ทำงานกับพระยะโฮวาทุกวัน
“เราเป็นเพื่อนร่วมงานของพระเจ้า”—1 โครินธ์ 3:9
1. เราจะทำงานกับพระยะโฮวาได้อย่างไรบ้าง?
ตอนที่พระยะโฮวาสร้างมนุษย์ พระองค์อยากให้พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของพระองค์ ถึงตอนนี้มนุษย์จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ผู้รับใช้พระเจ้าที่ซื่อสัตย์ก็สามารถทำงานกับพระองค์ได้ทุกวัน เช่น เราเป็น “เพื่อนร่วมงานของพระเจ้า” ตอนที่เราประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระองค์และสอนคนให้เป็นสาวก (1 โครินธ์ 3:5-9) นี่เป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ที่พระเจ้าผู้สร้างซึ่งมีพลังอำนาจสูงสุดเลือกเราให้ทำงานสำคัญนี้ แต่การประกาศไม่ใช่งานอย่างเดียวที่เราทำกับพระยะโฮวา บทความนี้เราจะดูกันว่าเราจะทำงานกับพระองค์อย่างไรตอนที่เราช่วยคนในครอบครัวและพี่น้องในประชาคม ตอนที่เราแสดงน้ำใจ ตอนที่เราช่วยในโครงการต่าง ๆ ทั่วโลกขององค์การ และตอนที่เราทำงานรับใช้พระยะโฮวาเพิ่มขึ้น—โคโลสี 3:23
2. ทำไมเราไม่ควรเปรียบเทียบสิ่งที่เราทำเพื่อพระยะโฮวากับสิ่งที่คนอื่นทำ?
2 ตอนที่เราเรียนบทความนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องจำไว้ว่าเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราต่างกันทั้งเรื่องอายุ สุขภาพ สภาพการณ์ และความสามารถ ดังนั้น อย่าเปรียบเทียบสิ่งที่คุณทำเพื่อพระยะโฮวากับสิ่งที่คนอื่นทำ เปาโลบอกว่า “ให้แต่ละคนตรวจสอบดูสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วเขาจะภูมิใจกับตัวเอง และอย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น”—กาลาเทีย 6:4
ช่วยคนในครอบครัวและพี่น้องในประชาคม
3. ทำไมเราพูดได้ว่าทุกคนที่ดูแลเอาใจใส่ครอบครัวกำลังทำงานกับพระยะโฮวา?
3 พระยะโฮวาต้องการให้เราเอาใจใส่ครอบครัว เช่น คุณอาจทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว คนที่เป็นแม่ก็ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก และถ้าเรามีพ่อแม่ที่อายุมากหรือป่วย เราก็ต้องดูแลท่าน หน้าที่ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งจำเป็น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ถ้าใครไม่เลี้ยงดูคนที่อยู่ในความดูแลของเขา โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัวของเขาเอง คนนั้นก็ปฏิเสธความเชื่อและเลวยิ่งกว่าคนที่ไม่มีความเชื่อด้วยซ้ำ” (1 ทิโมธี 5:8) ถ้าคุณมีหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่างในครอบครัว คุณอาจไม่สามารถทำงานรับใช้พระยะโฮวาได้มากอย่างที่อยากทำ แต่อย่าเพิ่งท้อ การที่คุณเอาใจใส่ครอบครัวทำให้พระยะโฮวาพอใจ—1 โครินธ์ 10:31
4. พ่อแม่จะให้รัฐบาลของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตได้อย่างไร? และถ้าทำแบบนั้นจะมีผลอย่างไร?
