จงเห็นค่าความภักดีและการให้อภัยของพระยะโฮวา
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์ทรงประกอบไปด้วยพระคุณพร้อมที่จะทรงยกความผิด, และทรงพระกรุณาคุณเหลือล้นแก่บรรดาผู้ที่ร้องทูลพระองค์.”—เพลง. 86:5
1, 2. (ก) ทำไมเราจึงเห็นค่าเพื่อนที่ภักดีและให้อภัย? (ข) เราจะตอบคำถามอะไรในบทความนี้?
คุณจะพรรณนาลักษณะของเพื่อนแท้อย่างไร? พี่น้องหญิงคนหนึ่งชื่อแอชลีย์บอกว่า “สำหรับดิฉัน เพื่อนแท้คือคนที่พร้อมจะช่วยเพื่อนอยู่เสมอและให้อภัยเมื่อเพื่อนทำผิดพลาด.” เราทุกคนเห็นค่าเพื่อนที่เป็นอย่างนั้น. เพื่อนแบบนี้ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและรู้สึกว่ามีคนที่รักเราจริง ๆ.—สุภา. 17:17
2 พระยะโฮวาทรงเป็นเพื่อนที่ภักดีและพร้อมจะให้อภัยมากที่สุด. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญพรรณนาว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์ทรงประกอบไปด้วยพระคุณพร้อมที่จะทรงยกความผิด, และทรงพระกรุณาคุณเหลือล้น [หรือ “รักภักดี”] แก่บรรดาผู้ที่ร้องทูลพระองค์.” (เพลง. 86:5) ความภักดีและการให้อภัยหมายถึงอะไร? พระยะโฮวาทรงแสดงคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยมทั้งสองอย่างนี้อย่างไร? และเราจะเลียนแบบตัวอย่างของพระองค์ได้อย่างไร? เมื่อได้คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้แล้ว ความรักที่เรามีต่อพระยะโฮวา เพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น. เราจะสามารถพัฒนามิตรภาพของเรากับพี่น้องให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย.—1 โย. 4:7, 8
พระยะโฮวาทรงภักดี
3. ความภักดีหมายถึงอะไร?
3 คนภักดีจะซื่อสัตย์ต่อคนที่เขารัก. เขาแสดงความรักโดยช่วยเหลือและสนับสนุนเพื่อนอยู่เสมอ. คนที่ภักดีเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย. เขาพร้อมจะช่วยเพื่อนเสมอแม้แต่ในยามที่เพื่อนประสบความลำบาก. คัมภีร์ไบเบิลพรรณนาพระยะโฮวาว่าทรงเป็น “ผู้ภักดี.” ไม่มีใครภักดียิ่งกว่าพระองค์.—วิ. 16:5
4, 5. (ก) พระยะโฮวาทรงแสดงความภักดีอย่างไร? (ข) ทำไมเราจึงได้รับกำลังใจเมื่อคิดถึงวิธีที่พระยะโฮวาทรงแสดงความภักดี?
4 พระยะโฮวาทรงแสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระองค์ทรงภักดี? พระองค์ไม่เคยละทิ้งผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์. ผู้รับใช้คนหนึ่งที่เห็นความจริงในเรื่องนี้ด้วยตัวเองคือกษัตริย์ดาวิด. ท่านกล่าวยกย่องสรรเสริญพระยะโฮวาว่า “พระองค์ทรงปฏิบัติต่อผู้ที่ภักดีด้วยความภักดี และทรงปฏิบัติอย่างปราศจากตำหนิต่อคนที่ปราศจากตำหนิ.” (2 ซามู. 22:26, ล.ม.) ในช่วงที่ดาวิดประสบความลำบาก พระยะโฮวาทรงชี้นำ ปกป้อง และช่วยท่านให้รอดด้วยความภักดี. (2 ซามู. 22:1) ดาวิดเห็นด้วยตัวท่านเองว่าพระยะโฮวาทรงแสดงความภักดีไม่เพียงแค่ด้วยคำพูด แต่ด้วยการช่วยเหลือผู้รับใช้ของพระองค์จริง ๆ. ทำไมพระยะโฮวาจึงภักดีต่อดาวิด? นั่นเป็นเพราะดาวิด “ภักดี” ต่อพระองค์. พระยะโฮวาทรงรักผู้รับใช้ของพระองค์เพราะความภักดีของพวกเขา และพระองค์ทรงภักดีต่อคนที่ภักดีต่อพระองค์.—สุภา. 2:6-8, ล.ม.
