บทความศึกษา 28
เพลง 49 ทำให้พระยะโฮวาดีใจ
คุณมองออกไหมว่าอะไรเป็นความจริง?
“ให้ยืนหยัดไว้ เอาความจริงคาดเอวเป็นเข็มขัด”—อฟ. 6:14
จุดสำคัญ
ฝึกตัวเองเพื่อจะแยกความแตกต่างระหว่างความจริงที่เราได้เรียนจากพระยะโฮวากับเรื่องโกหกที่มาจากซาตานและคนที่ต่อต้านเรา
1. คุณรู้สึกยังไงกับความจริง?
คนของพระยะโฮวารักความจริงที่ได้เรียนจากคัมภีร์ไบเบิล และความเชื่อของพวกเราก็มีพื้นฐานมาจากคัมภีร์ไบเบิล (รม. 10:17) เรามั่นใจว่าพระยะโฮวาได้ตั้งประชาคมคริสเตียน “เป็นเหมือนเสาหลักและฐานรากของความจริง” (1 ทธ. 3:15) และเรายังเต็มใจเชื่อฟัง “คนที่นำหน้า” ในหมู่พวกเราด้วย พวกเขาอธิบายความจริงจากคัมภีร์ไบเบิลอย่างถูกต้องและให้คำแนะนำที่สอดคล้องกับความประสงค์ของพระเจ้า—ฮบ. 13:17
2. อย่างที่บอกไว้ในยากอบ 5:19 อาจเกิดอะไรขึ้นได้หลังจากที่เราเรียนความจริง?
2 แม้เราจะยอมรับความจริงจากคัมภีร์ไบเบิลและยอมรับการชี้นำที่มาจากองค์การแล้ว แต่เราก็อาจถูกชักนำให้หลงไปจากความจริงได้ (อ่านยากอบ 5:19) สิ่งที่ซาตานต้องการมากก็คือ มันอยากให้เราเลิกเชื่อคัมภีร์ไบเบิลหรือคำแนะนำที่มาจากองค์การของพระเจ้า—อฟ. 4:14
3. ทำไมเราต้องยึดมั่นกับความจริง? (เอเฟซัส 6:13, 14)
3 อ่านเอเฟซัส 6:13, 14 อีกไม่นาน ซาตานจะใช้การโฆษณาชวนเชื่อที่มีพลังเพื่อทำให้ชาติต่าง ๆ พากันต่อต้านพระยะโฮวา (วว. 16:13, 14) และซาตานก็จะยิ่งพยายามชักนำคนของพระยะโฮวาให้หลงไปด้วย (วว. 12:9) ดังนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะฝึกตัวเองตั้งแต่ตอนนี้เพื่อจะมองให้ออกว่าอะไรคือเรื่องจริงอะไรคือเรื่องโกหกและเชื่อฟังความจริงในคัมภีร์ไบเบิลเสมอ (รม. 6:17; 1 ปต. 1:22) เราจะรอดหรือไม่รอดในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับการทำแบบนี้
4. เราจะคุยเรื่องอะไรในบทความนี้?
4 ในบทความนี้เราจะมาดูคุณลักษณะ 2 อย่างที่ช่วยเราให้มองออกว่าอะไรคือความจริงที่มาจากคัมภีร์ไบเบิลและยอมรับคำแนะนำที่มาจากองค์การของพระยะโฮวา จากนั้นเราจะมาดูคำแนะนำ 3 อย่างที่ช่วยเราให้ยึดมั่นกับความจริงต่อ ๆ ไป
คุณลักษณะที่เราต้องมีเพื่อจะมองออกว่าอะไรคือความจริง
5. ความเกรงกลัวพระยะโฮวาช่วยเรายังไงให้มองออกว่าอะไรคือความจริง?