4 ถ้าพ่อแม่ช่วยลูกให้มีเป้าหมายรับใช้พระยะโฮวา พวกเขาก็กำลังทำงานกับพระองค์ พ่อแม่หลายคนได้ทำแบบนี้อยู่แล้ว ลูก ๆ ของพวกเขาเลยตัดสินใจรับใช้เต็มเวลาแม้ต้องไปอยู่ไกลจากบ้าน เช่น บางคนเป็นมิชชันนารี บางคนเป็นไพโอเนียร์ในที่ที่ต้องการผู้ประกาศ ส่วนบางคนก็ไปรับใช้ที่เบเธล และเพราะลูกอยู่ไกล พ่อแม่ก็เลยไม่มีโอกาสได้อยู่กับลูกมากอย่างที่ต้องการ แต่พวกเขาก็เสียสละโดยสนับสนุนให้ลูกรับใช้พระยะโฮวาต่อไป ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น? เพราะพวกเขามีความสุขมากที่ลูกให้พระยะโฮวาสำคัญที่สุดในชีวิต (3 ยอห์น 4) พ่อแม่หลายคนรู้สึกเหมือนกับฮันนาห์ เธอบอกว่า เธอ “ให้พระยะโฮวายืม” ลูกชายซึ่งก็คือซามูเอล พวกเขารู้สึกเป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ทำงานกับพระยะโฮวาแบบนี้—1 ซามูเอล 1:28, เชิงอรรถ
5. คุณจะช่วยพี่น้องในประชาคมของคุณได้อย่างไรบ้าง? (ดูภาพแรก)
5 ถ้าคุณไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบที่หนักมากในครอบครัว คุณจะช่วยพี่น้องที่ป่วย อายุมาก หรือต้องการความช่วยเหลือได้ไหม? หรือคุณอาจช่วยพี่น้องที่ต้องดูแลคนอื่นในครอบครัวได้ไหม? ลองดูว่ามีใครบ้างในประชาคมของคุณที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น อาจมีพี่น้องหญิงที่ต้องดูแลพ่อแม่สูงอายุ คุณจะไปช่วยดูแลพ่อแม่เขาได้ไหมเพื่อเขาจะมีเวลาทำอย่างอื่น? หรือคุณอาจเสนอจะพาบางคนไปประชุมหรือซื้อของ หรือพาเขาไปเยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาล ถ้าทำแบบนี้ คุณก็อาจกำลังทำงานกับพระยะโฮวาในการตอบอธิษฐาน—อ่าน 1 โครินธ์ 10:24
มีน้ำใจ
6. เราจะแสดงน้ำใจได้อย่างไร?
6 ใคร ๆ ก็รู้ว่าเพื่อนร่วมงานของพระเจ้ามีน้ำใจ ในคัมภีร์ไบเบิล คำกรีกที่แปลว่า “น้ำใจต้อนรับ” หมายถึง “ใจดีกับคนแปลกหน้า” (ฮีบรู 13:2) คัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างมากมายที่สอนวิธีแสดงน้ำใจ (ปฐมกาล 18:1-5) เราสามารถช่วยคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาสและควรจะทำอย่างนั้นไม่ว่าคนนั้นจะเป็น “พี่น้องร่วมความเชื่อของเรา” หรือไม่—กาลาเทีย 6:10
7. คุณจะได้ประโยชน์อะไรบ้างเมื่อคุณแสดงน้ำใจต้อนรับผู้รับใช้เต็มเวลา?
7 คุณจะทำงานกับพระยะโฮวาโดยแสดงน้ำใจต้อนรับพี่น้องที่รับใช้เต็มเวลาซึ่งต้องการที่พักได้ไหม? (อ่าน 3 ยอห์น 5, 8) ถ้าคุณทำแบบนั้น ทั้งเขาและคุณก็จะได้ประโยชน์ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่านี่เป็นการ “ให้กำลังใจกันและกัน” (โรม 1:11, 12) ขอดูตัวอย่างของโอลาฟ ตอนที่โอลาฟยังเป็นวัยรุ่น มีผู้ดูแลหมวดที่เป็นโสดมาเยี่ยมประชาคมของเขาและต้องการที่พัก แต่ปรากฏว่าพี่น้องในประชาคมไม่มีใครให้ที่พักได้ โอลาฟเลยถามพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นพยานฯ ว่า ขอให้ผู้ดูแลหมวดมาพักที่บ้านได้ไหม พ่อแม่บอกโอเค แต่ก็บอกว่าโอลาฟจะต้องนอนที่โซฟา โอลาฟตกลง และเขาไม่เสียใจที่ทำอย่างนั้นเลย ตลอดสัปดาห์นั้นโอลาฟมีความสุขมาก ทั้งเขากับผู้ดูแลหมวดคนนั้นตื่นแต่เช้าทุกวัน และคุยเรื่องดี ๆ ด้วยกันหลายอย่างตอนกินอาหารเช้า ผู้ดูแลหมวดให้กำลังใจโอลาฟมากจนเขาตัดสินใจเริ่มรับใช้เต็มเวลา และตลอด 40 ปีที่ผ่านมา โอลาฟได้เป็นมิชชันนารีในหลายประเทศ
8. ทำไมเรายังต้องทำดีกับคนอื่นแม้เขาจะไม่เห็นค่าเราในตอนแรก? ขอยกตัวอย่าง
8 เราสามารถแสดงความรักกับคนที่เราไม่รู้จักได้ในหลายวิธีแม้พวกเขาอาจจะไม่เห็นค่าในตอนแรก ตัวอย่างเช่น พี่น้องหญิงคนหนึ่งในสเปนศึกษากับเยสซิก้า วันหนึ่งตอนที่ศึกษาด้วยกัน เยสซิก้าร้องไห้ไม่หยุด ผู้นำการศึกษาถามว่าทำไมถึงร้องไห้ เยสซิก้าเล่าว่าก่อนมาที่สเปนเธอจนมาก วันหนึ่งเธอไม่มีอะไรให้ลูกสาวที่กำลังแบเบาะกิน มีแต่น้ำเปล่าเท่านั้น แล้วเธอก็อธิษฐานขอความช่วยเหลือและพยายามกล่อมลูกหลับ แล้วก็มีพยานฯ ผู้หญิง 2 คนมาประกาศกับเธอและเอาวารสารให้ เยสซิก้าทำไม่ดีกับพยานฯ แถมยังฉีกวารสารทิ้งและพูดว่า “แกจะให้ฉันเอาไอ้นี่ให้ลูกกินเหรอ!” พี่น้องหญิง 2 คนพยายามพูดดี ๆ กับเธอ แต่เธอไม่ฟังเลย วันหลังพี่น้อง 2 คนนั้นเอาตะกร้าใส่อาหารมาวางหน้าบ้านเยสซิก้า นี่เลยเป็นสาเหตุให้เยสซิก้าร้องไห้เพราะรู้ว่าพระเจ้าตอบคำอธิษฐานแล้วแต่เธอไม่สนใจเอง แต่ตอนนี้เยสซิก้าตั้งใจแล้วว่าจะรับใช้พระยะโฮวา เห็นได้ชัดเลยว่านี่เป็นผลดีจากการที่พี่น้อง 2 คนนั้นแสดงน้ำใจและใจกว้าง—ปัญญาจารย์ 11:1, 6
อาสาสมัครทำงานในโครงการต่าง ๆ ขององค์การ
9, 10. (ก) ชาวอิสราเอลมีโอกาสอะไรบ้างที่จะอาสาสมัครทำงาน? (ข) พี่น้องชายในทุกวันนี้สามารถช่วยงานอะไรได้บ้างในประชาคม?
9 ในสมัยคัมภีร์ไบเบิลชาวอิสราเอลมีโอกาสมากมายที่จะอาสาสมัครทำงานต่าง ๆ (อพยพ 36:2; 1 พงศาวดาร 29:5; เนหะมีย์ 11:2) ทุกวันนี้คุณก็ทำได้เหมือนกันโดยอาสาที่จะใช้เวลา ทรัพย์สมบัติ และความสามารถเพื่อช่วยเหลือพี่น้อง เมื่อทำแบบนี้คุณก็จะมีความสุขมากและพระยะโฮวาจะอวยพรคุณ
10 คัมภีร์ไบเบิลกระตุ้นผู้ชายในประชาคมให้ทำงานกับพระยะโฮวาโดยเป็นผู้ช่วยงานรับใช้และผู้ดูแลเพื่อจะรับใช้คนอื่น (1 ทิโมธี 3:1, 8, 9; 1 เปโตร 5:2, 3) คนที่ทำแบบนั้นอยากช่วยคนอื่นทั้งทางด้านการนมัสการและด้านอื่น ๆ (กิจการ 6:1-4) ผู้ดูแลขอให้คุณช่วยทำงานเหล่านี้บ้างไหม ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่ต้อนรับ ช่วยดูแลหนังสือของประชาคม เขตประกาศ งานซ่อมบำรุงหอประชุม และงานอื่น ๆ? พี่น้องที่ทำงานเหล่านี้บอกว่าพวกเขามีความสุขมาก
คนที่อาสาสมัครทำงานในโครงการต่าง ๆ ขององค์การมักจะได้เจอเพื่อนใหม่ (ดูข้อ 11)
11. พี่น้องหญิงคนหนึ่งได้ประโยชน์อะไรบ้างจากโครงการก่อสร้าง?
