ทางเดียวสู่ชีวิตนิรันดร์
“เราเป็นทางนั้น, เป็นความจริง, และเป็นชีวิต.”—โยฮัน 14:6.
1, 2. พระเยซูทรงเปรียบทางสู่ชีวิตกับอะไร และจุดสำคัญของอุทาหรณ์นี้คืออะไร?
ในคำเทศน์บนภูเขาอันเลื่องชื่อของพระเยซู พระองค์ทรงเปรียบทางสู่ชีวิตนิรันดร์ว่าเป็นถนนที่คนเราต้องผ่านประตูหนึ่งเข้าไป. โปรดสังเกตว่า พระเยซูทรงเน้นว่าทางสู่ชีวิตนี้ไม่ใช่ทางสะดวก โดยตรัสดังนี้: “จงเข้าไปทางประตูคับแคบ. เพราะว่าประตูใหญ่และทางกว้างนำไปถึงความพินาศ. และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก. เพราะว่าประตูคับและทางแคบซึ่งนำไปถึงชีวิต [นิรันดร์] นั้นก็มีผู้พบปะน้อย.”—มัดธาย 7:13, 14.
2 คุณจับจุดสำคัญของอุทาหรณ์นี้ได้ไหม? อุทาหรณ์นี้เผยให้เห็นมิใช่หรือว่ามีถนนหรือทางเพียงสายเดียวที่นำไปสู่ชีวิต และเราต้องระวังอย่างมากเพื่อจะไม่หลุดออกไปจากทางสู่ชีวิตดังกล่าว? ถ้าอย่างนั้น ทางเดียวที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์นี้คืออะไร?
บทบาทของพระเยซูคริสต์
3, 4. (ก) คัมภีร์ไบเบิลแสดงอย่างไรเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของพระเยซูในความรอดของเรา? (ข) พระเจ้าทรงเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อไรว่ามนุษยชาติสามารถมีชีวิตนิรันดร์?
3 เห็นได้ชัดว่า พระเยซูทรงมีบทบาทสำคัญเกี่ยวข้องกับทางนั้น ดังที่อัครสาวกเปโตรประกาศว่า “ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่น [นอกจากพระเยซู] ซึ่งเป็นที่รอดแก่เราทั้งหลายไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า.” (กิจการ 4:12) อัครสาวกเปาโลประกาศคล้าย ๆ กันว่า “ของประทานที่พระเจ้าทรงโปรดให้นั้นคือชีวิตนิรันดรโดยพระคริสต์เยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา.” (โรม 6:23, ล.ม.) พระเยซูเองทรงเปิดเผยว่าทางเดียวสู่ชีวิตนิรันดร์นั้นคือโดยทางพระองค์นี่เอง เพราะพระองค์ทรงประกาศว่า “เราเป็นทางนั้น, เป็นความจริง, และเป็นชีวิต.”—โยฮัน 14:6.
4 ดังนั้น จึงสำคัญที่เราจะยอมรับบทบาทของพระเยซูในการทำให้ชีวิตนิรันดร์เป็นไปได้. ด้วยเหตุนั้น ให้เรามาพิจารณาดูบทบาทของพระองค์ให้ละเอียดกว่านี้. คุณทราบไหมว่า หลังจากอาดามทำบาป พระยะโฮวาพระเจ้าทรงแจ้งให้ทราบเมื่อไรว่ามนุษยชาติสามารถมีชีวิตนิรันดร์? ทันทีหลังจากอาดามล้มพลาดเลยทีเดียว. ตอนนี้ ขอให้เรามาพิจารณาว่าการจัดเตรียมเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ในฐานะผู้ช่วยมนุษยชาติให้รอดมีบอกไว้ล่วงหน้าเป็นครั้งแรกอย่างไร.
พงศ์พันธุ์แห่งคำสัญญา
5. เราจะระบุได้อย่างไรว่างูที่ล่อลวงฮาวาเป็นใคร?