5 ความเกรงกลัวพระยะโฮวา เมื่อเราเกรงกลัวพระยะโฮวา เราจะรักพระองค์มากจนไม่อยากทำให้พระองค์เสียใจ เราเต็มใจเรียนรู้ที่จะมองให้ออกว่าอะไรถูกอะไรผิด และมองให้ออกว่าอะไรคือเรื่องจริงอะไรคือเรื่องโกหก เพราะเรารู้ว่านี่จะทำให้พระยะโฮวาพอใจ (สภษ. 2:3-6; ฮบ. 5:14) อย่าให้เรากลัวคนมากกว่ากลัวพระยะโฮวา เพราะถ้าเรากลัวคน เราก็จะยอมทำสิ่งที่คนชอบซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่ทำให้พระยะโฮวาไม่พอใจ
6. การกลัวคนทำให้หัวหน้าชาวอิสราเอล 10 คนบิดเบือนความจริงยังไง?
6 ถ้าเรากลัวคนมากกว่ากลัวพระยะโฮวา เราอาจเริ่มเชื่อสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ให้เรามาดูตัวอย่างของหัวหน้าชาวอิสราเอล 12 คนที่ถูกส่งไปสอดแนมแผ่นดินที่พระยะโฮวาสัญญา สำหรับคนสอดแนม 10 คน ความกลัวชาวคานาอันมันมากกว่าความรักที่มีต่อพระยะโฮวา พวกเขาเลยบอกชาวอิสราเอลว่า “เราสู้คนพวกนั้นไม่ได้หรอก พวกเขาแข็งแรงกว่าเรา” (กดว. 13:27-31) ก็จริง จากมุมมองของมนุษย์ ชาวคานาอันแข็งแกร่งมากกว่าชาวอิสราเอล แต่การบอกว่าชาวอิสราเอลสู้ชาวคานาอันไม่ได้ มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้คิดถึงพระยะโฮวาเลย พวกเขาน่าจะคิดถึงความต้องการของพระยะโฮวาและคิดว่าพระองค์เคยช่วยพวกเขามาแล้วยังไงบ้าง ถ้าทำอย่างนั้น พวกเขาก็จะมั่นใจว่าต่อให้พวกคานาอันแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้กับพระยะโฮวาได้เลย แต่โยชูวากับคาเลบไม่เหมือนกับคนสอดแนม 10 คนนั้น ทั้งสองคนอยากทำสิ่งที่พระยะโฮวาพอใจ พวกเขาเลยบอกกับชาวอิสราเอลว่า “ถ้าพระยะโฮวาพอใจพวกเรา พระองค์จะพาเราเข้าไปในแผ่นดินนั้น และยกแผ่นดิน . . . นี้ให้เราแน่นอน”—กดว. 14:6-9
7. เราจะเกรงกลัวพระยะโฮวามากขึ้นได้ยังไง? (ดูภาพด้วย)
7 เพื่อเราจะมีความเกรงกลัวพระยะโฮวามากขึ้น ทุกครั้งที่ตัดสินใจเราต้องคิดเสมอว่าเราจะทำยังไงเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ (สด. 16:8) เมื่อคุณอ่านเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล ลองถามตัวเองว่า ‘ถ้าฉันอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ฉันจะตัดสินใจยังไง?’ ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพว่าคุณกำลังฟังหัวหน้าชาวอิสราเอล 10 คนรายงานแต่เรื่องที่ไม่ดี คุณจะเชื่อพวกเขาและกลัวตามพวกเขาไหม? หรือคุณรักพระยะโฮวามากกว่าและตั้งใจจะทำให้พระองค์พอใจ? ชาวอิสราเอลรุ่นนั้นมองไม่ออกว่าสิ่งที่โยชูวาและคาเลบพูดเป็นความจริง นี่เลยทำให้พวกเขาสูญเสียโอกาสที่จะได้เข้าในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา—กดว. 14:10, 22, 23
คุณจะเชื่อใคร? (ดูข้อ 7)
8. เราต้องพยายามมีคุณลักษณะอะไรให้ได้? และทำไม?
