิต ผู้ทรงจัดให้เป็นไปได้โดยทางพระเยซูคริสต์พระเมษโปดก. (เทียบวิวรณ์ 21:6.) เนื่องจากมีการพูดถึง “พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดก” จึงคงต้องเป็นภายหลังการสถาปนาราชอาณาจักรมาซีฮาในปี 1914 นั้นที่น้ำแห่งชีวิตเริ่มไหล หลังจากวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้เริ่มแล้ว.—วิวรณ์ 1:10.
3, 4. “น้ำ” เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสิ่งใด และมีให้สำหรับผู้ใด?
3 น้ำแห่งชีวิตนี้เป็นสัญลักษณ์ชี้ถึงสิ่งใด? นั่นเป็นภาพเล็งถึงการจัดเตรียมที่มาจากพระเจ้าเพื่อกู้ชีวิตมนุษย์ให้คืนสภาพสมบูรณ์ คือมีชีวิตตลอดไปในสภาพสมบูรณ์พร้อม อยู่บนแผ่นดินโลกที่เปลี่ยนสภาพเป็นอุทยาน. น้ำแห่งชีวิตหมายถึงการจัดเตรียมทุกอย่างเพื่อชีวิตผ่านทางพระเยซูคริสต์. ทั้งหมดนี้มีพร้อมแล้วหรือ? เปล่า ยังไม่ครบทุกประการ เพราะก่อนอื่นพระเจ้าต้องกำจัดระบบชั่วสมัยปัจจุบันนี้รวมทั้งซาตานมารผู้มีอำนาจครอบงำอันไม่ประจักษ์. แต่เวลานี้เราสามารถรับเอาบางส่วนจาก “น้ำ” ซึ่งมีอยู่แล้วโดยการรับฟังและเชื่อฟังข่าวดีแห่งราชอาณาจักร และนำชีวิตของเราเข้าประสานกับข่าวดีแห่งราชอาณาจักรนั้น.—โยฮัน 3:16; โรม 12:2.
4 ด้วยเหตุนั้น ครั้นพระเยซูได้แสดงให้โยฮันเห็น ‘แม่น้ำแห่งชีวิต’ แล้ว พระองค์ตรัสแก่โยฮันถึงพระประสงค์ของพระองค์ในการส่งทูตสวรรค์พร้อมกับนิมิต. แล้วโยฮันได้ยินเสียงประกาศว่า “พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า ‘เชิญมาเถิด!’ และให้ผู้ใดที่ได้ยิน กล่าวว่า ‘เชิญมาเถิด!’ และให้ผู้ใดที่กระหายมา; ให้ผู้ใดที่ปรารถนารับน้ำแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียค่า.” (วิวรณ์ 22:17, ล.ม.) ฉะนั้น ผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงกล่าวคำเชิญไปยังคนกระหายให้มาเริ่มดื่มจากการจัดเตรียมของพระเจ้าเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร์อยู่บนแผ่นดินโลกโดยทางพระเมษโปดกของพระเจ้า.—โยฮัน 1:29.
เกิดมีความต้องการน้ำที่ให้ชีวิต
5. เป็นมาอย่างไรที่วิธีจัดเตรียมของพระเจ้าเช่นนี้จำเป็นสำหรับมนุษยชาติ?