5 พระยะโฮวาพระเจ้าทรงระบุถึงพระผู้ช่วยให้รอดที่ได้ทรงสัญญาไว้นี้โดยใช้ภาษาเป็นนัย. พระองค์ทรงตรัสเช่นนี้เมื่อทรงประกาศคำพิพากษาต่อ “งู” ที่ได้พูดกับฮาวาและได้ล่อลวงเธอไม่ให้เชื่อฟังพระเจ้าด้วยการกินผลไม้ต้องห้าม. (เยเนซิศ 3:1-5) แน่ละ งูนั้นไม่ใช่งูตามตัวอักษร หากแต่เป็นกายวิญญาณที่มีฤทธิ์ซึ่งถูกระบุในคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็น “งูตัวแรกเดิมนั้น ผู้ถูกเรียกว่าพญามารและซาตาน.” (วิวรณ์ 12:9, ล.ม.) ซาตานใช้สัตว์อันต่ำต้อยนี้ให้เป็นกระบอกเสียงของมันเพื่อล่อลวงฮาวา. ดังนั้น ในการพิพากษาซาตาน พระเจ้าตรัสแก่มันว่า “เราจะให้เจ้ากับหญิงและพงศ์พันธุ์ของเจ้ากับพงศ์พันธุ์ของนางเป็นศัตรูกัน. เขา [พงศ์พันธุ์ของหญิง] จะบดขยี้หัวของเจ้าและเจ้าจะบดขยี้ส้นเท้าของเขา.”—เยเนซิศ 3:15, ล.ม.
6, 7. (ก) ใครคือหญิงที่ให้กำเนิด “พงศ์พันธุ์”? (ข) ใครคือพงศ์พันธุ์ที่ทรงสัญญาไว้ และพงศ์พันธุ์นั้นจะทำสิ่งใดให้สำเร็จ?
6 “หญิง” ในที่นี้ที่ซาตานจะตั้งตัวเป็นศัตรูหรือเกลียดชังเป็นใคร? เช่นเดียวกับที่มีการระบุ “งูตัวแรกเดิมนั้น” ในวิวรณ์บท 12 มีการระบุตัวหญิงนี้ที่ซาตานเกลียดชังในบทเดียวกันนี้ด้วย. ขอให้สังเกตว่าในข้อ 1 พรรณนาถึงเธอว่า “คลุมตัวไว้ด้วยดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า และบนศีรษะมีมงกุฎที่ประกอบด้วยดาวสิบสองดวง.” หญิงนี้หมายถึงองค์การทางภาคสวรรค์ของพระเจ้าซึ่งประกอบด้วยเหล่าทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์ และ “บุตร” ที่คลอดจากเธอหมายถึงราชอาณาจักรของพระเจ้าซึ่งมีพระเยซูคริสต์ทรงปกครองในฐานะกษัตริย์.—วิวรณ์ 12:1-5, ล.ม.
7 ถ้าอย่างนั้น “พงศ์พันธุ์” ของหญิงนี้คือใคร ตามที่กล่าวไว้ในเยเนซิศ 3:15 ว่าจะเป็นผู้บดขยี้ “หัว” ของซาตาน ซึ่งก็คือการทำให้ถึงตายนั่นเอง? พงศ์พันธุ์นั้นได้แก่ผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมาจากสวรรค์ให้ประสูติอย่างอัศจรรย์จากหญิงพรหมจารี ซึ่งก็คือมนุษย์เยซูนั่นเอง. (มัดธาย 1:18-23; โยฮัน 6:38) บท 12 ของพระธรรมวิวรณ์เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ปกครองฝ่ายสวรรค์ซึ่งถูกปลุกให้คืนพระชนม์ พระเยซูคริสต์ผู้เป็นพงศ์พันธุ์นี้จะทรงนำหน้าในการปราบซาตาน และดังที่วิวรณ์ 12:10 (ล.ม.) กล่าวไว้ พระองค์จะทรงตั้ง “ราชอาณาจักรของพระเจ้าของเราและอำนาจของพระคริสต์ของพระองค์.”
8. (ก) พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งใหม่อะไรซึ่งเกี่ยวข้องกับพระประสงค์ดั้งเดิมของพระองค์? (ข) ใครบ้างประกอบกันเป็นรัฐบาลใหม่ของพระเจ้า?
