พระยะโฮวาทรงรักผู้ให้ด้วยใจยินดี
“ทุกคนจงให้ตามซึ่งเขาคิดหมายไว้ในใจ มิใช่ด้วยนึกเสียดาย มิใช่ด้วยขืนใจให้ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี.”—2 โกรินโธ 9:7.
1. พระเจ้าและพระคริสต์ทรงเป็นผู้ให้ด้วยความยินดีตลอดมานั้นอย่างไร?
พระยะโฮวาทรงเป็นบุคคลแรกที่ให้ด้วยความยินดี. พระองค์ทรงประสาทชีวิตแก่พระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระองค์และได้ทรงใช้พระบุตรสร้างสรรค์ทูตสวรรค์และมนุษย์ให้มีชีวิตดำรงอยู่. (สุภาษิต 8:30, 31; โกโลซาย 1:13-17) พระเจ้าได้ประทานชีวิตและลมหายใจและสิ่งสารพัด รวมทั้งบันดาลให้ฝนตกจากท้องฟ้าและให้มีฤดูเกิดผล ยังความเบิกบานยินดีเปี่ยมล้นหัวใจของเรา. (กิจการ 14:17; 17:25) แท้จริง ทั้งพระเจ้าและพระบุตรเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ให้ด้วยความยินดี. พระองค์ทั้งสองทรงให้ด้วยความยินดีและอย่างไม่เห็นแก่ประโยชน์ตนเอง. พระยะโฮวาทรงรักโลกมาก จนถึงกับ “ได้ประทานพระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่แสดงความเชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์.” และพระเยซู ‘ได้ประทานชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก’ อย่างไม่นึกเสียดาย.—โยฮัน 3:16, ล.ม.; มัดธาย 20:28.
2. ตามคำกล่าวของเปาโล พระเจ้าทรงรักผู้ให้ประเภทใด?
2 เหตุฉะนั้น ผู้รับใช้ของพระเจ้าและของพระคริสต์จึงควรเป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี. จดหมายฉบับที่สองที่เปาโลเขียนไปถึงคริสเตียนในเมืองโกรินโธราว ๆ ปีสากลศักราช 55 ก็ได้สนับสนุนการให้เช่นนั้น. ดูเหมือนว่าพาดพิงถึง การบริจาคเงินของปัจเจกบุคคลที่ให้ด้วยความสมัครใจซึ่งจัดขึ้นเพื่อช่วยคริสเตียนที่ขัดสนในกรุงยะรูซาเลมและในยูดายโดยเฉพาะ เปาโลกล่าวว่า “ทุกคนจงให้ตามซึ่งเขาได้คิดหมายไว้ในใจ มิใช่ด้วยนึกเสียดาย เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี.” (2 โกรินโธ 9:7; โรม 15:26; 1 โกรินโธ 16:1, 2; ฆะลาเตีย 2:10) ไพร่พลของพระเจ้ามีปฏิกิริยาเช่นไรต่อโอกาสต่าง ๆ ที่จะให้? และเราจะเรียนอะไรจากคำแนะนำของเปาโลว่าด้วยการให้?
ความเต็มใจเป็นแรงกระตุ้น
3. ชาวยิศราเอลสนับสนุนงานก่อสร้างพลับพลาประชุมเพื่อการนมัสการพระยะโฮวาถึงขนาดไหน?
3 ความสมัครใจกระตุ้นไพร่พลของพระเจ้าให้สละตัวเองและทรัพย์สินของตนสนับสนุนพระประสงค์ของพระเจ้า. ตัวอย่าง ชาวยิศราเอลในสมัยโมเซต่างก็ชื่นชมยินดีสนับสนุนการก่อสร้างพลับพลาประชุมเพื่อการนมัสการพระยะโฮวา. ผู้หญิงบางคนมีแรงกระตุ้นจากหัวใจให้ปั่นขนแพะ ส่วนผู้ชายบางคนทำงานด้านช่างฝีมือ. ด้วยความสมัครใจประชาชนต่างก็ยินดีบริจาคทอง, เงิน, ไม้, ผ้าป่านและของอื่น ๆ “ถวายพระยะโฮวา.” (เอ็กโซโด 35:4-35) พวกเขามีใจกว้างมากถึงขนาดของต่าง ๆ ที่ได้บริจาค “มีมากพอทำการงานทั้งปวงแล้วและยังมีเหลืออีก.”—เอ็กโซโด 36:4-7.
