ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • รร บทเรียน 48 น. 251-น. 254 ว. 2
  • การ​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • การ​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล
  • การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • จงเลียนแบบครูผู้ยิ่งใหญ่
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2002
  • จงพัฒนาความมีเหตุผล
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
  • เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​เรื่อง​การ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2023
  • การ​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​บังเกิด​ผล
    การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
ดูเพิ่มเติม
การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
รร บทเรียน 48 น. 251-น. 254 ว. 2

บทเรียน 48

การ​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล

คุณ​ต้อง​ทำ​อะไร?

ใช้​พระ​คัมภีร์, ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ, และ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ อย่าง​มี​เหตุ​ผล​และ​ใน​แบบ​ที่​สนับสนุน​ผู้​คน​ให้​ฟัง​และ​คิด.

เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ?

การ​พูด​แบบ​ขวานผ่าซาก​และ​เอา​ตัว​เอง​เป็น​ที่​ตั้ง​มัก​ทำ​ให้​ผู้​คน​ไม่​อยาก​เปิด​ใจ​รับ​ฟัง. การ​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล​สนับสนุน​ให้​มี​การ​สนทนา, ให้​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ผู้​คน​จะ​คิด​ใน​ภาย​หลัง, และ​เปิด​ทาง​ไว้​สำหรับ​การ​สนทนา​ใน​วัน​ข้าง​หน้า. การ​พูด​แบบ​นี้​อาจ​มี​พลัง​โน้ม​น้าว​ใจ​อย่าง​ยิ่ง.

เรา​รู้สึก​ขอบพระคุณ​ที่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เรา​เปลี่ยน​ไป และ​เรา​ต้องการ​ให้​คน​อื่น​ได้​รับ​ประโยชน์​เช่น​เดียว​กัน. ยิ่ง​กว่า​นั้น เรา​ตระหนัก​ว่า​วิธี​ที่​ผู้​คน​ตอบรับ​ข่าว​ดี​นั้น​จะ​มี​ผล​ต่อ​ความ​หวัง​ของ​เขา​ใน​อนาคต. (มัด. 7:13, 14; โย. 12:48) เรา​ปรารถนา​อย่าง​จริงจัง​ที่​จะ​ให้​ผู้​คน​ตอบรับ​ความ​จริง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​เชื่อ​มั่น​อัน​หนักแน่น​และ​ความ​กระตือรือร้น​ที่​เรา​มี​ต้อง​ควบ​คู่​ไป​กับ​การ​สังเกต​เข้าใจ​เพื่อ​ว่า​จะ​บังเกิด​ผล​ดี​ที่​สุด.

การ​พูด​ความ​จริง​แบบ​ขวานผ่าซาก​ซึ่ง​เปิดโปง​ว่า​ความ​เชื่อ​ที่​คน​อื่น​ยึด​ถือ​อยู่​นั้น​ไม่​ถูก​ต้อง​และ​ถึง​กับ​ยก​พระ​คัมภีร์​หลาย​ข้อ​เพื่อ​ยืน​ยัน ปกติ​แล้ว​จะ​ไม่​ได้​รับ​การ​ตอบรับ​ที่​ดี. ยก​ตัว​อย่าง ถ้า​เพียง​แต่​ตำหนิ​ว่า​เทศกาล​ต่าง ๆ อัน​เป็น​ที่​นิยม​มี​ต้นตอ​มา​จาก​พวก​นอก​รีต การ​พูด​เช่น​นี้​อาจ​ไม่​ทำ​ให้​คน​อื่น​เปลี่ยน​ความ​คิด​เกี่ยว​กับ​เทศกาล​เหล่า​นั้น. การ​พูด​คุย​แบบ​หา​เหตุ​ผล​มัก​เกิด​ผล​มาก​กว่า. การ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อะไร​บ้าง?