8 ด้วยเหตุนั้น ราชอาณาจักรนี้ซึ่งพระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้บริหารจึงเป็นสิ่งใหม่ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระประสงค์ดั้งเดิมสำหรับมนุษย์ที่จะมีชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก. หลังการกบฏของซาตาน พระยะโฮวาทรงลงมือทันทีเพื่อจะขจัดผลไม่ดีทุกอย่างของความชั่วโดยอาศัยรัฐบาลราชอาณาจักรใหม่นี้. เมื่ออยู่บนแผ่นดินโลก พระเยซูทรงเปิดเผยว่าพระองค์จะไม่ทรงปกครองแต่ลำพังพระองค์ในรัฐบาลนี้. (ลูกา 22:28-30) จะมีคนอื่นอีกที่ได้รับเลือกจากท่ามกลางมนุษยชาติ และคนเหล่านี้จะสมทบกับพระองค์ในสวรรค์เพื่อร่วมปกครอง และโดยวิธีนี้ พวกเขาจะประกอบกันเป็นส่วนเสริมแห่งพงศ์พันธุ์ของหญิง. (ฆะลาเตีย 3:16, 29) มีการบอกจำนวนคนที่จะร่วมปกครองกับพระเยซูไว้ในคัมภีร์ไบเบิลว่ามีทั้งสิ้น 144,000 คนซึ่งทั้งหมดมาจากท่ามกลางมนุษยชาติที่ผิดบาปบนแผ่นดินโลกนี้.—วิวรณ์ 14:1-3.
9. (ก) เหตุใดพระเยซูจำต้องมาปรากฏบนแผ่นดินโลกในฐานะมนุษย์? (ข) พระเยซูทรงลบล้างกิจการของพญามารอย่างไร?
9 อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ราชอาณาจักรนั้นจะเริ่มปกครอง ขั้นตอนสำคัญที่ต้องเกิดขึ้นก่อนก็คือส่วนหลักของพงศ์พันธุ์ซึ่งก็คือพระเยซูคริสต์ต้องได้มาปรากฏบนแผ่นดินโลก. ทำไม? เนื่องจากพระองค์ได้รับการแต่งตั้งจากพระยะโฮวาพระเจ้าให้เป็นผู้ “ทำลาย [หรือ ลบล้าง] กิจการของมาร.” (1 โยฮัน 3:8) กิจการอย่างหนึ่งของซาตานได้แก่การชักนำอาดามให้ทำบาป ซึ่งนำการปรับโทษสู่บาปและความตายมาสู่ลูกหลานทั้งสิ้นของอาดาม. (โรม 5:12) พระเยซูทรงลบล้างกิจการดังกล่าวของพญามารโดยประทานชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่. โดยวิธีนี้ พระเยซูทรงจัดให้มีพื้นฐานสำหรับการปลดเปลื้องมนุษยชาติจากการปรับโทษสู่บาปและความตายและเปิดทางสู่ชีวิตนิรันดร์.—มัดธาย 20:28; โรม 3:24; เอเฟโซ 1:7.
สิ่งที่ค่าไถ่ทำให้สำเร็จ
10. พระเยซูกับอาดามมีอะไรที่คล้ายกัน?
10 เนื่องจากชีวิตของพระเยซูถูกโยกย้ายจากสวรรค์สู่ครรภ์ของหญิงคนหนึ่ง พระองค์จึงประสูติเป็นมนุษย์สมบูรณ์ ไร้มลทินของบาปจากอาดาม. พระองค์ทรงอยู่ในสภาพที่พร้อมจะมีชีวิตตลอดไปได้บนแผ่นดินโลกนี้. ในลักษณะเดียวกัน อาดามถูกสร้างเป็นมนุษย์สมบูรณ์ พร้อมด้วยความคาดหวังว่าจะมีชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก. อัครสาวกเปาโลคิดถึงความคล้ายกันระหว่างบุคคลทั้งสอง เมื่อท่านเขียนว่า “มนุษย์คนเดิมคืออาดามเป็นผู้มีชีวิต, แต่อาดามผู้ซึ่งมาภายหลังนั้น [พระเยซูคริสต์] เป็นวิญญาณผู้ประสาทชีวิตให้. มนุษย์เดิมนั้นกำเนิดจากดินและเป็นดิน, มนุษย์ที่สองเสด็จมาจากสวรรค์.”—1 โกรินโธ 15:45, 47.