4. ดาวิดและคนอื่น ๆ ได้บริจาคสิ่งของเพื่อสร้างพระวิหารนั้นด้วยทัศนะเช่นไร?
4 ต่อมาอีกหลายศตวรรษ กษัตริย์ดาวิดได้บริจาคมากมายเพื่อพระวิหารของพระยะโฮวาซึ่งซะโลโมบุตรของท่านจะสร้างภายหลัง. เพราะเหตุที่ดาวิด ‘โสมนัสยินดีในพระวิหารของพระเจ้า’ ท่านจึงได้ยก ‘ทรัพย์สินในคลัง’ คือทองคำ, และเงินสำหรับใช้สร้างพระวิหาร. พวกเจ้านาย, หัวหน้าตระกูล, และคนอื่น ๆ ‘ได้นำของมาถวายพระยะโฮวา.’ ผลเป็นอย่างไร? “คนทั้งหลายมีความปีติยินดีในการถวายนั้น เพราะเขานำของมาถวายพระยะโฮวาโดยความศรัทธาและใจสุจริต!” (1 โครนิกา 29:3-9) คนเหล่านั้นเป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี.
5. ชาวยิศราเอลได้สนับสนุนการนมัสการแท้ตลอดเวลาหลายศตวรรษโดยวิธีใด?
5 ตลอดเวลาหลายศตวรรษ ชาวยิศราเอลมีสิทธิพิเศษให้การอุดหนุนพลับพลาประชุม, พระวิหารในเวลาต่อมา, รวมทั้งงานในหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งปุโรหิตและพวกเลวีได้ปฏิบัติ ณ ที่นั่น. ยกตัวอย่าง ในสมัยนะเฮมยา ชาวยิวตกลงปลงใจจะบริจาคทรัพย์เพื่อผดุงการนมัสการบริสุทธิ์ โดยรู้ว่าเขาไม่ควรละเลยราชสำนักของพระเจ้า. (นะเฮมยา 10:32-39) ทุกวันนี้เช่นเดียวกัน พยานพระยะโฮวายินดีบริจาคทรัพย์ด้วยความสมัครใจเพื่อสร้างและบำรุงรักษาหอประชุม และสนับสนุนการนมัสการแท้.
6. จงยกตัวอย่างการให้ด้วยความยินดีโดยชนคริสเตียน.
6 คริสเตียนสมัยต้น ๆ เป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี. อย่างเช่น ฆาโยได้แสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อ “ด้วยใจสัตย์ซื่อ” ต้อนรับผู้ดูแลเดินทางเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักร เฉกเช่นพยานพระยะโฮวาแสดงน้ำใจต้อนรับผู้ดูแลเดินทางสมัยนี้ซึ่งสมาคมวอชเทาเวอร์ส่งออกไป. (3 โยฮัน 5-8) ที่จะให้พี่น้องเหล่านี้เดินทางเพื่อเยี่ยมประชาคมและให้การรับรองแก่เขาย่อมมีการสิ้นเปลืองบ้าง แต่การนี้ช่างเป็นคุณประโยชน์ฝ่ายวิญญาณเสียนี่กระไร!—โรม 1:11, 12.
7. ชาวฟิลิปปอยได้ใช้ทรัพยากรของเขาอย่างไร?
7 ประชาคมต่าง ๆ โดยส่วนรวมแล้วได้ใช้ทรัพย์สินของตนส่งเสริมผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักร. อาทิ เปาโลได้กำชับผู้เชื่อถือในเมืองฟิลิปปอยดังนี้: “เพราะเมื่อข้าพเจ้าขัดสนอยู่ในเมืองเธซะโลนิเก พวกท่านได้ฝากของมาช่วยมากกว่าหนึ่งครั้ง. มิใช่ว่าข้าพเจ้าจะปรารถนาของให้ของท่านนั้น แต่ว่าข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้รับผลกำไรในบัญชีของท่านมากขึ้น.” (ฟิลิปปอย 4:15-17) ชาวฟิลิปปอยยินดีให้ด้วยความเต็มใจ แต่ปัจจัยอะไรได้กระตุ้นการให้ด้วยความยินดีเช่นนั้น?