5 น่าเสียดาย บิดามารดาคู่แรกของมนุษย์ไม่ได้ยึดอยู่กับแนวทางอันจะทำให้บรรดาลูกหลานของตนมีโอกาสชื่นชมกับสภาพชีวิตเยี่ยงมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมตลอดไปในบ้านที่เป็นอุทยาน. ชีวิตนิรันดรสำหรับมนุษยชาติเรียกร้องให้อาดามใช้สติปัญญาเลือกเอาการรับใช้พระผู้สร้างด้วยความเชื่อฟัง. เมื่อตกอยู่ในอำนาจจูงใจของวิญญาณชั่วผู้ทรยศนั้น ฮาวาได้เข้าสู่แนวทางซึ่งยังผลเป็นความตายมาสู่มนุษย์ และอาดามสามีของนางซึ่งสมบูรณ์พร้อม สมัครใจร่วมสมทบกับนางในแนวทางที่นำไปสู่ความตาย. ด้วยเหตุนั้น ในฐานะที่อาดามเป็นบิดาให้ชีวิตตามธรรมชาติแก่มนุษย์รุ่นต่อ ๆ มา ตามจริงแล้ว เขาเป็นผู้นำเอาปฏิบัติการซึ่งยังความตายเข้ามาในครอบครัวมนุษย์ทั้งสิ้น. ดังนั้น จึงเป็นอย่างที่คัมภีร์ไบเบิลว่า “ความผิดได้เข้ามาในโลกเพราะคน ๆ เดียว และความตายก็เกิดมาเพราะความผิดนั้น อย่างนั้นแหละความตายจึงได้ลามไปถึงคนทั้งปวงเพราะคนทั้งปวงเป็นคนผิดอยู่แล้ว.” (โรม 5:12) อาดามกับฮาวามีบุตรเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ให้กับครอบครัวมนุษย์หลังจากเขาได้ถลำเข้าสู่การบาป.—บทเพลงสรรเสริญ 51:5.
6. ทำไมพระยะโฮวาจึงจัดเตรียม “น้ำ” นี้?
6 พระเจ้าจะถูกขัดขวางตลอดไปไหมในการกระทำให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของพระองค์ว่าด้วยแผ่นดินโลกเป็นอุทยานและเต็มไปด้วยมนุษย์สมบูรณ์? คำตอบในคัมภีร์คือ ไม่เป็นอย่างนั้นแน่ ๆ. อย่างไรก็ดี เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายของพระองค์ พระยะโฮวาได้ทรงทำการจัดเตรียมด้วยความรักซึ่งจะลบล้างการผิดของอาดามอันก่อความหายนะนั้นเสีย กระนั้นก็ยังลงรอยเต็มที่กับความยุติธรรมและความชอบธรรม ซึ่งพระองค์ทรงสำแดงครบถ้วนและเยี่ยมยอดจริง ๆ. พระองค์ทรงทำการนี้ผ่านทาง “แม่น้ำแห่งชีวิต.” โดยแม่น้ำแห่งชีวิตนี้ พระองค์จะกู้ชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ให้แก่มนุษย์ที่เชื่อฟัง ซึ่งการเข้าถึงบ่อเกิดแห่งชีวิตนั้นได้ถูกเพิกถอนไปแล้ว. แม่น้ำนี้จะไหลเต็มที่ระหว่างรัชสมัยพันปีแห่งการปกครองของพระเยซูคริสต์. ดังนั้น ในสมัยการปกครองพันปีของพระคริสต์ มวลมนุษย์รวมทั้งคนที่ถูกปลุกขึ้นจากตายต้องดื่มจาก “แม่น้ำแห่งชีวิต.”—เทียบกับยะเอศเคล 47:1-10; กิจการ 24:15.
7. การจัดเตรียมให้มี “น้ำ” เช่นนี้อาศัยอะไรเป็นพื้นฐาน?
7 พระยะโฮวาทรงชื่นชมกับชีวิตของพระองค์ นอกจากนั้นพระองค์ทรงยินดีให้สิทธิพิเศษที่จะมีชีวิตประกอบด้วยเชาวน์ปัญญาแก่บางส่วนที่พระองค์ได้ทรงสร้างสรรค์ขึ้นมา. พื้นฐานแห่งการจัดเตรียมของพระยะโฮวาเพื่อให้ชีวิตนั้นได้แก่เครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู. (มาระโก 10:45; 1 โยฮัน 4:9, 10) สิ่งที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วยคือพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งบางครั้งพระคัมภีร์เปรียบเป็น “น้ำ.” (เอเฟโซ 5:26) พระยะโฮวาสามารถตรัสได้อย่างเต็มที่ว่า “มาเถิด!” แก่มนุษย์ซึ่งได้สูญเสียการจัดเตรียมแต่เดิมซึ่งพระเจ้ากระทำไว้สำหรับอาดามกับฮาวามนุษย์สมบูรณ์.