11. (ก) อาดามและพระเยซูทำให้เกิดผลกระทบเช่นไรต่อมนุษยชาติ? (ข) เราควรมีทัศนะอย่างไรต่อเครื่องบูชาของพระเยซู?
11 มีการเน้นถึงความคล้ายกันระหว่างบุคคลทั้งสองนี้—ผู้ชายที่สมบูรณ์เพียงสองคนเท่านั้นที่เคยมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลก—โดยที่คัมภีร์ไบเบิลประกาศว่าพระเยซู “ประทานพระองค์เองเป็นค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียมกันสำหรับคนทั้งปวง.” (1 ติโมเธียว 2:6, ล.ม.) พระเยซูทรงมีค่าเท่าเทียมกับใคร? ก็เท่าเทียมกับอาดามเมื่อเขายังเป็นมนุษย์สมบูรณ์นะซิ! บาปของอาดามคนแรกยังผลเป็นการปรับโทษครอบครัวมนุษย์ทั้งหมดให้ถึงตาย. เครื่องบูชาของ “อาดามผู้ซึ่งมาภายหลัง” จัดให้มีพื้นฐานสำหรับการช่วยให้รอดจากบาปและความตาย เพื่อเราจะสามารถมีชีวิตตลอดไป. เครื่องบูชาของพระเยซูช่างมีค่าสักเพียงไร! อัครสาวกเปโตรกล่าวว่า “มิใช่ด้วยสิ่งที่เปื่อยเน่าได้ ด้วยเงินหรือทอง ที่ท่านได้รับการช่วยให้พ้น.” แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เปโตรอธิบายว่า “ด้วยโลหิตอันมีค่ามาก เหมือนเลือดของลูกแกะที่ปราศจากพิการและด่างพร้อย คือพระโลหิตของพระคริสต์.”—1 เปโตร 1:18, 19, ล.ม.
12. คัมภีร์ไบเบิลพรรณนาอย่างไรเกี่ยวกับการลบล้างการปรับโทษถึงตายที่เราประสบอยู่?
12 คัมภีร์ไบเบิลพรรณนาไว้อย่างงดงามถึงแนวทางที่การปรับโทษครอบครัวมนุษย์ให้ถึงตายจะถูกลบล้าง โดยกล่าวว่า “การปรับโทษได้มาถึงคนทั้งปวงเพราะความผิดครั้งเดียว [ของอาดาม] ฉันใด, พระกรุณาก็มาถึงคนทั้งปวงทำให้เป็นผู้ชอบธรรมและให้มีชีวิตจำเริญเพราะการชอบธรรม [แนวทางทั้งสิ้นอันซื่อสัตย์มั่นคงของพระเยซู ซึ่งถึงจุดสุดยอดด้วยการวายพระชนม์ของพระองค์] ครั้งเดียวฉันนั้น. ด้วยว่าเหมือนหนึ่งคนเป็นอันมากได้เป็นคนผิดเพราะคน ๆ เดียว [อาดาม] ที่มิได้เชื่อฟัง, เช่นนั้นแหละคนเป็นอันมากได้เป็นคนชอบธรรมเพราะพระองค์ผู้เดียว [พระเยซู] ที่ได้ทรงเชื่อฟังนั้น.”—โรม 5:18, 19.
ความคาดหวังอันรุ่งโรจน์
13. เพราะเหตุใดหลายคนรู้สึกว่าการมีชีวิตตลอดไปไม่น่าปรารถนา?
13 การจัดเตรียมนี้ของพระเจ้าน่าจะทำให้เรามีความสุขจริง ๆ! คุณรู้สึกตื่นเต้นมิใช่หรือที่มีการจัดให้มีพระผู้ช่วยให้รอด? เมื่อมีการถามในการสำรวจความเห็นโดยหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในเมืองใหญ่ของสหรัฐว่า “ความหวังในการมีชีวิตนิรันดร์เป็นเรื่องน่าปรารถนาสำหรับคุณไหม?” เป็นเรื่องผิดคาดที่มีถึง 67.4 เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้ความเห็นตอบว่า “ไม่.” ทำไมคนเหล่านี้บอกว่าเขาไม่ต้องการมีชีวิตตลอดไป? ดูเหมือนว่าเพราะชีวิตในโลกปัจจุบันเต็มไปด้วยปัญหามากมาย. สตรีผู้หนึ่งกล่าวว่า “ดิฉันไม่อยากนึกภาพเลยว่าเมื่อดิฉันอายุ 200 ปีจะเป็นอย่างไร.”