อะไรกระตุ้นการให้ด้วยใจยินดี?
8. คุณจะพิสูจน์อย่างไรว่าพระวิญญาณของพระเจ้ากระตุ้นไพร่พลของพระองค์เป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี?
8 พระวิญญาณบริสุทธิ์หรือพลังปฏิบัติการของพระยะโฮวากระตุ้นไพร่พลของพระองค์ที่จะเป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี. เมื่อคริสเตียนในแคว้นยูดายอัตคัตขัดสน พระวิญญาณของพระเจ้าได้กระตุ้นเพื่อนร่วมความเชื่อให้ช่วยเหลือพวกเขาทางด้านวัตถุปัจจัย. เพื่อสนับสนุนคริสเตียนที่เมืองโกรินโธให้ทำอย่างสุดกำลังในการบริจาค เปาโลยกเอาประชาคมต่าง ๆ ในมากะโดเนียขึ้นมาเป็นตัวอย่าง. แม้ผู้เชื่อถือชาวมากะโดเนียกำลังประสบการข่มเหงและขัดสนอยู่ก็ตาม แต่พวกเขาแสดงความรักต่อพี่น้องโดยการให้ปันเกินขีดกำลังความสามารถจริง ๆ ของเขา. พวกเขาถึงกับขอร้องเพื่อจะมีสิทธิพิเศษในการให้เสียด้วยซ้ำ! (2 โกรินโธ 8:1-5) งานของพระเจ้ามิใช่ว่าจะอาศัยการบริจาคของผู้มั่งคั่งร่ำรวยแต่เพียงฝ่ายเดียว. (ยาโกโบ 2:5) ผู้รับใช้ของพระองค์ที่ได้อุทิศตัวแล้วซึ่งยากจนด้านวัตถุแต่ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญด้านเงินทุนสำหรับงานประกาศข่าวราชอาณาจักร. (มัดธาย 24:14) ถึงกระนั้น พวกเขาไม่ลำบากเนื่องจากเขาได้แสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อ เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมให้ไพร่พลที่ทำการงานนี้ของพระองค์มีพอกับความต้องการอย่างแน่นอน และพระวิญญาณของพระองค์เป็นพลังค้ำจุนงานนี้ให้ดำเนินต่อไปและเพิ่มพูนยิ่งขึ้น.
9. ความเชื่อ, ความรู้, และความรักเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับการให้ด้วยใจยินดี?
9 การให้ด้วยความยินดีได้รับแรงกระตุ้นโดยความเชื่อ, ความรู้, และความรัก. เปาโลบอกดังนี้: “เหตุฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลาย [ชาวโกรินโธ] มีใจประกอบบริบูรณ์ด้วยทุกสิ่ง คือความเชื่อและถ้อยคำและความรู้และความกระตือรือร้นและความรักต่อเรา ท่านทั้งหลายก็มีใจประกอบการกุศลนี้เหมือนกัน. ข้าพเจ้าว่าอย่างนี้มิได้หมายความว่าเป็นบัญชา แต่ได้นำเรื่องที่คนอื่นมีใจกระตือรือร้นมาลองเทียบดูกับความรักของท่านทั้งหลายว่าแพ้หรือไม่.” (2 โกรินโธ 8:7, 8) การบริจาคให้แก่งานของพระยะโฮวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ให้มีจำกัดจำเขี่ยเช่นนั้นจึงต้องอาศัยความเชื่อในพระเจ้าสำหรับการจะมีสิ่งต่าง ๆ ในวันข้างหน้า. คริสเตียนบริบูรณ์ด้วยความรู้ต้องการรับใช้พระประสงค์ของพระยะโฮวา และบรรดาผู้ที่บริบูรณ์ด้วยความรักต่อพระองค์และต่อไพร่พลของพระองค์ย่อมยินดีเต็มใจใช้ทรัพยากรของตนส่งเสริมงานของพระองค์.
10. เหตุใดจึงสามารถกล่าวได้ว่าตัวอย่างของพระเยซูกระตุ้นคริสเตียนเป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี?