ชนจำพวกเจ้าสาวกล่าวคำเชิญว่า “มาเถิด”
8. การจัดให้มี “น้ำ” เช่นนี้ขึ้นครั้งแรกนั้นสำหรับใครและเมื่อไร?
8 กลุ่มแรกที่แผ่คำเชิญว่า “มาเถิด!” นั้น คือบุคคลซึ่งประกอบกันเป็นเจ้าสาวเชิงอุปมาของพระเมษโปดก บุตรหัวปีของพระยะโฮวาฝ่ายวิญญาณ. (วิวรณ์ 14:1, 3, 4; 21:9) เจ้าสาวฝ่ายวิญญาณของพระคริสต์ไม่กล่าว “มาเถิด!” กับตัวเอง คือกับคนเหล่านั้นซึ่งพระเจ้ายะโฮวายังจะรวบรวมเข้ามาเป็นจำพวกเจ้าสาว เพื่อทำให้ชนจำพวก 144,000 คนนี้ครบถ้วน. คำเชิญนั้นมีไปยังคนทั้งหลายซึ่งหวังจะบรรลุชีวิตอย่างมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมบนแผ่นดินโลกภายหลังอาร์มาเก็ดดอน. (วิวรณ์ 16:14, 16) ในช่วงนี้ตั้งแต่ปี 1914 อันเป็นช่วงอวสานของระบบปัจจุบัน เราได้ยินเสียงคำเชิญจาก “เจ้าสาว” พร้อมด้วยการช่วยเหลือแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า.
9. เราทราบได้อย่างไรว่าการจัดเตรียมนี้ไม่ใช่สำหรับกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น?
9 พระธรรมเล่มสุดท้ายของคัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นอย่างน่าตื่นเต้นว่า “ชนฝูงใหญ่ ซึ่งไม่มีใครนับจำนวนได้!” จะขานตอบต่อเสียงประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้า แล้วเขาจะตั้งตัวมั่นคงอยู่ฝ่ายรัฐบาลแห่งมหากษัตริย์นั้น. (วิวรณ์ 7:9, 10, 16, 17) คุณเป็นคนหนึ่งในชนฝูงใหญ่ไหม? เช่นนั้นแล้ว “ให้ผู้ที่ได้ยินคำ กล่าวว่า ‘เชิญมาเถิด!’”
พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า “เชิญมาเถิด!”
10. น้ำโดยนัยนั้นต้องมาจากแหล่งไหน และทำไม?
10 แต่ทำไมจึงไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าและเจ้าบ่าวโดยอุปมานั้นที่วิวรณ์ 22:17? ประการแรก จงสังเกตว่าข้อนี้ไม่บอกว่าพระวิญญาณปฏิบัติการภายใต้การชี้นำของผู้ใด. กระนั้น การอ้างอิงถึงพระวิญญาณทำให้เรามุ่งความสนใจไปยังพระเจ้ายะโฮวาโดยตรง. พระบิดาหาได้ถูกลบจากภาพไม่ เนื่องจากพระองค์เป็นแหล่งกำเนิดพระวิญญาณบริสุทธิ์. ประการที่สองพระบุตรร่วมงานใกล้ชิดกับพระบิดา ดังที่พระบุตรเองตรัสว่า “พระบุตรจะกระทำสิ่งใดแต่ลำพังตนเองไม่ได้ เว้นไว้ซึ่งได้เห็นพระบิดาทรงกระทำ.” (โยฮัน 5:19) ยิ่งกว่านั้น ขณะที่คำเชิญนี้เป็นการพูดโดยได้รับการดลบันดาลจากพระยะโฮวาอันเป็นแหล่งที่มาสูงสุด มนุษย์เราจึงได้รับการชี้นำหรือ ‘ถ้อยคำที่ได้รับการดลบันดาล’ โดยทางพระเยซูคริสต์ หรือ “พระวาทะ.” (วิวรณ์ 22:6, ล.ม.; และ 22:17 ด้วย. คัมภีร์ฉบับอ้างอิง หมายเหตุ; โยฮัน 1:1) ดังนั้น นับว่าเหมาะสมทีเดียวที่เราเข้าใจว่าพระคริสต์เจ้าบ่าวร่วมอยู่ในการเชิญครั้งนี้. แน่นอน เรามั่นใจได้ว่าพระเจ้ายะโฮวา พระบิดาของเจ้าบ่าว และพระเยซูคริสต์เจ้าบ่าวร่วมสมทบกับ “เจ้าสาว” โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการกล่าวว่า “เชิญมาเถิด!”