14. เหตุใดการมีชีวิตตลอดไปจะนำมาซึ่งความเพลิดเพลินอย่างครบถ้วนสมบูรณ์?
14 ทว่า คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้กล่าวถึงการมีชีวิตตลอดไปในโลกที่ผู้คนทนทุกข์เนื่องด้วยโรคภัยไข้เจ็บ, ความแก่ชรา, และโศกนาฏกรรมอื่น ๆ. จะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะพระเยซูผู้ปกครองแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าจะขจัดปัญหาทุกอย่างเช่นนั้นที่ซาตานทำให้เกิดขึ้น. ตามในคัมภีร์ไบเบิล ราชอาณาจักรของพระเจ้า “จะบดขยี้” รัฐบาลทั้งหลายที่กดขี่ของโลกนี้ “และทำให้สิ้นไป.” (ดานิเอล 2:44, ล.ม.) เมื่อถึงเวลานั้น พระทัยประสงค์ของพระเจ้าก็จะ “สำเร็จบนแผ่นดินโลกเหมือนที่สำเร็จในสวรรค์” ซึ่งก็จะเป็นการตอบคำอธิษฐานที่พระเยซูทรงสอนเหล่าสาวก. (มัดธาย 6:9, 10, ฉบับแปลทูเดส์ อิงลิช) ในโลกใหม่ของพระเจ้า หลังจากแผ่นดินโลกได้รับการชำระให้สะอาดปราศจากความชั่วทั้งสิ้น ก็จะมีการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากค่าไถ่ของพระเยซู. ทุกคนที่มีคุณสมบัติก็จะได้รับการฟื้นฟูให้มีสุขภาพสมบูรณ์!
15, 16. สภาพการณ์ในโลกใหม่ของพระเจ้าจะเป็นอย่างไร?
15 ข้อความนี้ในคัมภีร์ไบเบิลจะเป็นจริงกับผู้คนที่อาศัยในโลกใหม่ของพระเจ้าที่ว่า “เนื้อของเขาก็จะกลับเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเนื้อของเด็ก, และความหนุ่มแน่นของเขาก็จะกลับคืนมา.” (โยบ 33:25) คำสัญญาของคัมภีร์ไบเบิลอีกข้อหนึ่งจะสำเร็จเป็นจริงด้วยที่ว่า “ตาของคนตาบอดจะเห็นได้, และหูของคนหูหนวกจะยินได้. แล้วคนง่อยจะเต้นได้ดุจดังอีเก้ง, และลิ้นของคนใบ้จะร้องเพลง.”—ยะซายา 35:5, 6.
16 คิดดูซิ. ไม่ว่าเราจะอายุ 80, 800, หรือมากกว่านั้น ร่างกายเราก็จะยังคงมีสุขภาพดีเยี่ยม. จะเป็นดังที่คัมภีร์ไบเบิลสัญญาไว้ว่า “จะไม่มีใครที่อาศัยอยู่ที่นั่นพูดว่า, ‘ข้าพเจ้าป่วยอยู่.’” ในเวลานั้น คำสัญญานี้จะสำเร็จเป็นจริงที่ว่า “พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีต่อไป การคร่ำครวญและร้องไห้และการเจ็บปวดอย่างหนึ่งอย่างใดจะไม่มีอีกเลย เพราะเหตุการณ์ที่ได้มีอยู่แต่ดั้งเดิมนั้นได้ล่วงพ้นไปแล้ว.”—ยะซายา 33:24; วิวรณ์ 21:3, 4.
17. เราอาจคาดหมายเช่นไรเกี่ยวกับสิ่งที่ประชาราษฎร์ในโลกใหม่ของพระเจ้าจะทำให้สำเร็จ?