10 ตัวอย่างของพระเยซูกระตุ้นคริสเตียนในการให้ด้วยความยินดี. หลังจากได้เร้าใจชาวโกรินโธในเรื่องการให้ด้วยความรัก เปาโลกล่าวดังนี้: “เพราะว่าท่านรู้จักพระกรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเราว่า ครั้นพระองค์มั่งคั่งอยู่แล้ว พระองค์ยังทรงยอมเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมีเนื่องจากความยากจนของพระองค์.” (2 โกรินโธ 8:9) ทั้งที่พระเยซูทรงมั่งคั่งในสวรรค์มากกว่าบุตรองค์อื่น ๆ ของพระเจ้า แต่พระองค์ได้ทรงสละทุกสิ่ง แล้วมาบังเกิดเป็นมนุษย์. (ฟิลิปปอย 2:5-8) อย่างไรก็ตาม โดยการยอมยากจนในวิถีทางที่ไม่เห็นแก่ตัวเช่นนี้ พระเยซูจึงมีส่วนในการทำให้พระนามของพระยะโฮวาเป็นที่เคารพสักการะ ทั้งได้ยอมวายพระชนม์เป็นเครื่องบูชาไถ่เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ที่รับรองเอาค่าไถ่นี้. สอดคล้องกับตัวอย่างของพระเยซู ไม่สมควรหรือที่พวกเราพึงให้ด้วยใจยินดีเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ และมีส่วนในการทำให้พระนามของพระยะโฮวาเป็นที่เคารพสักการะ?
11, 12. การวางแผนอย่างดีจะทำให้เราเป็นผู้ให้ด้วยความยินดีได้อย่างไร?
11 การวางแผนที่ดีเอื้ออำนวยต่อการให้ด้วยความยินดี. เปาโลสั่งชาวโกรินโธดังนี้: “วันต้นสัปดาห์ให้พวกท่านทุกคนในบ้านของตัวเองเก็บเงินที่หามาได้ไว้บ้าง เพื่อจะไม่มีการเรี่ยไรกันเมื่อข้าพเจ้ามา.” (1 โกรินโธ 16:1, 2) ด้วยวิธีการส่วนตัวและด้วยความสมัครใจ คงเป็นการดีหากผู้ที่ปรารถนาจะบริจาคเพื่อขยายกิจการฝ่ายราชอาณาจักรสมัยปัจจุบันพึงแบ่งเก็บรายได้ส่วนหนึ่งของตนไว้เพื่อจุดมุ่งหมายนั้น. ด้วยการวางแผนไว้ดีเช่นนั้น พยานฯเป็นรายบุคคล ครอบครัวต่าง ๆ และประชาคมต่าง ๆ สามารถบริจาคเพื่อส่งเสริมการนมัสการแท้.
12 การปฏิบัติตามแผนที่จะบริจาคทำให้เรามีความยินดี. ดังที่พระเยซูตรัสว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ.” (กิจการ 20:35) ฉะนั้น ชาวโกรินโธสามารถเพิ่มพูนความยินดีของตนได้โดยทำตามคำแนะนำของเปาโลที่ให้ส่งเงินกองทุนไปที่ยะรูซาเลมตามโครงการที่เขาตั้งใจไว้หนึ่งปีก่อนหน้านั้น. เปาโลบอกว่า “พระเจ้าก็พอพระทัยที่จะทรงโปรดรับไว้ตามซึ่งทุกคนมีอยู่ ไม่ใช่ตามซึ่งเขาไม่มี.” เมื่อคนหนึ่งบริจาคเท่าที่เขาทำได้ สิ่งที่บริจาคนั้นสูงค่าทีเดียว. ถ้าเราวางใจในพระเจ้า พระองค์จะทรงจัดสรรแบ่งให้เสมอภาคกันเพื่อว่าคนมีมากจะเผื่อแผ่ ไม่ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย และคนมีน้อยจะไม่อัตคัดขาดแคลนอันจะเป็นเหตุให้อ่อนกำลัง และความสามารถในการรับใช้พระองค์จะหย่อนตามไปด้วย.—2 โกรินโธ 8:10-15.
จัดการอย่างรอบคอบในเรื่องการให้
13. เหตุใดชาวโกรินโธไว้วางใจในเปาโลเกี่ยวกับการดูแลด้านการบริจาค?