11, 12. (ก) มีข้อบ่งชี้อะไรในตอนแรกว่าจะมีการแพร่กระจายคำเชิญให้ดื่มน้ำดังกล่าว? (ข) เรื่องนี้ปรากฏชัดแจ้งยิ่งขึ้นอย่างไรตลอดปีต่าง ๆ ที่ผ่านมา?
11 นับเป็นเวลาหลายสิบปีทีเดียว คำเชิญชวนที่ว่า “เชิญมาเถิด!” นี้ได้แพร่ออกไปถึงผู้คนซึ่งกระหาย “น้ำแห่งชีวิต.” แม้ย้อนหลังไปในปี 1918 ชนจำพวกเจ้าสาวได้เริ่มประกาศข่าวสารซึ่งเกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับผู้ที่อาจมีชีวิตอยู่ทางแผ่นดินโลก. นั่นคือในรูปของปาฐกถาสาธารณะชื่อเรื่อง “หลายล้านคนที่มีชีวิตอยู่สมัยนี้อาจจะไม่ตาย.” ทั้งนี้ได้ให้ความหวังว่าคนมากมายจะรอดชีวิตผ่านสงครามอาร์มาเก็ดดอน และหลังจากนั้นจะได้รับชีวิตนิรันดร์อยู่บนแผ่นดินโลกสภาพเป็นอุทยานภายใต้ราชอาณาจักรของพระเจ้าซึ่งปกครองโดยพระมาซีฮา. แต่ข่าวสารนั้นไม่ได้แจ้งแน่นอนถึงแนวทางจะได้สิทธิพิเศษเพื่อรอดชีวิต นอกจากกล่าวถึงความชอบธรรมโดยทั่วไป.
12 ที่จะให้ประชาชนมากยิ่งขึ้นได้ยินคำกล่าวที่ว่า “เชิญมาเถิด!” ปี 1922 จึงได้มีการให้ข่าวสารแก่บรรดาผู้สนใจในการปฏิบัติพระเจ้าที่ว่า “จงโฆษณาพระมหากษัตริย์และราชอาณาจักร.” ปี 1923 ชนจำพวกเจ้าสาวเข้าใจว่า “แกะ” กับ “แพะ” ในอุทาหรณ์ของพระเยซูที่มัดธาย 25:31-46 นั้นปรากฏตัวก่อนอาร์มาเก็ดดอน. และในปี 1929 วารสารวอชเทาเวอร์ วันที่ 15 มีนาคมได้ลงบทความเด่นเรื่อง “คำเชิญที่เปี่ยมด้วยพระกรุณา.” ข้อคัมภีร์หลักที่ใช้ในบทความนี้คือวิวรณ์ 22:17 และได้เน้นความรับผิดชอบของชนจำพวกเจ้าสาวที่จะแพร่กระจายคำเชิญที่ว่า “เชิญมาเถิด!”—หน้า 87-89.a
แกะอื่นเข้ามาร่วมกล่าวคำ “เชิญมาเถิด!”
13, 14. ระหว่างทศวรรษปี 1930 ได้มีการให้ความกระจ่างมากขึ้นอย่างไรที่ว่าคนอื่นจะได้ดื่มน้ำโดยนัย?
13 ยิ่งกว่านั้น นับแต่ปี 1932 นั้นทีเดียว วารสารวอชเทาเวอร์ ได้ชี้ถึงความรับผิดชอบของ “แกะอื่น” ที่จะร่วมกล่าวคำ “เชิญมาเถิด!” ด้วย. (โยฮัน 10:16) วารสารนั้น ฉบับ 1 สิงหาคม หน้า 232 วรรค 29 กล่าวดังนี้: “เวลานี้พยานพระยะโฮวามีความร้อนรนอย่างที่เยฮูเคยมี และเขาควรสนับสนุนชนจำพวกโยนาดาบ (แกะอื่น) ให้มาด้วยกันและเข้าส่วนในการประกาศแก่คนอื่น ๆ ถึงเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าที่ใกล้เข้ามาแล้ว.” ครั้นแล้ว หลังจากได้ยกข้อความจากวิวรณ์ 22:17 คำชี้แจงในวรรค์นั้นมีดังนี้ “จงให้ผู้ถูกเจิมส่งเสริมทุกคนซึ่งเต็มใจให้เข้าส่วนร่วมบอกข่าวดีแห่งราชอาณาจักร. คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ถูกเจิมของพระองค์ที่จะประกาศข่าวสารขององค์พระผู้เป็นเจ้า. พยานทั้งหลายของพระยะโฮวายินดีมากที่รู้ว่าบัดนี้เขาได้รับอนุญาตให้นำน้ำแห่งชีวิตนี้ไปแจกแก่ประชาชนจำพวกหนึ่งซึ่งโดยพระกรุณาคุณอันอุดมของพระยะโฮวาเขาอาจผ่านอาร์มาเก็ดดอนได้แล้วมีชีวิตอยู่ต่อไปบนแผ่นดินโลก.”b
14 นับจากปี 1934 ต่อมา ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมได้ชี้ให้เห็นว่า บัดนี้แกะอื่นต้องทำการอุทิศตัวแด่พระเจ้าและแสดงเครื่องหมายการอุทิศตัวโดยการรับบัพติสมา ครั้นแล้วร่วมสมทบกับชนจำพวกเจ้าสาวด้วยการกล่าวแก่คนอื่น ๆ ที่กระหายว่า “เชิญมาเถิด!” ด้วยเหตุนั้น การให้คำเชิญอันแน่นอนซึ่งตอนนั้นทำโดยชนจำพวกเจ้าสาว ก็เพื่อรวบรวมแกะอื่นซึ่งกระหายให้มารวมเป็น “ฝูงเดียว” อยู่ภายใต้ “ผู้เลี้ยงผู้เดียว” คือพระเยซูคริสต์. (โยฮัน 10:16) ในปี 1935 ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมได้รับการปลุกใจให้รับรู้ ณ การประชุมใหญ่ของพวกเขาปีนั้นว่า ผู้คนที่ถูกจัดให้เป็นฝูงแกะซึ่งพวกเขาได้กล่าวคำ “เชิญมาเถิด!” นั้น แท้จริงแล้ว คนเหล่านั้นเป็น “ชนฝูงใหญ่” ที่มีกล่าวในวิวรณ์ 7:9-17. ทั้งนี้เป็นการกระตุ้นการงานแผ่คำเชิญอย่างมโหฬารทีเดียว.
15. “พระวิญญาณ” เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรในคำเชิญที่ว่า ‘มาเถิด’?