5 เราได้กำลังใจเมื่อเราใคร่ครวญว่าพระยะโฮวาทรงภักดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์อย่างไร. พี่น้องชายที่ซื่อสัตย์คนหนึ่งชื่อรีดกล่าวว่า “เมื่อผมอ่านเกี่ยวกับวิธีที่พระยะโฮวาปฏิบัติต่อดาวิดตอนที่ท่านลำบาก เรื่องนั้นช่วยผมได้มากจริง ๆ. แม้แต่ตอนที่ดาวิดถูกไล่ล่า ต้องใช้ชีวิตในถ้ำบ้างนอกถ้ำบ้าง พระยะโฮวาทรงค้ำจุนท่านเสมอ. เรื่องนี้ให้กำลังใจผมมาก! ประสบการณ์ของดาวิดย้ำเตือนให้นึกถึงความเป็นจริงที่ว่า ไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นอย่างไร ไม่ว่าชีวิตจะดูมืดมนขนาดไหน ตราบใดที่ผมภักดีต่อพระยะโฮวา พระองค์จะทรงช่วยเหลือผมเสมอ.” คุณคงรู้สึกแบบเดียวกันนั้นอย่างแน่นอน.—โรม 8:38, 39
6. พระยะโฮวาทรงแสดงความภักดีโดยวิธีใดอีก และนั่นทำให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้รับประโยชน์อย่างไร?
6 พระยะโฮวาทรงแสดงความภักดีโดยวิธีใดอีก? พระยะโฮวาทรงทำตามมาตรฐานของพระองค์เองเสมอ. (ยซา. 46:4) การตัดสินใจทุกอย่างของพระองค์อาศัยมาตรฐานของพระองค์เป็นหลัก และมาตรฐานของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยน. (มลคี. 3:6) อีกวิธีหนึ่งที่แสดงว่าพระยะโฮวาทรงภักดีคือพระองค์ทำตามคำสัญญาเสมอ. (ยซา. 55:11) เนื่องจากพระยะโฮวาทรงภักดี ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ทุกคนจึงได้รับประโยชน์. เป็นเช่นนั้นอย่างไร? เมื่อเราพยายามอย่างดีที่สุดที่จะยึดมั่นกับมาตรฐานของพระยะโฮวา เรามั่นใจได้เลยว่าพระองค์จะทรงอวยพรเราตามที่พระองค์ทรงสัญญา.—ยซา. 48:17, 18
จงเลียนแบบความภักดีของพระยะโฮวา
7. วิธีหนึ่งที่คุณจะเลียนแบบความภักดีของพระยะโฮวาได้คืออะไร?
7 เราจะเลียนแบบความภักดีของพระยะโฮวาได้อย่างไร? วิธีหนึ่งก็คือโดยลงมือทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อช่วยคนที่มีปัญหา. (สุภา. 3:27) ตัวอย่างเช่น คุณรู้ว่าพี่น้องบางคนท้อแท้เพราะมีปัญหาสุขภาพ ถูกครอบครัวต่อต้าน หรือเพราะความอ่อนแอของตัวเองไหม? คุณสามารถหนุนใจพี่น้องเหล่านั้นได้ด้วย “คำดี . . . คำประเล้าประโลมใจ.” (ซคา. 1:13) a การทำอย่างนี้แสดงว่าคุณเป็นเพื่อนแท้ที่ภักดีและ “สนิทยิ่งกว่าพี่น้อง.”—สุภา. 18:24
8. เราจะเลียนแบบความภักดีของพระยะโฮวาได้โดยวิธีใดอีก?
8 ยังมีวิธีอื่นด้วยที่เราจะภักดีต่อคนที่เรารัก. ตัวอย่างเช่น ถ้าเราแต่งงานแล้ว เรารู้ว่าเราต้องซื่อสัตย์ต่อสามีหรือภรรยาของเรา. (สุภา. 5:15-18) เราไม่เพียงแต่หลีกเลี่ยงการทำผิดประเวณี. แต่เราจะหลีกเลี่ยงสิ่งใดก็ตามที่อาจนำเราไปสู่การทำผิดประเวณีด้วย. (มัด. 5:28) นอกจากนั้น เราแสดงความภักดีต่อพี่น้องโดยที่เราไม่พูดซุบซิบนินทาพี่น้องหรือใส่ร้ายเขา. และเราจะไม่ฟังคำพูดแบบนั้น.—สุภา. 12:18
9, 10. (ก) เราต้องการภักดีต่อใครเป็นพิเศษ? (ข) ทำไมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปที่จะเชื่อฟังพระยะโฮวา?