พระ​คัมภีร์​บอก​เรา​ว่า “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น . . . ก่อ​ให้​เกิด​สันติ​สุข, มี​เหตุ​ผล.” (ยโก. 3:17, ล.ม.) คำ​ภาษา​กรีก​ซึ่ง​แปล​ใน​ที่​นี้​ว่า “มี​เหตุ​ผล” มี​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร​คือ “ยอม.” ผู้​แปล​บาง​คน​แปล​คำ​นี้​ว่า “คำนึง​ถึง​ผู้​อื่น,” “อ่อน​สุภาพ,” หรือ “อด​กลั้น.” ขอ​สังเกต​ว่า​การ​มี​เหตุ​ผล​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​มี​สันติ​สุข. ที่​ติโต 3:2 (ล.ม.) มี​การ​กล่าว​ถึง​คำ​นี้​ควบ​กับ​คำ​ว่า​ความ​อ่อนโยน​และ​ถูก​จัด​ให้​อยู่​ตรง​ข้าม​กับ​การ​ชอบ​วิวาท. ฟิลิปปอย 4:5 (ล.ม.) กระตุ้น​เรา​ให้​เป็น​คน “มี​เหตุ​ผล.” คน​ที่​มี​เหตุ​ผล​คำนึง​ถึง​ภูมิ​หลัง, สภาพการณ์, และ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​ที่​เขา​สนทนา​ด้วย. เขา​เต็ม​ใจ​จะ​ยอม​เมื่อ​มี​เหตุ​ผล​เหมาะ​ให้​ทำ​เช่น​นั้น. การ​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น​แบบ​นั้น​ช่วย​ให้​เขา​เปิด​ใจ​รับ​ฟัง​มาก​ขึ้น​เมื่อ​เรา​หา​เหตุ​ผล​จาก​พระ​คัมภีร์.

จะ​เริ่ม​ตรง​ไหน. นัก​ประวัติศาสตร์​ลูกา​รายงาน​ว่า​เมื่อ​อัครสาวก​เปาโล​อยู่​ใน​เมือง​เทสซาโลนีกา (เธซะโลนิเก) ท่าน​ใช้​พระ​คัมภีร์ “อธิบาย​และ​พิสูจน์​ด้วย​ข้อ​อ้างอิง​ว่า​จำเป็น​ที่​พระ​คริสต์​ต้อง​ทน​ทุกข์​และ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย.” (กิจ. 17:2, 3, ล.ม.) ขอ​สังเกต​ว่า​เปาโล​ทำ​เช่น​นี้​ใน​ธรรมศาลา​ของ​ชาว​ยิว. ผู้​ที่​ท่าน​สนทนา​ด้วย​ยอม​รับ​ว่า​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​เป็น​หนังสือ​ที่​เชื่อถือ​ได้. จึง​เป็น​สิ่ง​เหมาะ​สม​ที่​จะ​เริ่ม​พูด​ด้วย​เรื่อง​ที่​พวก​เขา​ยอม​รับ​อยู่​แล้ว.

เมื่อ​เปาโล​พูด​กับ​ชาว​กรีก​ที่​อารีโอพากุส​ใน​กรุง​เอเธนส์ ท่าน​ไม่​ได้​เริ่ม​ด้วย​การ​พูด​ถึง​พระ​คัมภีร์. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น ท่าน​เริ่ม​ด้วย​เรื่อง​ที่​พวก​เขา​รู้​และ​ยอม​รับ และ​ใช้​เรื่อง​นั้น​เพื่อ​นำ​พวก​เขา​เข้า​สู่​การ​พิจารณา​เกี่ยว​กับ​พระ​ผู้​สร้าง​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์.—กิจ. 17:22-31.

ใน​สมัย​ปัจจุบัน มี​หลาย​พัน​ล้าน​คน​ที่​ไม่​ยอม​รับ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​ที่​เชื่อถือ​ได้. แต่​แทบ​จะ​ทุก​คน​ได้​รับ​ผล​กระทบ​จาก​เหตุ​การณ์​ที่​เลว​ร้าย​ของ​ระบบ​นี้. ผู้​คน​ต้องการ​สิ่ง​ที่​ดี​กว่า. ถ้า​คุณ​เริ่ม​ด้วย​การ​แสดง​ความ​เป็น​ห่วง​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​กังวล แล้ว​จาก​นั้น​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง​เรื่อง​นั้น​อย่าง​ไร การ​พูด​แบบ​มี​เหตุ​ผล​เช่น​นี้​อาจ​กระตุ้น​เขา​ให้​ฟัง​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เกี่ยว​กับ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​มนุษยชาติ.