17 ในโลกใหม่ เราจะสามารถใช้สมองอันยอดเยี่ยมของเราในแนวทางที่พระผู้สร้างของเราทรงประสงค์เมื่อพระองค์ทรงออกแบบสมองให้มีความสามารถในการเรียนรู้ไม่จำกัด. ขอให้นึกภาพสิ่งต่าง ๆ อันน่าพิศวงที่เราอาจทำให้สำเร็จได้ก็แล้วกัน! แม้แต่มนุษย์ไม่สมบูรณ์ก็ยังได้ผลิตสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เห็นได้รอบตัวเราจากคลังธาตุในโลก—เป็นต้นว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่, ไมโครโฟน, นาฬิกา, เพจเจอร์, คอมพิวเตอร์, เครื่องบิน สารพัดตัวอย่างที่จะยกได้. ไม่มีสักสิ่งเดียวที่ทำจากวัสดุซึ่งนำมาจากสถานที่ห่างไกลในเอกภพ. เมื่อคิดถึงชีวิตไม่รู้สิ้นสุดที่อยู่ต่อหน้าเรา โอกาสที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาในอุทยานแห่งแผ่นดินโลกที่กำลังจะมาถึงนั้นจะมีอย่างไม่จำกัด!—ยะซายา 65:21-25.
18. เหตุใดชีวิตจะไม่น่าเบื่อในโลกใหม่ของพระเจ้า?
18 นอกจากนี้ ชีวิตจะไม่น่าเบื่อด้วย. แม้แต่ในเวลานี้เราก็ยังคิดถึงอาหารมื้อต่อไป แม้ว่าเราอาจได้รับประทานมาหลายหมื่นมื้อแล้ว? ในสภาพที่เป็นมนุษย์สมบูรณ์ เราจะพอใจยินดียิ่งกว่าในเวลานี้เสียอีกในผลผลิตอันโอชะของแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน. (ยะซายา 25:6) และเราจะเพลิดเพลินตลอดไปในการดูแลชีวิตสัตว์โลกซึ่งมีอยู่มากมายหลายหลาก และชื่นชมทัศนียภาพอันงามจับตาของอาทิตย์อัสดง, มวลหมู่ภูเขา, แม่น้ำ, และหุบเขาทั้งหลาย. แท้จริง ชีวิตจะไม่น่าเบื่อเลยในโลกใหม่ของพระเจ้า!—บทเพลงสรรเสริญ 145:16.
การบรรลุข้อเรียกร้องของพระเจ้า
19. เหตุใดจึงมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าการได้รับของประทานแห่งชีวิตจากพระเจ้ามีข้อเรียกร้อง?
19 คุณจะคาดหมายไหมว่าจะได้รับของประทานอันยิ่งใหญ่จาก พระเจ้า คือชีวิต นิรันดร์ในอุทยานโดยไม่ต้องทำอะไรเลย? ไม่สมเหตุผลหรอกหรือที่พระเจ้าทรงเรียกร้องอะไรบางอย่างจากเรา? สมเหตุผลแน่นอน. หากจะเปรียบก็เหมือนกับว่าพระเจ้าไม่ได้เพียงแต่โยนของขวัญให้เรา. พระองค์ทรงยื่นของขวัญให้เรา แต่เราก็ต้องเอื้อมมือออกไปและรับเอาไว้. ถูกแล้ว ต้องมีความบากบั่นพยายามด้วย. คุณอาจถามอย่างเดียวกับที่ขุนนางหนุ่มที่ร่ำรวยคนหนึ่งเคยถามพระเยซูว่า “ข้าพเจ้าจะต้องทำดีประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?” หรือคุณอาจตั้งคำถามอย่างที่นายคุกชาวฟิลิปปอยถามอัครสาวกเปาโลว่า “ข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรจึงจะรอดได้?”—มัดธาย 19:16; กิจการ 16:30.
20. ข้อเรียกร้องที่สำคัญอย่างหนึ่งเพื่อจะมีชีวิตนิรันดร์คืออะไร?