9 ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เราต้องการภักดีต่อพระยะโฮวาอยู่เสมอ. เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? โดยรักสิ่งที่พระยะโฮวารักและเกลียดสิ่งที่พระองค์เกลียด แล้วก็ดำเนินชีวิตอย่างที่พระองค์ทรงพอพระทัย. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 97:10 ) ยิ่งเราคิดเหมือนพระยะโฮวามากเท่าไร เราก็จะเชื่อฟังพระองค์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น.—เพลง. 119:104
10 จริงอยู่ การเชื่อฟังพระยะโฮวาอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป. เราอาจต้องพยายามจริง ๆ เพื่อจะภักดีต่อพระองค์อยู่เสมอ. ตัวอย่างเช่น พี่น้องหญิงอาจอยากแต่งงานแต่ยังไม่พบพี่น้องชายที่เหมาะจะเป็นคู่สมรส. (1 โค. 7:39) เพื่อนร่วมงานของเธออาจพยายามแนะนำให้รู้จักบางคนที่พวกเขาคิดว่าเหมาะกับเธอ. ในขณะเดียวกัน เธออาจรู้สึกเหงามาก. แม้ว่าเป็นอย่างนั้น เธอตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่นัดพบหรือแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รับใช้พระเจ้าเนื่องจากเธอต้องการแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวา. คริสเตียนหลายคนที่ซื่อสัตย์เหมือนพี่น้องหญิงคนนี้เป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมในเรื่องความภักดี. แน่นอน พระยะโฮวาจะอวยพรทุกคนที่รับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ต่อ ๆ ไปแม้ว่าเป็นเรื่องยาก.—ฮีบรู 11:6
“มิตรสหายที่สนิทยิ่งกว่าพี่น้องก็มี.”—สุภา. 18:24 (ดูข้อ 7)
“ให้อภัยกันอย่างใจกว้าง.”—เอเฟ. 4:32 (ดูข้อ 16)
พระยะโฮวาทรงให้อภัย
11. การให้อภัยหมายถึงอะไร?
11 คุณลักษณะอย่างหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพระยะโฮวาคือการพร้อมจะให้อภัย. การให้อภัยหมายถึงอะไร? ความหมายพื้นฐานของการให้อภัยคือการยกโทษให้แก่คนที่ทำผิดเมื่อเขากลับใจอย่างแท้จริง. นี่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ยกโทษให้เห็นด้วยกับการกระทำผิดหรือต้องแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หมายถึงการไม่ถือโทษโกรธเคืองอีกต่อไป. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าพระยะโฮวา “พร้อมที่จะทรงยกความผิด” ให้แก่คนที่กลับใจอย่างแท้จริง.—เพลง. 86:5
12. (ก) พระยะโฮวาทรงให้อภัยอย่างไร? (ข) เปโตรหมายถึงอะไรเมื่อท่านกล่าวว่าความผิดของคนเราจะ “ถูกลบล้าง”?
12 พระยะโฮวาทรงให้อภัยอย่างไร? คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าพระยะโฮวาทรงให้อภัย “อย่างล้นเหลือ.” นี่หมายความว่าพระองค์ทรงให้อภัยอย่างครบถ้วน และถาวร. (ยซา. 55:7, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1971) เรารู้ได้อย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงให้อภัยอย่างครบถ้วน? ขอให้พิจารณาคำรับรองในกิจการ 3:19. (อ่าน ) อัครสาวกเปโตรกระตุ้นผู้ที่ฟังท่านให้ “กลับใจและเปลี่ยนวิถีชีวิต.” เมื่อคนที่ทำผิดกลับใจอย่างแท้จริง เขาจะสำนึกเสียใจที่เคยดำเนินในแนวทางที่ไม่ถูกต้อง. เขายังตั้งใจแน่วแน่ด้วยว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก. (2 โค. 7:10, 11) นอกจากนั้น การกลับใจอย่างแท้จริงยังกระตุ้นคนที่ทำผิดให้ “เปลี่ยนวิถีชีวิต” คือเลิกทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องและทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อทำให้พระเจ้าพอพระทัย. เมื่อทำอย่างนั้นแล้ว ความผิดของเขาจะ “ถูกลบล้าง.” ดังนั้น เมื่อพระยะโฮวาทรงให้อภัย พระองค์ทรงทำเหมือนกับลบความผิดของเขาให้หมดไป. พระองค์ทรงให้อภัยอย่างครบถ้วน.—ฮีบรู 10:22; 1 โย. 1:7
13. คำตรัสที่ว่า “เราจะ . . . ไม่ระลึกถึงความผิดของเขาอีกเลย” บอกอะไรเกี่ยวกับพระยะโฮวา?