เป็น​ไป​ได้​ว่า​ผู้​ที่​เรา​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อาจ​ได้​รับ​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​และ​ประเพณี​บาง​อย่าง​สืบ​ทอด​จาก​บิดา​มารดา. บัด​นี้ นัก​ศึกษา​คน​นั้น​ได้​เรียน​รู้​ว่า​ความ​เชื่อ​และ​ประเพณี​เหล่า​นั้น​ไม่​เป็น​ที่​พอ​พระทัย​พระเจ้า และ​เขา​ปฏิเสธ​สิ่ง​เหล่า​นั้น​เนื่อง​จาก​เห็น​พ้อง​กับ​คำ​สอน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. นัก​ศึกษา​คน​นั้น​จะ​อธิบาย​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ตน​กับ​พ่อ​แม่​อย่าง​ไร? พ่อ​แม่​อาจ​รู้สึก​ว่า​เมื่อ​ลูก​ปฏิเสธ​ศาสนา​ที่​เขา​สืบ​ทอด​ให้ ลูก​ก็​กำลัง​ปฏิเสธ​พ่อ​แม่. นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​คน​นั้น​อาจ​ลง​ความ​เห็น​ว่า​ก่อน​จะ​อธิบาย​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​เขา​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก เขา​จะ​ต้อง​ทำ​ให้​พ่อ​แม่​มั่น​ใจ​ว่า​เขา​รัก​และ​นับถือ​ท่าน.

เมื่อ​ไร​จะ​เป็น​ฝ่าย​ยอม. ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​มี​อำนาจ​สูง​สุด​ใน​การ​ออก​คำ​สั่ง แต่​พระองค์​ทรง​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​โดด​เด่น. เมื่อ​ช่วย​ชีวิต​โลต​และ​ครอบครัว​ออก​จาก​เมือง​โซโดม ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​เร่งเร้า​ดัง​นี้: “จง​หนี​ไป​ที่​ภูเขา, เกลือก​ว่า​เจ้า​จะ​ถึง​พินาศ”! แต่​โลต​อ้อน​วอน​ว่า “โอ้​ท่าน​เจ้าข้า, ขอ​อย่า​ให้​เป็น​อย่าง​นั้น​เลย”! โลต​ขอ​หนี​ไป​ที่​เมือง​โซอาระ. พระ​ยะโฮวา​ทรง​เห็น​ใจ​โลต​โดย​ยอม​ให้​ท่าน​ทำ​เช่น​นั้น; ดัง​นั้น เมื่อ​เมือง​อื่น​ถูก​ทำลาย เมือง​โซอาระ​ได้​รับ​การ​ยก​เว้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ภาย​หลัง​โลต​ก็​เชื่อ​ฟัง​คำ​ชี้​นำ​ที​แรก​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​ย้าย​ไป​ยัง​เขต​ภูเขา. (เย. 19:17-30) พระ​ยะโฮวา​ทราบ​ว่า​แนว​ทาง​ของ​พระองค์​ถูก​ต้อง แต่​พระองค์​ทรง​อด​ทน​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​จน​กว่า​โลต​จะ​เข้าใจ​แนว​ทาง​ของ​พระองค์.