20 ในคืนก่อนการวายพระชนม์ของพระเยซู พระองค์ทรงแสดงถึงข้อเรียกร้องพื้นฐานอย่างหนึ่งเมื่อพระองค์ทรงอธิษฐานถึงพระบิดาฝ่ายสวรรค์ของพระองค์ดังนี้: “นี่แหละหมายถึงชีวิตนิรันดร์ คือการที่เขารับเอาความรู้ต่อ ๆ ไปเกี่ยวกับพระองค์ ผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และเกี่ยวกับผู้ที่พระองค์ทรงใช้มา คือพระเยซูคริสต์.” (โยฮัน 17:3, ล.ม.) เป็นข้อเรียกร้องที่สมเหตุผลมิใช่หรือที่เราจะรับเอาความรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาผู้ทรงทำให้ชีวิตนิรันดร์เป็นไปได้ และความรู้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ผู้ทรงวายพระชนม์เพื่อเรา? ทว่า จำเป็นต้องทำมากกว่าเพียงแค่รับเอาความรู้ดังกล่าว.
21. เราจะแสดงอย่างไรว่าเรากำลังบรรลุข้อเรียกร้องในการสำแดงความเชื่อ?
21 คัมภีร์ไบเบิลกล่าวด้วยว่า “ผู้ที่สำแดงความเชื่อในพระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์.” แล้วก็กล่าวต่อไปว่า “ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระบุตรจะไม่เห็นชีวิต แต่พระพิโรธของพระเจ้าคงอยู่กับผู้นั้นต่อไป.” (โยฮัน 3:36, ล.ม.) คุณสามารถแสดงว่าคุณสำแดงความเชื่อในพระบุตรโดยทำการเปลี่ยนแปลงในชีวิตและนำตัวเข้าประสานกับพระทัยประสงค์ของพระเจ้า. คุณต้องปฏิเสธแนวทางใดก็ตามที่ผิดซึ่งคุณอาจเคยติดตาม และลงมือทำสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย. คุณจำต้องทำอย่างที่อัครสาวกเปโตรกล่าวกำชับว่า “เพราะฉะนั้น จงกลับใจ และหันกลับเพื่อบาปของท่านทั้งหลายจะถูกปลดเปลื้อง เพื่อวาระแห่งความสดชื่นจะมาจากพระพักตร์ของพระยะโฮวา.”—กิจการ 3:19, ล.ม.
22. การกระทำอะไรบ้างที่รวมอยู่ด้วยในการดำเนินตามรอยพระบาทของพระเยซู?
22 ขอเราอย่าลืมว่าเฉพาะแต่โดยการสำแดงความเชื่อในพระเยซูเท่านั้น เราจึงจะสามารถมีชีวิตนิรันดร์. (โยฮัน 6:40; 14:6) เราแสดงให้เห็นว่าเราสำแดงความเชื่อในพระเยซูโดย “ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์อย่างใกล้ชิด.” (1 เปโตร 2:21, ล.ม.) การทำดังกล่าวหมายรวมถึงอะไรด้วย? เอาละ ในคำอธิษฐานถึงพระเจ้า พระเยซูทรงอุทานออกมาว่า “ข้าแต่พระเจ้า, ข้าพเจ้ามาเพื่อจะให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ.” (เฮ็บราย 10:7) เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะเลียนแบบพระเยซูในการทำให้ประสานกับพระทัยประสงค์ของพระเจ้าและอุทิศชีวิตของคุณแด่พระยะโฮวา. หลังจากนั้น คุณต้องแสดงสัญลักษณ์แห่งการอุทิศตัวนั้นโดยรับบัพติสมาในน้ำ; พระเยซูเองทรงเสนอพระองค์เพื่อรับบัพติสมา. (ลูกา 3:21, 22) การทำตามขั้นตอนดังกล่าวเป็นเรื่องสมเหตุผลอย่างสมบูรณ์. อัครสาวกเปาโลชี้ว่า “ความรักของพระคริสต์ผลักดันเราอยู่.” (2 โกรินโธ 5:14, 15, ล.ม.) โดยวิธีใด? เอาละ ความรักกระตุ้นพระเยซูให้ประทานชีวิตของพระองค์เพื่อประโยชน์ของเรา. นั่นน่าจะผลักดันเราให้ตอบสนองโดยสำแดงความเชื่อในพระองค์มิใช่หรือ? ใช่แล้ว ความรักของพระองค์น่าจะผลักดันเราให้ติดตามแบบอย่างอันเปี่ยมด้วยความรักของพระองค์ในการประทานพระองค์เองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น. พระคริสต์ทรงมีชีวิตเพื่อทำตามพระทัยของพระเจ้า; เราก็ต้องทำอย่างเดียวกัน ไม่ได้มีชีวิตเพื่อตัวเราเองอีกต่อไป.
