การหนุนใจ
(การหาเหตุผลจากพระคัมภีร์ หน้า 117-121)
คำจำกัดความ: บางสิ่งที่ทำให้มีความกล้าหาญหรือที่ให้ความหวัง. ทุกคนต้องการการหนุนใจ. การหนุนใจอาจหมายถึงการให้ความช่วยเหลือเป็นส่วนตัวหรือการกล่าวคำที่แสดงความหยั่งรู้ค่า. บ่อยครั้ง การหนุนใจเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือคน ๆ หนึ่งให้เห็นวิธีรับมือกับสถานการณ์ยุ่งยาก หรือการสนทนาหาเหตุผลเพื่อความมั่นใจในเรื่องอนาคตที่ดีกว่า. คัมภีร์ไบเบิลให้พื้นฐานที่ดีที่สุดสำหรับการหนุนใจดังกล่าว และข้อคัมภีร์ต่าง ๆ ที่ยกมากล่าวอาจเป็นประโยชน์ในการให้การหนุนใจแก่คนเหล่านั้นที่ต้องเผชิญสภาพการณ์ต่าง ๆ กัน. บางครั้งเพียงการแสดงทัศนะที่เห็นอกเห็นใจก็ให้ผลดีมากมาย.—โรม 12:15.
สำหรับคนที่ประสบความยากลำบากเนื่องจากความเจ็บป่วย—
วิ. 21:4, 5: “‘[พระเจ้า] จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาพวกเขา ความตายจะไม่มีอีกเลย ความโศกเศร้าหรือเสียงร้องไห้เสียใจหรือความเจ็บปวดจะไม่มีอีกเลย. สิ่งที่เคยมีอยู่นั้นผ่านพ้นไปแล้ว.’ พระองค์ผู้ประทับบนราชบัลลังก์นั้นตรัสว่า ‘ดูเถิด! เรากำลังสร้างทุกสิ่งขึ้นใหม่.’ พระองค์ตรัสอีกว่า ‘จงเขียนไว้เถิด เพราะถ้อยคำเหล่านี้เชื่อถือได้และเป็นความจริง.’”
มัด. 9:35: “พระเยซูจึงทรงออกเดินทางไปทั่วทุกเมืองและทุกหมู่บ้าน ทรงสอน . . . และทรงประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรและทรงรักษาโรคทุกชนิดรวมทั้งความทุพพลภาพทุกอย่าง.” (โดยเชื่อมโยงการรักษาโรคให้เข้ากับการที่พระองค์ประกาศเรื่องราชอาณาจักร พระเยซูทรงแสดงให้เห็นภาพอนาคตอันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์จะทรงทำเพื่อมนุษยชาติระหว่างรัชสมัยพันปีของพระองค์.)
2 โค. 4:13, 16: “เราก็เชื่อเช่นกัน . . . ฉะนั้น เราจึงไม่ท้อถอย แม้ว่าสภาพภายนอกของเรา [ร่างกายของเรา] ทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ แต่สภาพภายในของเราก็ได้รับการเสริมกำลังขึ้นใหม่ [หรือได้รับพลังใหม่] ทุกวัน.” (ร่างกายของเราอาจทรุดโทรมไป แต่เราได้รับการสร้างขึ้นใหม่ทางฝ่ายวิญญาณขณะที่เราหล่อเลี้ยงตัวเราด้วยคำสัญญาต่าง ๆ ที่ล้ำค่าของพระเจ้า.)
ดู ลูกา 7:20–23 ด้วย.
สำหรับคนเหล่านั้นที่สูญเสียผู้เป็นที่รักในความตาย—
ยซา. 25:8, 9: “พระองค์จะทรงทำลายความตายให้สาปสูญ, และพระยะโฮวาจะทรงเช็ดน้ำตาจากหน้าของคนทั่วไป, . . . ในวันนั้นเขาก็จะกล่าวกันว่า ‘นี่แหละคือพระเจ้าของเรา, เราได้คอยท่าพระองค์, และพระองค์จะทรงช่วยเราให้รอด: นี่คือพระยะโฮวา, เราได้คอยท่าพระองค์, เราจะมีความยินดี และชื่นชมในความรอดของพระองค์!’”
โย. 5:28, 29: “อย่าประหลาดใจในเรื่องนี้ เพราะจะมีเวลาที่ทุกคนซึ่งอยู่ในอุโมงค์ฝังศพจะได้ยินเสียงท่าน และออกมา คนที่ประพฤติดีจะเป็นขึ้นมาสู่ชีวิต ส่วนคนที่ประพฤติชั่วจะเป็นขึ้นมาสู่การพิพากษา.”