13 เรารู้ได้อย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงให้อภัยความผิดของเราอย่างถาวร? เรารู้ได้จากสิ่งที่พระองค์ตรัสกับยิระมะยาห์ในคำพยากรณ์เกี่ยวกับคริสเตียนผู้ถูกเจิม. (อ่านยิระมะยา 31:34 ) พระยะโฮวาตรัสว่า “เราจะยกความบาปของเขา, แลไม่ระลึกถึงความผิดของเขาอีกเลย.” ดังนั้น พระยะโฮวาทรงรับรองกับเราว่าเมื่อพระองค์ทรงให้อภัยแล้ว พระองค์จะไม่ทำอะไรอีกเกี่ยวกับความผิดนั้นในภายหลัง. พระองค์จะไม่รื้อฟื้นความผิดของเราเพื่อเอาผิดหรือลงโทษเราอีกครั้งแล้วครั้งเล่า. พระองค์ทรงให้อภัยความผิดของเราอย่างถาวร.—โรม 4:7, 8
14. ทำไมเราจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อใคร่ครวญวิธีที่พระยะโฮวาทรงให้อภัย? จงยกตัวอย่าง.
14 เรารู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อใคร่ครวญถึงวิธีที่พระยะโฮวาทรงให้อภัย. ขอให้พิจารณาตัวอย่างของพี่น้องหญิงคนหนึ่งซึ่งเราจะเรียกเธอว่าเอเลน. เมื่อหลายปีก่อน เธอถูกตัดสัมพันธ์. หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง เธอถูกรับกลับ. แม้ว่าเป็นอย่างนั้น เอเลนบอกว่าเธอยังไม่เชื่อว่าพระยะโฮวาทรงให้อภัยเธอจริง ๆ. เธอคิดว่าพระยะโฮวาทรงรักคนอื่นมากกว่าเธอ. แต่เอเลนรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อใคร่ครวญถ้อยคำในคัมภีร์ไบเบิลที่พรรณนาถึงวิธีที่พระยะโฮวาทรงให้อภัย. ตัวอย่างเช่น เธอได้อ่านว่าเมื่อพระยะโฮวาทรงให้อภัย นั่นก็เหมือนกับว่าพระองค์ชำระล้างเราให้สะอาดจากความผิดที่เราทำ. เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเพราะความผิดที่เราเคยทำ. b เอเลนยังกล่าวอีกด้วยว่า “ดิฉันไม่เชื่อว่าพระยะโฮวาทรงสามารถให้อภัยดิฉันได้ทั้งหมด และคิดว่าดิฉันจะต้องแบกความผิดของตัวเองไปตลอดชีวิต. ดิฉันรู้ว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา แต่ดิฉันเริ่มรู้สึกว่าดิฉันสามารถมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดพระยะโฮวาได้จริง ๆ และดิฉันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก.” พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าที่เปี่ยมด้วยความรักและพร้อมจะให้อภัยจริง ๆ!—เพลง. 103:9
จงเลียนแบบการให้อภัยของพระยะโฮวา
15. เราจะเลียนแบบการให้อภัยของพระยะโฮวาได้อย่างไร?
15 เราจะเลียนแบบพระยะโฮวาได้ด้วยการให้อภัยคนอื่น. (อ่านลูกา 17:3, 4 ) ขอให้จำไว้ว่าเมื่อพระยะโฮวาทรงให้อภัย พระองค์ลืมความผิดที่เราเคยทำและจะไม่รื้อฟื้นความผิดของเราขึ้นมาอีก. เมื่อเราให้อภัยผู้อื่น เราต้องลืมเรื่องที่เคยเกิดขึ้นและไม่รื้อฟื้นเรื่องนั้นขึ้นมาอีกในภายหลัง.
16. (ก) การให้อภัยหมายถึงอะไร และไม่ได้หมายถึงอะไร? (ข) เราต้องทำอะไรหากต้องการให้พระยะโฮวาให้อภัยเรา?
16 การให้อภัยความผิดที่คนอื่นทำกับเราไม่ได้หมายความว่าเราเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำหรือเราชอบที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม เพียงแต่เราเลือกที่จะไม่เก็บความขุ่นเคืองไว้. และนับว่าสำคัญที่จะจำไว้ว่าถ้าเราต้องการให้พระยะโฮวาให้อภัยเรา เราต้องให้อภัยคนอื่น. (มัด. 6:14, 15) ที่จริง พระยะโฮวาทรงระลึกเสมอว่าเรา “เป็นแต่ผงคลีดิน.” พระองค์ทรงเข้าใจว่าเราเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์. (เพลง. 103:14) ดังนั้น เมื่อคนอื่นพูดหรือทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เราขุ่นเคือง เราควรจำไว้ว่าพวกเขาเป็นคนไม่สมบูรณ์เหมือนเรา และเราควรให้อภัยพวกเขาอย่างใจกว้าง.—เอเฟ. 4:32; โกโล. 3:13
จงอธิษฐานอย่างจริงใจเพื่อคนที่ทำให้เราขุ่นเคือง (ดูข้อ 17)
17. อะไรอาจช่วยเราได้เพื่อจะให้อภัยคนที่ทำให้เราเจ็บใจ?