15 ด้วยการกล่าวว่า “เชิญมาเถิด!” ชนจำพวกเจ้าสาวจึงทำงานประสานกับพระวิญญาณของพระเจ้า. โดยการใช้พระวิญญาณของพระองค์เผยความหมายของคำพยากรณ์ต่าง ๆ ในพระวจนะที่ได้จารึกไว้ พระองค์จึงเป็นต้นเหตุให้ชนที่เหลือจำพวกเจ้าสาวแพร่คำเชิญออกไป. คำพยากรณ์เหล่านี้ซึ่งพวกเขายึดเป็นหลักก็ได้รับการดลบันดาลโดยพระวิญญาณของพระเจ้า. ฉะนั้น จึงเป็นอันว่าพระวิญญาณของพระเจ้าไหลหลั่งผ่านพระคริสต์และเจ้าสาวของพระองค์ซึ่งบอกว่า “เชิญมาเถิด!” แก่ชนฝูงใหญ่ที่มีนิสัยเยี่ยงแกะ.—วิวรณ์ 19:10.
16. พระวิญญาณและเจ้าสาวเข้ามามีส่วนร่วมในการเชิญสมัยปัจจุบันนี้อย่างไร?
16 กระทั่งเวลานี้ชนที่เหลือซึ่งดำเนินงานฐานะตัวแทนของพระวิญญาณและเจ้าสาว “ก็ว่า ‘เชิญมาเถิด!’” ชนที่เหลือบอกแกะอื่นเหล่านี้ให้เชิญคนอื่นต่อไปว่า “เชิญมาเถิด!” มิใช่ว่าพวกเขาจะเก็บ “น้ำแห่งชีวิต” เท่าที่หาได้ในเวลานี้ไว้สำหรับตัวเอง. พวกเขาต้องเชื่อฟังคำสั่งจาก “พระวิญญาณและเจ้าสาว” ที่ “ให้ผู้ใดที่ได้ยิน กล่าวว่า ‘เชิญมาเถิด!’” คนเหล่านั้นทุกคนที่ดื่มดับความกระหายแล้วแพร่กระจายคำเชิญต่อไปเรื่อย ๆ. พวกเขาต้องแพร่คำเชิญไปถึงทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ภาษา หรือศาสนาในปัจจุบัน—กล่าวกับทุกคนทุกแห่ง! “น้ำแห่งชีวิต” เท่าที่มีอยู่และหาได้ในสมัยปัจจุบันนี้แหละที่พยานพระยะโฮวาได้เชิญและสนับสนุนผู้คนทุกชาติทุกประเทศให้มาดื่มโดยไม่เสียค่าอะไร!
17. “น้ำ” ชนิดใดที่พอจะหาได้ในทุกวันนี้?
17 พระเยซูคริสต์พระเมษโปดกทรงนำทางชนฝูงใหญ่ทั่วโลกไปยัง “น้ำพุอันประกอบด้วยชีวิต.” (วิวรณ์ 7:17) น้ำนี้ไม่มีมลพิษ แต่เป็นน้ำดี ใสสะอาด เย็นชื่นใจจากแหล่งน้ำโดยตรง. น้ำโดยนัยนี้มีความสำคัญมากยิ่งกว่าน้ำที่หมายถึงความเข้าใจความจริงเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล น้ำนี้หมายถึงการจัดเตรียมทุกอย่างจากพระเจ้าผ่านพระเยซูซึ่งแม้ในเวลานี้เริ่มจัดชนฝูงใหญ่เข้าไว้บนเส้นทางสู่ชีวิตสมบูรณ์มีความสุขตลอดไป.
จงร่วมในการประกาศเสียแต่บัดนี้
18. คำเชิญได้แพร่ไปอย่างกว้างขวางเพียงใดในสมัยของเรา?