13 แม้ว่าเปาโลตรวจดูแลวิธีการบริจาคเพื่อผู้เชื่อถือที่ขัดสนจะได้รับการบรรเทาทุกข์และร่วมงานประกาศสั่งสอนด้วยความกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ตัวท่านเองหรือคนอื่น ๆ ก็หาได้ฉวยเอาสิ่งใด ๆ จากกองทุนไปใช้สำหรับตนเองไม่. (2 โกรินโธ 8:16-24; 12:17, 18) เปาโลทำงานเพื่อจะมีสิ่งจำเป็นสำหรับตัวเอง แทนที่จะให้ประชาคมใดประชาคมหนึ่งรับเป็นภาระ. (1 โกรินโธ 4:12; 2 เธซะโลนิเก 3:8) เหตุฉะนั้น เมื่อเขาส่งมอบเงินบริจาคให้ท่าน ชาวโกรินโธได้ฝากไว้กับผู้รับใช้ของพระเจ้าซึ่งเป็นคนที่วางใจได้และเป็นคนหมั่นขยัน.
14. เกี่ยวกับการใช้เงินบริจาค สมาคมวอชเทาเวอร์ทำประวัติไว้อย่างไร?
14 ตั้งแต่มีการจัดตั้งสมาคมวอชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์ขึ้นในปี 1884 ผู้บริจาคทั้งหลายได้เห็นพยานหลักฐานว่าสมาคมเป็นผู้ดูแลที่วางใจได้สำหรับการบริจาคทั้งหมดที่มอบไว้กับสมาคมให้ดำเนินงานฝ่ายราชอาณาจักรของพระยะโฮวา. ตามกฎบัตรนั้น สมาคมวอชเทาเวอร์มุ่งที่จะให้มวลชนได้รับสิ่งจำเป็นอันสำคัญยิ่งคือสิ่งจำเป็นฝ่ายวิญญาณ. ทั้งนี้ได้ดำเนินการในลักษณะจัดเตรียมสรรพหนังสือที่ให้ความรู้ด้านคัมภีร์ไบเบิลและคำชี้แจงแนะนำวิธีที่จะได้ความรอด. ทุกวันนี้ พระยะโฮวาทรงเร่งงานรวบรวมชนจำพวกแกะเข้ามาในองค์การของพระองค์ที่กำลังเจริญเติบโต และการที่พระองค์ทรงอวยพรการใช้ทรัพย์บริจาคเพื่องานประกาศสั่งสอนเรื่องราชอาณาจักรด้วยความรอบคอบเช่นนี้จึงประจักษ์ชัดว่าพระองค์ทรงพอพระทัย. (ยะซายา 60:8, 22) พวกเรามั่นใจว่าพระองค์จะทรงกระตุ้นหัวใจผู้ให้ด้วยใจยินดีอยู่เรื่อยไป.
15. เพราะเหตุใดวารสารนี้พูดเรื่องการบริจาคเป็นครั้งคราว?
15 สมาคมใช้หน้ากระดาษของวารสารนี้เตือนผู้อ่านเป็นครั้งคราวเพื่อให้เขาตื่นตัวต่อสิทธิพิเศษที่จะทำการบริจาคด้วยความสมัครใจต่องานประกาศเผยแพร่เรื่องราชอาณาจักรไปทั่วโลก. ที่ทำอย่างนี้ไม่ใช่การอ้อนวอน แต่เป็นการสะกิดใจทุกคนที่ประสงค์จะสนับสนุน “งานศักดิ์สิทธิ์แห่งกิตติคุณ” ตามที่พระเจ้าโปรดให้เขาเจริญมั่งคั่ง. (โรม 15:16, ล.ม.; 3 โยฮัน 2) สมาคมใช้ทรัพย์บริจาคนั้นทั้งหมดในวิธีประหยัดที่สุดเพื่อว่าพระนามและราชอาณาจักรของพระยะโฮวาจะเป็นที่รู้จัก. สมาคมได้รับบริจาคทุกรายการด้วยการหยั่งรู้ค่าและตอบรับ และใช้ไปเพื่องานแพร่ข่าวดีเกี่ยวด้วยราชอาณาจักรของพระเจ้า. อย่างเช่น งานเผยแพร่ที่มิชชันนารีกำลังทำอยู่ในดินแดนต่าง ๆ หลายประเทศก็โดยเงินอุดหนุนจากการบริจาค และโดยวิธีนี้จึงได้ติดตั้งและขยายอุปกรณ์การพิมพ์ซึ่งจำเป็นต่อการแจกจ่ายความรู้ทางพระคัมภีร์. ยิ่งกว่านั้น การบริจาคเพื่องานที่ทำอยู่ทั่วโลกนี้ถูกใช้ไปสำหรับการพิมพ์พระคัมภีร์และสรรพหนังสือคู่มือศึกษาพระคัมภีร์ รวมทั้งการผลิตแถบบันทึกเสียงและแถบบันทึกภาพ. ด้วยแนวทางต่าง ๆ เช่นนี้คนเหล่านั้นที่ให้ด้วยใจยินดีจึงส่งเสริมผลประโยชน์ฝ่ายราชอาณาจักร.