โย. 11:25, 26: “พระเยซูตรัสกับนางว่า ‘เราเป็นการกลับเป็นขึ้นจากตายและเป็นชีวิต. ผู้ที่แสดงความเชื่อในเรา แม้เขาตาย เขาจะมีชีวิตอีก และทุกคนที่มีชีวิตอยู่และแสดงความเชื่อในเราจะไม่ตายเลย. เจ้าเชื่อเรื่องนี้ไหม?’”
เพลง. 146:5, 9: “ผู้ใดที่มีพระเจ้า . . . . เป็นผู้ช่วยก็เป็นสุข คือคนที่ไว้ใจในพระยะโฮวาพระเจ้าของตน . . . ทรงอุปถัมภ์เด็กกำพร้ากับหญิงม่าย.” (แม้แต่ในขณะนี้พระเจ้าก็ทรงห่วงใยด้วยความรักต่อคนที่ทุกข์โศก.)
ดู ลูกา 7:11-16; 8:49-56 ด้วย.
สำหรับคนที่เผชิญการข่มเหงเนื่องจากการทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้า—
เพลง. 27:10: “เมื่อบิดามารดาละทิ้งข้าพเจ้าแล้ว พระยะโฮวาจะทรงรับข้าพเจ้าไว้.”
1 เป. 4:16: “ถ้าคนนั้นทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน อย่าให้เขารู้สึกอาย แต่ให้เขาสรรเสริญพระเจ้าด้วยชื่อนี้ต่อ ๆ ไป.”
สุภา. 27:11: “ศิษย์ของเราเอ๋ย, จงมีปัญญาขึ้น, และกระทำให้ใจของเรามีความยินดี, เพื่อเราจะมีคำตอบคนที่ตำหนิเราได้.” (โดยการเป็นคนซื่อสัตย์ เราตอบคำกล่าวหาเท็จของซาตานที่ว่า จะไม่มีคนใดรับใช้พระเจ้าต่อ ๆ ไปหากต้องทนกับความยากลำบาก.)
มัด. 5:10-12: “ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะเห็นแก่ความชอบธรรมก็มีความสุข เพราะราชอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา. เจ้าทั้งหลายมีความสุขเมื่อผู้คนติเตียนและข่มเหงพวกเจ้าและพูดมุสาเรื่องชั่วร้ายสารพัดอย่างต่อต้านพวกเจ้าเพราะเรา. จงปลาบปลื้มยินดีเพราะบำเหน็จของเจ้าทั้งหลายมีมากมายในสวรรค์ ด้วยว่าพวกเขาก็ได้ข่มเหงเหล่าผู้พยากรณ์ที่อยู่ก่อนพวกเจ้าอย่างนั้นแหละ.”
กิจ. 5:41, 42: “พวกอัครสาวกจึงออกจากสภาซันเฮดรินด้วยความยินดีเพราะถือว่าที่พวกเขาได้รับความอัปยศเพื่อพระนามของพระเยซูนั้นแสดงว่าพระเจ้าพอพระทัยพวกเขา. พวกเขาจึงสอนและประกาศข่าวดีเรื่องพระคริสต์ คือพระเยซู ทั้งในพระวิหารและตามบ้านต่อไปทุกวันมิได้ขาด.”
ฟิลิป. 1:27-29: “จงประพฤติอย่างที่สมกับข่าวดีเรื่องพระคริสต์ . . . และพวกผู้ต่อต้านไม่ได้ทำให้พวกท่านกลัวเลย. นี่แหละเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขาจะพินาศ แต่พวกท่านจะรอด และข้อพิสูจน์นี้มาจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงประทานสิทธิพิเศษแก่ท่านทั้งหลายไม่เพียงให้เชื่อพระคริสต์เท่านั้น แต่ให้ทนทุกข์เพื่อพระองค์ด้วย.”
สำหรับคนที่ท้อแท้ใจเนื่องจาก ความอยุติธรรม—
เพลง. 37:10, 11: “เพราะว่ายังอีกหน่อยหนึ่ง, คนชั่วจะไม่มี: ท่านจงเพ่งตาหาที่ของเขา, แต่ไม่มีแล้ว. แต่คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.”
ยซา. 9:6, 7: “ด้วยว่าจะมีบุตรคนหนึ่งเกิดขึ้นในพวกเรา, คือทรงประทานบุตราคนหนึ่งให้แก่พวกเรา, และท่านได้แบกการปกครองไว้เหนือบ่าของท่าน, และเขาจะขนานนามของท่านว่า, ที่ปรึกษามหัศจรรย์, พระเจ้าทรงอานุภาพ, พระบิดาองค์ถาวร, และองค์สันติราช. ความจำเริญรุ่งเรืองแห่งรัฐบาลของท่านและสันติสุขจะไม่รู้สิ้นสุดไปจากราชบัลลังก์แห่งกษัตริย์ดาวิด, และราชอาณาจักรของท่าน. พระองค์จะทรงตั้งแผ่นดินของพระองค์, และทรงค้ำชูไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม แต่บัดนี้ต่อไปจนไม่รู้สิ้นสุด. ความกระตือรือร้นแห่งพระยะโฮวาจอมโยธาจะทำให้การนี้สำเร็จ.”