23. (ก) คนที่รับเอาชีวิตต้องถูกเพิ่มเข้ากับอะไร? (ข) มีข้อเรียกร้องอะไรสำหรับคนที่อยู่ในประชาคมคริสเตียน?
23 นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องนี้. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าเมื่อ 3,000 คนรับบัพติสมาในวันเพนเตคอสเตปีสากลศักราช 33 พวกเขา “เพิ่มเข้ามา.” เพิ่มเข้ากับอะไร? ลูกาชี้แจงว่า “เขาทั้งหลายได้หมกมุ่นต่อไปในคำสอนของพวกอัครสาวกและในการแบ่งปันซึ่งกันและกัน.” (กิจการ 2:41, 42, ล.ม.) ใช่แล้ว พวกเขาประชุมร่วมกันเพื่อศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและคบหาสมาคมกัน และโดยวิธีนี้จึงถูกเพิ่มเข้ากับหรือกลายเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมคริสเตียน. คริสเตียนในยุคแรกร่วมประชุมกันเป็นประจำเพื่อรับการสั่งสอนฝ่ายวิญญาณ. (เฮ็บราย 10:25) พยานพระยะโฮวาในทุกวันนี้ก็ทำแบบเดียวกัน และพวกเขาอยากสนับสนุนคุณให้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวกับพวกเขา.
24. “ชีวิตแท้” คืออะไร และชีวิตดังกล่าวจะเป็นจริงอย่างไรและเมื่อไร?
24 ในเวลานี้ มีหลายล้านคนกำลังดำเนินตามทางแคบซึ่งนำไปสู่ชีวิต. เพื่อจะรักษาตัวให้อยู่ในทางแคบนี้ต้องพยายามอย่างแท้จริง! (มัดธาย 7:13, 14) เปาโลบ่งชี้เรื่องนี้ไว้ในคำวิงวอนอย่างอบอุ่นจากหัวใจดังนี้: “จงเข้าในการสู้อย่างดีเพื่อความเชื่อ ยึดมั่นอยู่กับชีวิตนิรันดร์ตามที่ได้ทรงเลือกท่านไว้.” การสู้ดังกล่าวนั้นจำเป็นเพื่อจะ “ยึดเอาชีวิตแท้ให้มั่น.” (1 ติโมเธียว 6:12, 19, ล.ม.) ชีวิตดังกล่าวไม่ใช่ชีวิตแบบในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ยาก ซึ่งเกิดขึ้นกับเราเนื่องจากบาปของอาดาม. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ชีวิตแท้เป็นชีวิตในโลกใหม่ของพระเจ้า ซึ่งจะเป็นจริงในอีกไม่ช้าเมื่อมีการใช้เครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์เพื่อผลประโยชน์ของทุกคนที่รักพระยะโฮวาพระเจ้าและพระบุตรของพระองค์ หลังจากที่ได้มีการขจัดระบบนี้แล้ว. ขอให้เราทุกคนเลือกเอาชีวิต—“ชีวิตแท้”—ชีวิตนิรันดร์ในโลกใหม่อันรุ่งโรจน์ของพระเจ้า.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ ในเยเนซิศ 3:15 งู, หญิง, และพงศ์พันธุ์หมายถึงใคร?
▫ พระเยซูทรงเท่าเทียมกับอาดามในทางใด และค่าไถ่ทำให้อะไรเป็นไปได้?
▫ คุณสามารถคอยท่าอะไรซึ่งจะทำให้โลกใหม่ของพระเจ้าน่าเพลิดเพลินอย่างยิ่งสำหรับคุณ?
▫ เราจำต้องบรรลุข้อเรียกร้องอะไรเพื่อมีชีวิตในโลกใหม่ของพระเจ้า?
[รูปภาพหน้า 10]
พระเยซูทรงเป็นทางเดียวสู่ชีวิตไม่รู้สิ้นสุด ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
[รูปภาพหน้า 11]
เมื่อถึงเวลากำหนดของพระเจ้า คนแก่จะกลับกระชุ่มกระชวยอย่างคนหนุ่ม