11 คนที่อาสาสมัครทำงานในโครงการก่อสร้างมักจะได้เพื่อนใหม่ ๆ พี่น้องหญิงคนหนึ่งชื่อมาร์จีทำงานก่อสร้างหอประชุมมา 18 ปีแล้ว เธอจะสนใจพี่น้องหญิงที่อายุน้อยกว่าเป็นพิเศษและช่วยฝึกพวกเขา มาร์จีบอกว่าการอาสาสมัครทำงานในโครงการก่อสร้างเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่จะให้กำลังใจกันและกัน (โรม 1:12) ที่จริง หลายครั้งที่มาร์จีเจอปัญหาในชีวิต เพื่อน ๆ ที่เคยทำงานกับเธอในโครงการก่อสร้างนั่นแหละที่ให้กำลังใจเธอ คุณเคยอาสาสมัครช่วยโครงการก่อสร้างบ้างไหม? คุณก็สามารถช่วยได้ถึงคุณจะไม่ได้เก่งด้านไหนเป็นพิเศษ
12. คุณอาจจะช่วยพี่น้องที่เจอภัยพิบัติได้อย่างไรบ้าง?
12 อีกวิธีหนึ่งที่เราจะทำงานกับพระยะโฮวาได้ก็คือการช่วยพี่น้องที่เจอภัยพิบัติ เช่น เราอาจบริจาคเงินช่วยพวกเขา (ยอห์น 13:34, 35; กิจการ 11:27-30) นอกจากนั้น เราอาจช่วยงานทำความสะอาดหรืองานซ่อมแซมก็ได้ เราลองมาดูตัวอย่างนี้ด้วยกัน กาบรีเอลาเป็นพี่น้องโปแลนด์ บ้านเธอเสียหายหนักหลังน้ำท่วม เธอดีใจมากที่เห็นพี่น้องในประชาคมใกล้เคียงมาช่วย พอพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น เธอบอกว่าเธอไม่ได้สนใจข้าวของหรือทรัพย์สมบัติที่เสียหาย แต่สนใจสิ่งที่เธอได้รับมากกว่า เธอเล่าว่า “ประสบการณ์นี้ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจมากขึ้นว่าการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมคริสเตียนเป็นสิทธิพิเศษที่ไม่มีอะไรเทียบได้เลยและทำให้มีความสุขมากด้วย” หลายคนที่เจอภัยพิบัติแล้วได้รับความช่วยเหลือรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน และคนที่ทำงานกับพระยะโฮวาโดยช่วยพี่น้องเหล่านั้นก็รู้สึกมีความสุขมากจริง ๆ—อ่านกิจการ 20:35; 2 โครินธ์ 9:6, 7
13. งานอาสาสมัครช่วยให้เรารักพระยะโฮวามากขึ้นอย่างไร? ขอยกตัวอย่าง
13 พี่น้องหญิงชื่อสเตฟานีกับผู้ประกาศคนอื่น ๆ ได้ทำงานกับพระเจ้าโดยช่วยพยานฯ หลายคนที่เป็นผู้ลี้ภัยสงครามมาอยู่ที่สหรัฐ สเตฟานีกับเพื่อน ๆ ช่วยหาบ้านและเฟอร์นิเจอร์ให้พี่น้องเหล่านั้น เธอเล่าว่า “พวกเขาได้เจอกับตัวเองว่า พี่น้องทั่วโลกรักกันจริง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พอเห็นพวกเขาดีใจและเห็นค่าสังคมพี่น้อง เราก็มีความสุขค่ะ พวกเขาคิดว่าเราน่ะช่วยพวกเขา แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาช่วยเรามากกว่า ยิ่งเราเห็นความรัก ความเป็นหนึ่งเดียว ความเชื่อ และความไว้วางใจพระยะโฮวา มันก็ยิ่งทำให้เรารักพระองค์ และยิ่งทำให้เราเห็นค่ามากขึ้นสำหรับทุกอย่างที่องค์การนี้ทำเพื่อเรา”
ทำงานรับใช้พระยะโฮวาเพิ่มขึ้น
14, 15. (ก) ผู้พยากรณ์อิสยาห์มีความคิดอย่างไร? (ข) คริสเตียนจะคิดเหมือนอิสยาห์ได้อย่างไร?