ไม่ใช่เพราะถูกบังคับ
16. ถึงแม้พยานพระยะโฮวาส่วนใหญ่ไม่ใช่คนมีทรัพย์สินมั่งคั่ง แต่ทำไมทรัพย์ที่เขาได้บริจาคจึงได้รับการหยั่งรู้ค่า?
16 พยานพระยะโฮวาที่ร่ำรวยทางวัตถุมีน้อยคน. ถึงแม้เขาจะบริจาคจำนวนไม่มากเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักร กระนั้น การบริจาคของเขาก็มีความหมาย. เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรหญิงม่ายยากจนหยอดเหรียญเล็ก ๆ ราคาไม่มากสองอันลงในตู้เก็บเงินในพระวิหาร พระองค์ตรัสว่า “หญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้มากกว่าคนทั้งปวงนั้น. เพราะว่าคนทั้งหลาย [ผู้บริจาคคนอื่น ๆ] ได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่รวมกับเงินถวาย แต่ผูหญิงคนนี้ขัดสนที่สุดยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด.” (ลูกา 21:1-4) แม้นสิ่งที่นางบริจาคนั้นเล็กน้อย แต่นางให้ด้วยใจยินดี และการบริจาคของนางได้รับการหยั่งรู้ค่า.
17, 18. แก่นแท้ของคำพูดที่เปาโลกล่าวใน 2 โกรินโธ 9:7 คืออะไร และคำภาษากรีกที่ว่า “ด้วยใจยินดี” นั้น ชี้ถึงอะไร?
17 เกี่ยวกับงานช่วยเหลือบรรเทาทุกข์คริสเตียนชาวยูดาย เปาโลพูดอย่างนี้: “ทุกคนจงให้ตามซึ่งเขาได้คิดหมายไว้ในใจ มิใช่ด้วยนึกเสียดาย มิใช่ด้วยขืนใจให้ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี.” (2 โกรินโธ 9:7) อัครสาวกเปาโลคงหมายถึงตอนหนึ่งในสุภาษิต 22:8 ในคัมภีร์ฉบับเซ็พตัวจินต์ที่ว่า “พระเจ้าทรงอวยพรผู้ที่ให้ด้วยความยินดี และจะทรงชดเชยสิ่งที่ขาดไปจากการงานของเขา” (เดอะ เซ็พตัวจินต์ ไบเบิล, ภาษาอังกฤษ แปลโดยชาร์ลส์ ทอมสัน) เปาโลใช้คำ “รัก” แทน “อวยพร” แต่ก็มีความเกี่ยวพันกัน เพราะการได้รับพระพรก็เนื่องมาจากความรักของพระเจ้า.
18 ผู้ให้ด้วยใจยินดีย่อมมีความสุขเมื่อให้. คำภาษาอังกฤษ “hilarious,” ซึ่งหมายความว่าสนุกสนานเฮฮาอย่างเต็มที่มาจากคำภาษากรีกที่นำมาแปลเป็น “ใจยินดี” ที่ 2 โกรินโธ 9:7! หลังจากชี้ถึงข้อเท็จจริงนี้แล้ว อาร์. ซี. เอ็ช. เลนสกีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาบอกว่า “พระเจ้ารักผู้ให้ที่สบายใจ ชื่นชมยินดี มีความสุข . . . ความเชื่อของเขาเกลื่อนด้วยรอยยิ้มเมื่อมีโอกาสที่เขาจะให้ได้อีกครั้งหนึ่ง.” คนที่มีแนวโน้มในทางร่าเริงยินดีเช่นนั้นไม่ให้อย่างนึกเสียดายหรือเพราะถูกบังคับ แต่การให้ของเขานั้นทำด้วยความเต็มใจ. การให้ของคุณเพื่อสนับสนุนผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความยินดีอย่างนั้นไหม?