ดานิ. 2:44: “ในสมัยเมื่อกษัตริย์เหล่านั้นกำลังเสวยราชย์อยู่ พระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรอันหนึ่งขึ้น ซึ่งจะไม่มีวันทำลายเสียได้ หรือผู้ใดจะชิงเอาอาณาจักรนี้ไปก็หาได้ไม่ แต่อาณาจักรนี้จะทำลายอาณาจักรอื่น ๆ ให้ย่อยยับและเผาผลาญเสียสิ้น และอาณาจักรนี้จะดำรงอยู่เป็นนิจ.”
ดู ยะซายา 32:1, 2; 2 เปโตร 3:13 ด้วย.
สำหรับคนที่ถูกกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจ—
ยซา. 65:21, 22 (ล.ม.): “และเขาจะสร้างบ้านเรือนและจะได้อยู่เป็นแน่; และเขาจะทำสวนองุ่นแล้วได้กินผลแน่นอน. เขาจะไม่สร้างแล้วคนอื่นอยู่อาศัย; เขาจะไม่ปลูกแล้วคนอื่นได้กิน. . . . ผู้ถูกเลือกสรรของเราจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการงานโดยน้ำมือของเขาเอง.”
เพลง. 72:8, 16: “พระองค์ [กษัตริย์มาซีฮา] จะทรงครอบครองตั้งแต่มหาสมุทรข้างนี้ถึงมหาสมุทรข้างโน้น, และตั้งแต่แม่น้ำจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก. [ธัญญาหารจะบริบูรณ์บนแผ่นดิน; (ต้นไม้) บนยอดเขาจะมีผลดก ล.ม.]”
มัด. 6:33: “ดังนั้น จงแสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนเสมอไป แล้วพระองค์จะทรงให้สิ่งทั้งปวงนี้ [วัตถุปัจจัยที่จำเป็นต่อชีวิต] แก่พวกเจ้า.”
โรม 8:35, 38, 39: “ใครเล่าจะพรากเราจากความรักของพระคริสต์ได้? จะเป็นความลำบาก ความทุกข์ การข่มเหง ความหิว การเปลือยกาย ภัยอันตราย หรือดาบอย่างนั้นหรือ? เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าความตายหรือชีวิตหรือทูตสวรรค์หรือรัฐบาลหรือสิ่งที่มีอยู่เดี๋ยวนี้หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหรืออำนาจ หรือความสูงหรือความลึกหรือสิ่งทรงสร้างอื่นใด จะไม่อาจพรากเราจากความรักที่พระเจ้าทรงแสดงต่อเราโดยทางพระคริสต์เยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้.”
ดู ฮีบรู 13:5, 6 ด้วย.
สำหรับคนที่ท้อแท้เนื่องจากข้ออ่อนแอต่าง ๆ ของตนเอง—
เพลง. 34:18: “พระยะโฮวาทรงสถิตอยู่ใกล้ผู้ที่มีใจชอกช้ำ และคนที่มีใจสุภาพพระองค์จะทรงช่วยให้รอด.”
เพลง. 103:13, 14: “บิดาเมตตาบุตรของตนมากฉันใด, พระยะโฮวาทรงพระเมตตาคนที่ยำเกรงพระองค์มากฉันนั้น. เพราะพระองค์ทรงทราบร่างกายของพวกข้าพเจ้าแล้ว, พระองค์ทรงระลึกอยู่ว่าพวกข้าพเจ้าเป็นแต่ผงคลีดิน.”
นเฮม. 9:17: “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าประกอบด้วยความเมตตากรุณา, ทรงอดกลั้นพระทัยไว้โดยพระมหากรุณาอันใหญ่ยิ่ง.”
2 เป. 3:9, 15: “พระยะโฮวาไม่ทรงชักช้าในการทำตามคำสัญญาของพระองค์อย่างที่บางคนคิดว่าชักช้านั้น แต่พระองค์ทรงอดทนกับท่านทั้งหลายเพราะพระองค์ไม่ปรารถนาให้คนใดถูกทำลาย แต่ปรารถนาจะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่. นอกจากนี้ จงถือว่าความอดทนขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นความรอด.”