เพื่อ​จะ​ติด​ต่อ​กับ​คน​อื่น​อย่าง​ประสบ​ผล​สำเร็จ เรา​ก็​เช่น​กัน​ต้อง​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล. เรา​อาจ​มั่น​ใจ​ว่า​คน​อื่น​เป็น​ฝ่าย​ผิด และ​เรา​อาจ​คิด​ถึง​เหตุ​ผล​ที่​หนักแน่น​ซึ่ง​จะ​พิสูจน์​เรื่อง​นั้น. แต่​บาง​ครั้ง ดี​กว่า​ที่​จะ​ไม่​บีบ​ให้​เขา​ยอม​รับ​ผิด. การ​มี​เหตุ​ผล​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​การ​อะลุ่มอล่วย​มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา. อาจ​ดี​กว่า​ที่​จะ​ขอบคุณ​ที่​เขา​เผย​ความ​รู้สึก​หรือ​ไม่​ก็​ยอม​ให้​สิ่ง​ที่​ผิด​ผ่าน​ไป​เพื่อ​ว่า​คุณ​จะ​เพ่ง​การ​พิจารณา​ไป​ยัง​เรื่อง​ที่​จะ​ประสบ​ผล​ดี​กว่า. แม้​ว่า​เขา​ตำหนิ​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ จง​อย่า​แสดง​ปฏิกิริยา​มาก​เกิน​ไป. คุณ​อาจ​ถาม​ว่า​ทำไม​เขา​จึง​รู้สึก​เช่น​นั้น. จง​ตั้งใจ​ฟัง​คำ​ตอบ​ของ​เขา. การ​ทำ​เช่น​นี้​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​หยั่ง​รู้​เข้าใจ​ความ​คิด​ของ​เขา. อาจ​ช่วย​วาง​พื้น​ฐาน​สำหรับ​การ​สนทนา​ที่​เสริม​สร้าง​ใน​วัน​ข้าง​หน้า​ด้วย.—สุภา. 16:23; 19:11.

พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​มนุษย์​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​เลือก. พระองค์​ยอม​ให้​มนุษย์​ใช้​ความ​สามารถ​นั้น แม้​ว่า​พวก​เขา​อาจ​ใช้​อย่าง​ไม่​สุขุม​ก็​ตาม. ฐานะ​โฆษก​ของ​พระ​ยะโฮวา ยะโฮซูอะ​กล่าว​ซ้ำ​วิธี​ที่​พระเจ้า​ปฏิบัติ​กับ​ชาติ​อิสราเอล. แต่​หลัง​จาก​นั้น ท่าน​กล่าว​ว่า “ถ้า​ไม่​พอ​ใจ​ปฏิบัติ​พระ​ยะโฮวา, ใน​วัน​นี้​ก็​ให้​เลือก​หา​ว่า​จะ​ปฏิบัติ​ผู้​ใด; จะ​ปฏิบัติ​พระ​ซึ่ง​บิดา​ของ​ท่าน​ได้​ปฏิบัติ​ข้าง​แม่น้ำ​ฟาก​ข้าง​โน้น​หรือ​พระ​ของ​ชาติ​อะโมรี, ใน​แผ่นดิน​ซึ่ง​ท่าน​อาศัย​อยู่​เดี๋ยว​นี้: แต่​ฝ่าย​เรา​ทั้ง​ครอบครัว​จะ​ปฏิบัติ​พระ​ยะโฮวา.” (ยโฮ. 24:15) งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​คือ​การ​ให้ “คำ​พยาน” และ​เรา​พูด​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ แต่​ไม่​บีบ​บังคับ​ให้​คน​อื่น​เชื่อ. (มัด. 24:14, ล.ม.) พวก​เขา​ต้อง​เลือก และ​เรา​ยอม​รับ​สิทธิ​ของ​เขา.

จง​ตั้ง​คำ​ถาม. พระ​เยซู​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​โดด​เด่น​ใน​การ​หา​เหตุ​ผล​กับ​ผู้​คน. พระองค์​คำนึง​ถึง​ภูมิ​หลัง​ของ​พวก​เขา​และ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​พวก​เขา​จะ​เต็ม​ใจ​ตอบรับ. พระองค์​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​บังเกิด​ผล​ด้วย. การ​ตั้ง​คำ​ถาม​ทำ​ให้​คน​อื่น​มี​โอกาส​พูด​และ​เผย​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เขา. นอก​จาก​นั้น ยัง​สนับสนุน​เขา​ให้​หา​เหตุ​ผล​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​พิจารณา​ด้วย.