19. คริสเตียนสมัยแรกทำการบริจาคกันอย่างไร?
19 คริสเตียนสมัยแรกไม่ได้ส่งถุงเรี่ยไรผ่านต่อหน้าผู้เข้าร่วมประชุมหรือถือเป็นกิจปฏิบัติโดยจ่ายหนึ่งในสิบของรายได้เพื่อจุดมุ่งหมายทางศาสนา. แทนที่จะทำอย่างนั้น การบริจาคของเขาทำด้วยความสมัครใจทั้งสิ้น. เทอร์ทูเลียน ซึ่งเปลี่ยนมาถือศาสนาคริสเตียนราว ๆ ปีสากลศักราช 190 เขียนไว้ว่า “ถึงแม้เรามีตู้ใส่เงินถวาย ก็ไม่ใช่เป็นเงินสำหรับซื้อความรอด ราวกับว่าศาสนาตั้งราคาขึ้นมา. พอถึงวันนั้นของเดือน [ดูเหมือนเดือนละครั้ง] ถ้าคนไหนอยากจะบริจาค แต่ละคนก็ใส่เงินจำนวนไม่มากมายลงในตู้ถวาย แต่เป็นไปตามที่เขาพอใจจะให้ และเท่าที่เขาสามารถจะนำมาถวาย เพราะไม่มีการบังคับ เป็นการให้ด้วยความสมัครใจทั้งสิ้น.”—หนังสือการแก้ต่าง (ภาษาอังกฤษ) บท 39.
20, 21. (ก) ตอนต้น ๆ เมื่อเริ่มออกวารสารนี้ เคยมีการพูดไว้อย่างไรถึงสิทธิพิเศษของการใช้เงินเป็นกองทุนสนับสนุนงานของพระเจ้า และเรื่องนี้ยังคงใช้ได้กระทั่งทุกวันนี้อย่างไร? (ข) ผลเป็นประการใดเมื่อเราถวายเกียรติพระยะโฮวาด้วยสิ่งของของเราอันมีค่า?
20 การให้ด้วยความสมัครใจเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเสมอมาท่ามกลางพยานพระยะโฮวาสมัยปัจจุบัน. อย่างไรก็ดี บางครั้งบางคนก็ไม่ได้ฉวยประโยชน์เต็มที่จากสิทธิพิเศษที่ตนมีอยู่ที่จะบริจาคทรัพย์สนับสนุนงานของพระเจ้า. ยกตัวอย่าง ในเดือนกุมภาพันธ์ 1883 วารสารนี้พูดทำนองนี้ว่า “บางคนรับภาระการเงินมากเพื่อเห็นแก่คนอื่น กระทั่งความสามารถของเขาที่จะบริจาคซบเซาเพราะทำงานหนักเกินไปและอ่อนเพลีย ฉะนั้น ความเป็นประโยชน์ของเขาจึงเสื่อมสภาพ และไม่เพียงแค่นั้น แต่คนเหล่านั้นซึ่ง . . . ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เช่นนั้น เขาเสียโอกาสจะได้รับพระพรเนื่องจากเขาขาดความพยายามในด้านนี้.”
21 ขณะที่ชนฝูงใหญ่หลั่งไหลเข้ามาในองค์การของพระยะโฮวาเวลานี้ และขณะนี้ที่กิจการของพระเจ้าขยายไปถึงยุโรปตะวันออกและแถบถิ่นอื่นซึ่งแต่ก่อนเคยมีการจำกัดพระราชกิจ เวลานี้มีความต้องการมากยิ่งขึ้นในด้านการขยายโรงพิมพ์ และอุปกรณ์อื่น ๆ. จำเป็นต้องพิมพ์พระคัมภีร์ และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ มากมาย. โครงการหลายอย่างตามระบอบการของพระเจ้าอยู่ในระหว่างดำเนินการ อย่างไรก็ดี บางอย่างอาจดำเนินงานได้เร็วขึ้นถ้ามีเงินกองทุนพอ. แน่นอน พวกเราเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็น และเรารู้ว่าคนเหล่านั้นซึ่ง ‘ถวายเกียรติยศแด่พระยะโฮวาด้วยทรัพย์’ ย่อมได้รับพระพร. (สุภาษิต 3:9, 10) จริงทีเดียว “คนที่หว่านมากจะเกี่ยวเก็บมาก.” พระยะโฮวาจะ ‘ประทานสรรพคุณอันอุดมแก่ท่านทั้งหลาย’ และการให้ด้วยใจยินดีของเรานั้นจะช่วยคนเป็นอันมากขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์.—2 โกรินโธ 9:6-14.
จงสำแดงความขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับของประทานต่าง ๆ
22, 23. (ก) อะไรคือของประทานที่ได้เปล่าอันเหลือคำพรรณนาซึ่งพระเจ้าโปรดแก่เรา? (ข) เนื่องจากเราหยั่งรู้ค่าของประทานจากพระเจ้า เราควรทำอะไร?
22 ด้วยความรู้สึกกตัญญูอย่างลึกซึ้ง เปาโลกล่าวดังนี้: “จงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับของประทานที่ได้เปล่าซึ่งพระเจ้าโปรดให้อันเหลือค่า.” (2 โกรินโธ 9:15, ล.ม.) ในฐานะที่เป็น ‘เครื่องบูชาระงับพระพิโรธ’ เพราะบาปของคริสเตียนผู้ถูกเจิมและของคนทั้งหลายในโลกนี้ พระเยซูจึงเป็นหลักและร่องทางสำหรับของประทานที่ได้เปล่าจากพระยะโฮวาซึ่งเกินคำพรรณนาใด ๆ ทั้งสิ้น. (1 โยฮัน 2:1, 2) ของประทานนั้นเป็น “พระกรุณาอันไม่พึงได้รับของพระเจ้าซึ่งหาที่เปรียบมิได้” ซึ่งพระองค์ทรงสำแดงแก่ไพร่พลของพระองค์ทางแผ่นดินโลกโดยพระเยซูคริสต์ และยังผลเป็นความรอดของพวกเขา และเป็นการถวายเกียรติและเทิดทูนพระยะโฮวา.—2 โกรินโธ 9:14, ล.ม.
23 พวกเราขอบคุณพระยะโฮวาอย่างดื่มด่ำสำหรับของประทานที่พระองค์โปรดให้โดยพระทัยกว้างขวางเกินคำพรรณนา และทรงโปรดให้ของประทานอื่น ๆ มากมายแก่ไพร่พลของพระองค์ทั้งฝ่ายวิญญาณและทางด้านวัตถุ. คุณความดีของพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ซึ่งทรงสำแดงแก่พวกเราช่างวิเศษยิ่งนัก เกินอำนาจมนุษย์จะสรรกล่าวออกมาได้ และที่แน่นอนก็คือความดีของพระองค์นั้นควรกระตุ้นเราเป็นผู้ให้ด้วยใจยินดี. ดังนั้น ด้วยความหยั่งรู้ค่าจากหัวใจ ขอให้พวกเราทำสุดความสามารถที่จะส่งเสริมงานแห่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเราผู้ทรงมีพระทัยกว้างขวาง อีกทั้งทรงเป็นองค์แรกและล้ำหน้าใคร ๆ ในการให้ด้วยความยินดี!
คุณจำได้ไหม?
▫ หัวใจเปี่ยมด้วยความเต็มใจกระตุ้นไพร่พลของพระยะโฮวาให้ทำอะไร?
▫ อะไรกระตุ้นการให้ด้วยใจยินดี?
▫ สมาคมวอชเทาเวอร์ใช้ทรัพย์ทั้งหมดที่ได้รับบริจาคอย่างไร?
▫ พระเจ้าทรงรักผู้ให้ประเภทใด และโดยวิธีใดเราพึงสำแดงความกตัญญูของเราสำหรับของประทานมากมายที่เรารับจากพระองค์?
[รูปภาพหน้า 15]
เมื่อได้มีการสร้างพลับพลาประชุม ชาวยิศราเอลทำงานอย่างขยันขันแข็งและบริจาคทรัพย์ถวายพระยะโฮวาอย่างไม่คิดเสียดาย
[รูปภาพหน้า 18]
การบริจาคดังของหญิงม่ายที่ขัดสนนั้นได้รับการหยั่งรู้ค่าและถือว่าสำคัญ