14 คุณอยากทำงานกับพระยะโฮวามากขึ้นไหม? คุณเต็มใจย้ายไปในที่ที่ต้องการผู้ประกาศไหม? ที่จริง เราไม่ต้องย้ายไปไกล ๆ เพื่อจะแสดงความมีน้ำใจและใจกว้าง แต่ก็มีพี่น้องบางคนทำได้ พวกเขาคิดเหมือนผู้พยากรณ์อิสยาห์ ตอนที่พระยะโฮวาถามว่า “เราจะส่งใครไปดี? ใครจะไปแทนเรา?” อิสยาห์ตอบว่า “ผมเองครับ ส่งผมไปเถอะ” (อิสยาห์ 6:8) คุณจะช่วยองค์การของพระยะโฮวาได้ไหม? คุณอยากช่วยองค์การของพระองค์ไหม? แล้วคุณจะช่วยอะไรได้บ้าง?
15 พระเยซูพูดถึงงานประกาศและงานสอนคนให้เป็นสาวกว่า “งานเกี่ยวเป็นงานใหญ่จริง ๆ แต่ยังมีคนงานน้อยอยู่ ดังนั้น ให้ช่วยกันขอเจ้าของนาให้ส่งคนไปมากขึ้นเพื่อทำงานเกี่ยวของพระองค์” (มัทธิว 9:37, 38) คุณจะเป็นไพโอเนียร์ในที่ที่ต้องการผู้ประกาศได้ไหม? หรือคุณจะช่วยคนอื่นให้ทำแบบนั้นได้ไหม? พี่น้องหลายคนรู้สึกว่าวิธีที่ดีที่สุดที่แสดงว่าเรารักพระยะโฮวาและรักคนอื่นคือการเป็นไพโอเนียร์ในที่ที่ต้องการผู้ประกาศ คุณคิดถึงวิธีอื่นอีกไหมที่คุณจะทำงานรับใช้ได้มากขึ้น? ถ้าคุณทำมากขึ้นคุณจะมีความสุขมาก
16, 17. มีวิธีอะไรบ้างที่คุณจะรับใช้พระยะโฮวาได้มากขึ้น?
16 คุณอยากเป็นอาสาสมัครชั่วคราวหรือทำงานบางวันในเบเธลและที่โครงการก่อสร้างไหม? องค์การของพระยะโฮวาต้องการคนที่เต็มใจรับใช้พระองค์ไม่ว่าจะไปรับใช้ที่ไหนหรือเป็นงานอะไร ซึ่งบางครั้งเขาอาจได้ทำงานที่ไม่ตรงกับประสบการณ์หรือความชำนาญของเขา พระยะโฮวาเห็นค่าทุกคนที่เต็มใจเสียสละและรับใช้ในที่ที่มีความจำเป็น—สดุดี 110:3
17 คุณอยากถูกฝึกมากขึ้นเพื่อจะทำงานรับใช้พระยะโฮวามากขึ้นไหม? คุณอาจสมัครเข้าโรงเรียนผู้ประกาศราชอาณาจักร (SKE) โรงเรียนนี้ฝึกพี่น้องชายหญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่และมีความเชื่อเข้มแข็งซึ่งกำลังรับใช้เต็มเวลาอยู่แล้วเพื่อที่องค์การของพระยะโฮวาจะใช้พวกเขามากขึ้นได้ คนที่เข้าโรงเรียนนี้ต้องเต็มใจย้ายไปที่ไหนก็ได้ คุณอยากรับใช้พระยะโฮวามากขึ้นในด้านนี้ไหม?—1 โครินธ์ 9:23
18. การทำงานกับพระยะโฮวาทุกวันให้ประโยชน์อะไรบ้าง?
18 เราเป็นคนของพระยะโฮวา เราเลยเป็นคนใจกว้าง ทำสิ่งที่ดี แสดงความกรุณาและความรักต่อคนอื่น เราห่วงใยทุกคนและทำแบบนั้นทุกวัน นี่ทำให้เรายินดี มีสันติสุข และมีความสุข (กาลาเทีย 5:22, 23) ไม่ว่าสภาพการณ์ของคุณจะเป็นอย่างไร คุณจะมีความสุขได้ถ้าคุณเลียนแบบความใจกว้างของพระยะโฮวาและเป็นเพื่อนร่วมงานที่มีค่าของพระองค์—สุภาษิต 3:9, 10