ชาย​ที่​รอบรู้​พระ​บัญญัติ​คน​หนึ่ง​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์​เจ้าข้า, ข้าพเจ้า​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์?” พระ​เยซู​สามารถ​ให้​คำ​ตอบ​ได้​ไม่​ยาก. แต่​พระองค์​สนับสนุน​เขา​ให้​พูด​ออก​มา. “ใน​พระ​บัญญัติ​มี​คำ​เขียน​ว่า​อย่าง​ไร? ท่าน ได้​อ่าน​เข้าใจ​อย่าง​ไร?” ชาย​คน​นั้น​ตอบ​ถูก​ต้อง. คำ​ตอบ​ที่​ถูก​ต้อง​ของ​เขา​ทำ​ให้​การ​สนทนา​ยุติ​ไหม? ไม่​เลย. พระ​เยซู​ให้​เขา​พูด​ต่อ​ไป และ​คำ​ถาม​ที่​เขา​ถาม​นั้น​แสดง​ว่า​เขา​กำลัง​พยายาม​พิสูจน์​ว่า​ตัว​เอง​ชอบธรรม. เขา​ถาม​ดัง​นี้: “ใคร​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​ข้าพเจ้า?” แทน​ที่​จะ​ให้​ความ​หมาย​ของ​คำ​นี้​ซึ่ง​เขา​อาจ​โต้​แย้ง​เพราะ​ชาว​ยิว​ส่วน​ใหญ่​มี​อคติ​ต่อ​ชาว​ต่าง​ชาติ​และ​ชาว​ซะมาเรีย พระ​เยซู​จึง​เชิญ​เขา​ให้​หา​เหตุ​ผล​จาก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ. ตัว​อย่าง​นี้​เป็น​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย​ซึ่ง​ช่วยเหลือ​นัก​เดิน​ทาง​ที่​ถูก​ปล้น​และ​ถูก​ทุบ​ตี​ใน​ขณะ​ที่​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​ไม่​ทำ​เช่น​นั้น. ด้วย​คำ​ถาม​ง่าย ๆ พระ​เยซู​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​ชาย​คน​นี้​จับ​จุด​สำคัญ​ได้. วิธี​หา​เหตุ​ผล​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​คำ​ว่า “เพื่อน​บ้าน” มี​ความ​หมาย​อย่าง​ที่​ชาย​คน​นี้​ไม่​เคย​คิด​มา​ก่อน. (ลูกา 10:25-37) นับ​ว่า​เป็น​ตัว​อย่าง​ยอด​เยี่ยม​ที่​น่า​เลียน​แบบ​จริง ๆ! แทน​ที่​คุณ​จะ​พูด​แต่​ฝ่าย​เดียว ซึ่ง​แท้​จริง​แล้ว​จะ​เป็น​การ​คิด​แทน​เจ้าของ​บ้าน จง​เรียน​รู้​วิธี​ใช้​คำ​ถาม​ที่​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​และ​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​สนับสนุน​ผู้​ฟัง​ให้​คิด.

จง​ให้​เหตุ​ผล. เมื่อ​อัครสาวก​เปาโล​พูด​ใน​ธรรมศาลา​ที่​เมือง​เทสซาโลนีกา ท่าน​ไม่​เพียง​แต่​อ่าน​ม้วน​พระ​คัมภีร์​ที่​ผู้​ฟัง​ยอม​รับ. ลูกา​รายงาน​ว่า​เปาโล​อธิบาย, พิสูจน์, และ​บอก​สิ่ง​ที่​ต้อง​ทำ​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​อ่าน. ผล​ก็​คือ “บาง​คน​ใน​พวก​เขา​ก็​เห็น​ด้วย, และ​สมัคร​เข้า​เป็น​พรรค​พวก​กับ​เปาโล​และ​ซีลา.”—กิจ. 17:1-4.