17 แน่นอน บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะให้อภัยคนอื่น. แม้แต่คริสเตียนผู้ถูกเจิมบางคนในสมัยเปาโลก็จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขความขัดแย้งที่มีต่อกัน. (ฟิลิป. 4:2) ถ้าพี่น้องทำอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณเจ็บใจ อะไรจะช่วยคุณให้อภัยพี่น้องคนนั้นได้? ขอให้คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับโยบ. โยบรู้สึกเจ็บใจอย่างยิ่งเมื่อเพื่อนจอมปลอมของท่าน คืออะลีฟาศ บิลดัด และโซฟาร์ กล่าวหาท่านอย่างไม่มีเหตุผล. (โยบ 10:1; 19:2) ท้ายที่สุด พระยะโฮวาทรงบอกสามคนนี้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นไม่ถูกต้องและให้พวกเขาไปหาโยบและถวายเครื่องบูชาไถ่ความผิด. (โยบ 42:7-9) แต่พระยะโฮวาทรงบอกโยบ ให้ทำอะไรบางอย่างด้วย. โยบต้องทำอะไร? พระองค์ทรงบอกให้ท่านอธิษฐานเพื่อเพื่อนทั้งสามคนนี้. โยบทำตามที่พระยะโฮวาสั่ง และพระองค์ทรงอวยพรท่านที่ให้อภัย. (อ่านโยบ 42:10, 12, 16, 17 ) เราเรียนอะไรได้จากเรื่องนี้? เมื่อเราอธิษฐานอย่างจริงใจเพื่อคนที่ทำให้เราขุ่นเคือง นั่นอาจช่วยให้เราเลิกขุ่นเคืองคนนั้นได้.
จงเรียนรู้และเลียนแบบคุณลักษณะของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป
18, 19. เราต้องการจะทำอะไรต่อ ๆ ไป?
18 เรามีความสุขที่ได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระยะโฮวา. เราได้เรียนรู้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่เข้าหาได้ง่าย ไม่ลำเอียง เอื้อเฟื้อ มีเหตุผล ภักดี และพร้อมจะให้อภัย. แน่นอน มีอีกหลายสิ่งเกี่ยวกับพระยะโฮวาที่เราจะเรียนรู้ได้. เราจะยินดีเมื่อได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับพระองค์ตลอดไป. (ผู้ป. 3:11) เราเห็นด้วยกับอัครสาวกเปาโลที่เขียนว่า “โอ้ความมั่งคั่งและสติปัญญาและความรู้ของพระเจ้าล้ำลึกเสียจริง!” เราสามารถกล่าวเช่นเดียวกันนั้นได้เกี่ยวกับคุณลักษณะอื่น ๆ ของพระเจ้า เช่นความรักและคุณลักษณะทั้งหกประการของพระองค์ที่เราได้พิจารณาในสามบทความนี้.—โรม 11:33
19 ดังนั้น ขอให้เราเรียนรู้มากขึ้นต่อ ๆ ไปเกี่ยวกับคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระยะโฮวา ใคร่ครวญและเลียนแบบคุณลักษณะเหล่านั้นในชีวิตของเรา. (เอเฟ. 5:1) เมื่อเราทำอย่างนั้น เราจะรักพระยะโฮวามากขึ้น และเราจะรู้สึกใกล้ชิดพระองค์ยิ่งขึ้น. เราจะเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญที่ร้องเพลงว่า “เป็นการดีที่ข้าพเจ้าเข้ามาใกล้พระองค์.”—เพลง. 73:28
a เพื่อจะได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในเรื่องนี้ โปรดดูบทความ “คุณได้หนุนกำลังใจใครสักคนไหมเมื่อเร็ว ๆ นี้?” ในหอสังเกตการณ์ 15 มกราคม 1995 และบทความ “เร้าใจให้เกิดความรักและการงานที่ดี—โดยวิธีใด?” ในฉบับ 1 เมษายน 1995.
b โปรดดูหนังสือจงเข้าใกล้พระยะโฮวา บท 26 ข้อ 10.