18 ชนฝูงใหญ่นี้มีจำนวนหลายล้านคนแล้ว. พวกเขากระตือรือร้นประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรอย่างไม่ลดละแก่ผู้คนตลอดทั่วโลก. เขารายงานกิจกรรมการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรเป็นประจำซึ่งเวลานี้ข่าวสารไปถึง 212 ประเทศ. เท่าที่เรามีเวลาเหลืออยู่ในช่วงอวสานของระบบนี้ การแพร่คำเชิญก็ยังดำเนินต่อไปสุดแล้วแต่ความอดกลั้นทนนานของพระเจ้ายะโฮวา ผู้รักษาเวลาองค์ใหญ่ยิ่ง. พระองค์ทรงทราบเมื่อหมดเวลา และเมื่อถึงเวลาที่พระองค์จะประกาศแก่มนุษย์ทั้งปวงให้รู้จักว่าพระองค์คือพระยะโฮวา ดังที่พระองค์ได้ทรงสัญญาว่าจะกระทำตามคำที่กล่าวไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าในคำพยากรณ์ของคัมภีร์ไบเบิล.—ยะเอศเคล 36:23; 38:21-23; 39:7.
19. เหตุใดเรากล่าวได้ว่า “น้ำ” ชนิดนี้ดื่มได้โดยไม่เสียค่าอะไร?
19 เหตุฉะนั้น ขณะที่เวลายังเหลืออยู่ สมาชิกแห่งชนฝูงใหญ่จึงร่วมกับชนที่เหลือจำพวกเจ้าสาวด้วยความชื่นชมเพื่อกล่าวว่า ‘เชิญมารับน้ำแห่งชีวิตโดยไม่เสียค่าอะไรเลย!’ ผู้ประกาศข่าวดีที่ช่วยชีวิตให้รอดนี้ต่างก็เต็มใจป่าวประกาศ ไม่เรียกค่าบริการใด ๆ ขณะที่เขาแพร่ข่าวสารราชอาณาจักรไปตลอดทั่วโลก.
20. เนื่องจาก “น้ำ” ชนิดนี้มีอยู่พร้อม จึงยังผลประการใด?
20 ขณะนี้จะหาพบน้ำแห่งชีวิตที่ไหนก็ได้ทั่วลูกโลกนี้ เพื่อว่าผู้คนที่ต้องการดื่มน้ำนี้จะได้รับสมตามความปรารถนา พร้อมด้วยผลในการช่วยรักษาชีวิตให้รอด. มนุษย์ที่ได้รับการไถ่จะมีชีวิตยืนนานตลอดไปบนแผ่นดินโลก ซึ่งจะเปลี่ยนสภาพเป็นอุทยาน เป็นการเชิดชูพระประสงค์อันดีเลิศของพระยะโฮวา. พระผู้สร้างของเราหาได้สร้างโลกนี้ให้ไร้ประโยชน์ไม่ แต่เพื่อให้เป็นอุทยานตลอดทั่วโลก สถานที่แห่งความเพลิดเพลินที่มีมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามแบบพระฉายของพระเจ้าได้อยู่อาศัย.
21. พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับแผ่นดินโลกจะสำเร็จลุล่วงได้โดยวิธีใด?
21 แน่นอน จะเป็นสิทธิพิเศษอันใหญ่หลวงและเป็นความยินดีสุดพรรณนาที่จะอยู่ในโลกใหม่ดังกล่าว! ครั้นแล้ว หน้าที่มอบหมายซึ่งพระเจ้าเคยมอบแก่มนุษย์คู่แรกดังแจ้งในเยเนซิศ 1:27, 28 ก็จะสมจริงเต็มเม็ดเต็มหน่วย. เนื่องจากพระยะโฮวาทรงจัดการกับความทุกข์ยากซึ่งตกอยู่แก่ครอบครัวมนุษย์ได้อย่างชำนิชำนาญ จะมีการบุกเบิกจัดแต่งแผ่นดินโลกนี้กระทั่งเป็นอุทยานและเต็มด้วยเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สมบูรณ์. ใช่แล้ว พระเจ้าจะทรงดูแลทุกสิ่งซึ่งพระองค์ได้สร้าง และดูเถิด ทุกอย่างจะ ดีเยี่ยม. คุณจะอยู่ที่นั่นไหม? ถ้าอย่างนั้น คุณต้องเริ่มต้นรับเอาน้ำแห่งชีวิตด้วยความหยั่งรู้ค่าเสียแต่บัดนี้ และรับอย่างไม่อั้น. “เชิญมาเถิด!” และดื่มน้ำแห่งชีวิต ดับความกระหาย ซึ่งน้ำชนิดนี้เริ่มไหลแล้วและจะไหลเต็มที่ในสมัยพันปีข้างหน้า. และจงให้ทุกคนที่ได้ยินคำเชิญอย่างอ่อนหวานนี้กล่าวว่า “เชิญมาเถิด!”