ไม่​ว่า​ผู้​ฟัง​ของ​คุณ​จะ​เป็น​ใคร​ก็​ตาม การ​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล​เช่น​นั้น​ย่อม​เป็น​ประโยชน์. นี่​เป็น​จริง​เมื่อ​คุณ​ให้​คำ​พยาน​กับ​ญาติ, สนทนา​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​หรือ​เพื่อน​นัก​เรียน, ให้​คำ​พยาน​กับ​คน​แปลก​หน้า, นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล, หรือ​บรรยาย​ใน​ประชาคม. เมื่อ​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์ คุณ​อาจ​เข้าใจ​ความ​หมาย​ชัดเจน แต่​บาง​ที​คน​อื่น​ไม่​เป็น​เช่น​นั้น. คำ​อธิบาย​ของ​คุณ​และ​การ​บอก​วิธี​นำ​ไป​ใช้​อาจ​เป็น​เหมือน​การ​ยืน​ยัน​ความ​คิด​เห็น​ของ​คุณ​เอง. การ​เลือก​และ​อธิบาย​บาง​คำ​ที่​สำคัญ​ใน​ข้อ​คัมภีร์​นั้น​จะ​ช่วย​ไหม? คุณ​จะ​ยก​หลักฐาน​ขึ้น​มา​สนับสนุน บาง​ที​จาก​บริบท​หรือ​ข้อ​คัมภีร์​อื่น​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​นั้น​ได้​ไหม? ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ไหม​ว่า​สิ่ง​ที่​คุณ​พูด​มี​เหตุ​ผล? คำ​ถาม​ต่าง ๆ จะ​ช่วย​ผู้​ฟัง​หา​เหตุ​ผล​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น​ไหม? การ​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ประทับใจ​ที่​ดี​และ​ทำ​ให้​คน​อื่น​คิด​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น​มาก​ขึ้น.

วิธี​พูด​แบบ​หา​เหตุ​ผล

  • เมื่อ​คิด​ว่า​จะ​เริ่ม​พูด​อย่าง​ไร จง​พิจารณา​ถึง​ภูมิ​หลัง​และ​ทัศนะ​ของ​ผู้​ฟัง.

  • อย่า​โต้​แย้ง​คำ​พูด​ที่​ผิด​ทุก​เรื่อง.

  • จง​พูด​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ แต่​ยอม​รับ​ว่า​คน​อื่น​มี​อิสระ​ใน​การ​เลือก​ที่​จะ​เชื่อ เช่น​เดียว​กับ​ที่​คุณ​มี.

  • แทน​ที่​จะ​ตอบ​คำ​ถาม​ทันที จง​ใช้​คำ​ถาม​หรือ​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เสริม​เพื่อ​ช่วย​ผู้​ที่​ถาม​ให้​หา​เหตุ​ผล​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น.

  • จง​ทำ​ให้​เป็น​นิสัย​ที่​จะ​หา​เหตุ​ผล​จาก​พระ​คัมภีร์​โดย​อธิบาย​คำ​สำคัญ, แสดง​ให้​เห็น​ว่า​บริบท​หรือ​ข้อ​คัมภีร์​อื่น​ทำ​ให้​ความ​หมาย​ของ​ข้อ​นั้น​ชัดเจน​อย่าง​ไร, หรือ​ใช้​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​จะ​นำ​ข้อ​คัมภีร์​นั้น​ไป​ใช้​อย่าง​ไร.

แบบ​ฝึก​หัด: (1) หลัง​จาก​ให้​คำ​พยาน​กับ​ใคร​สัก​คน​ที่​มี​ความ​คิด​เห็น​ขัด​แย้ง จง​วิเคราะห์​วิธี​ที่​คุณ​สนทนา​กับ​เขา. คุณ​ได้​เสนอ​หลักฐาน​อะไร​บ้าง? ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​อะไร​ที่​คุณ​ได้​ใช้? คุณ​ใช้​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง? คุณ​ได้​คำนึง​ถึง​ภูมิ​หลัง​หรือ​ความ​รู้สึก​ของ​เขา​อย่าง​ไร? ถ้า​ไม่​สามารถ​ทำ​สิ่ง​นี้​ได้​ใน​งาน​ประกาศ จง​พยายาม​ฝึก​ทำ​เช่น​นี้​กับ​ผู้​ประกาศ​คน​อื่น. (2) ฝึก​ซ้อม​วิธี​ที่​คุณ​จะ​หา​เหตุ​ผล​กับ​ใคร​สัก​คน (เพื่อน​หรือ​เด็ก) ซึ่ง​คิด​จะ​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2025)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์