[เชิงอรรถ]
a ใจความตอนหนึ่งในบทความนี้มีว่า “แต่ก่อน ๆ ไม่เคยมีการให้คำพยานเรื่องความจริงอย่างกว้างขวาง อย่างที่ได้ทำในช่วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมา. . . . ชนที่เหลือได้ประกาศข่าวที่น่าชื่นใจแก่คนเหล่านั้น และบอกเขาว่า ‘ใครที่ประสงค์ก็ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิตโดยไม่เสียค่า.’ คนเหล่านั้นได้รับการบอกกล่าวว่าเวลานี้เขาอาจเข้ามาเป็นฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อต้านมาร แล้วรับพระพร. ก็ชนจำพวกนี้มิใช่หรือที่กำลังแสวงความถ่อมใจและความชอบธรรม และจะถูกกำบังในวันที่พระองค์สำแดงความพิโรธ ทั้งจะได้รับการช่วยให้ผ่านพ้นสงครามใหญ่คืออาร์มาเก็ดดอน แล้วดำรงชีวิตชั่วนิรันดร์และไม่ตาย? (ซะฟันยา 2:3) . . . ชนที่เหลือซึ่งเป็นคนซื่อสัตย์เข้าร่วมสมทบในการเชิญด้วยความกรุณาและกล่าวว่า ‘เชิญมาเถิด.’ ข่าวสารนี้ควรจะป่าวปรกาศแก่ผู้ที่ปรารถนาความชอบธรรมและความจริง. ควรจะทำบัดนี้.”
b เดอะ วอชเทาเวอร์ ฉบับ 15 สิงหาคม 1934 ก็ยังได้อ้างอิงถึงหน้าที่รับผิดชอบของแกะอื่นโดยกล่าวไว้ที่หน้า 249 วรรค 31 ดังนี้: “ชนจำพวกโยนาดาบคือผู้ที่ ‘ได้ยิน’ ข่าวความจริงและต้องบอกแก่คนเหล่านั้นซึ่งสามารถได้ยินเขาว่า ‘มาเถิด. ให้ผู้ที่ได้ยินบอกว่า มาเถิด. และให้ผู้กระหายมาเถิด. และใครที่ประสงค์ ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิตโดยไม่เสียค่า.’ (วิวรณ์ 22:17) บรรดาคนในจำพวกโยนาดาบต้องไปด้วยกันกับคนจำพวกเยฮูโดยนัยนั้นคือผู้ถูกเจิม และประกาศข่าวสารแห่งราชอาณาจักร ถึงแม้เขาไม่ใช่พยานพระยะโฮวาในจำพวกผู้ถูกเจิมก็ตาม.”
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ มีการอ้างถึง “น้ำ” ชนิดใดที่วิวรณ์ 22:17?
▫ แหล่งกำเนิดของ “น้ำ” นี้คืออะไร?
▫ ทำไมจำเป็นต้องมี “น้ำ” นี้ และน้ำนี้เริ่มไหลเมื่อไร?
▫ ในข้อคัมภีร์นำเรื่องของบทความนี้ การอ้างอิงถึง “พระวิญญาณ” แสดงถึงอะไรและ “เจ้าสาว” เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร?
▫ ใครจะดื่ม “น้ำ” นี้ได้ พร้อมด้วยผลเช่นไร?