8 ความถ่อม พระยะโฮวาเปิดเผยความจริงให้กับคนถ่อม (มธ. 11:25) เราได้ถ่อมตัวยอมรับความช่วยเหลือเพื่อจะเรียนรู้ความจริงมาแล้ว (กจ. 8:30, 31) ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องระวังที่จะไม่กลายเป็นคนหยิ่ง การเป็นคนหยิ่งอาจทำให้เราเริ่มคิดว่าความคิดของตัวเองสำคัญพอ ๆ กับหลักการในคัมภีร์ไบเบิลและคำแนะนำที่มาจากองค์การของพระยะโฮวา
9. เราจะเป็นคนถ่อมอยู่เสมอได้ยังไง?
9 เพื่อเราจะเป็นคนถ่อมอยู่เสมอ ต้องจำไว้ว่าตัวเราเองต่ำต้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับพระยะโฮวา (สด. 8:3, 4) เราสามารถอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยให้เราเป็นคนถ่อมและยอมรับการสอนจากพระองค์ ถ้าเราถ่อมเราจะถือว่าความคิดของพระยะโฮวาสำคัญกว่าความคิดของเรา ซึ่งคัมภีร์ไบเบิลและองค์การของพระองค์ช่วยให้เรารู้ว่าพระองค์คิดยังไง ดังนั้น ตอนที่คุณอ่านคัมภีร์ไบเบิล ลองหาจุดที่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวารักคนถ่อมและเกลียดคนหยิ่งหรือทะนงตัว นอกจากนั้น ขอให้คุณพยายามเป็นพิเศษที่จะถ่อมตัวอยู่เสมอตอนได้รับหน้าที่มอบหมายที่ทำให้คุณมีอำนาจมากขึ้นหรือทำหน้าที่โดดเด่นในองค์การ
เราจะยึดมั่นกับความจริงได้ยังไง
10. พระยะโฮวาใช้ใครเพื่อชี้นำคนของพระองค์?
10 มั่นใจในการชี้นำจากองค์การของพระยะโฮวาเสมอ ในสมัยชาติอิสราเอลโบราณ พระยะโฮวาใช้โมเสสแล้วก็ใช้โยชูวาให้บอกคำสั่งของพระองค์กับชาวอิสราเอล (ยชว. 1:16, 17) เมื่อชาวอิสราเอลมองว่าสองคนนี้เป็นตัวแทนของพระองค์ พวกเขาก็ได้รับการอวยพร หลายร้อยปีหลังจากนั้นเมื่อมีการเริ่มก่อตั้งประชาคมคริสเตียน พระยะโฮวาใช้อัครสาวก 12 คนเพื่อชี้นำประชาคมต่าง ๆ (กจ. 8:14, 15) และต่อมาพระองค์ก็ใช้ผู้ดูแลบางคนในกรุงเยรูซาเล็มด้วย เมื่อพี่น้องทำตามการชี้นำของพวกเขา “ประชาคมต่าง ๆ จึงมีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นและมีคนเข้ามาเชื่อเพิ่มขึ้นทุกวัน” (กจ. 16:4, 5) ในปัจจุบัน พวกเราเองก็ได้รับการอวยพรเมื่อเราทำตามการชี้นำขององค์การของพระยะโฮวา แล้วพระองค์จะรู้สึกยังไงถ้าเราไม่ยอมรับคนที่พระองค์แต่งตั้งให้นำหน้า? เราจะได้คำตอบสำหรับคำถามนี้เมื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอลตอนที่พวกเขากำลังจะเข้าแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา
11. เกิดอะไรกับชาวอิสราเอลที่ไม่ให้ความนับถือตำแหน่งที่พระยะโฮวาให้กับโมเสส? (ดูภาพด้วย)
11 ตอนที่ชาวอิสราเอลกำลังเดินทางไปแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา มีกลุ่มคนที่เป็นหัวหน้าตระกูลชาวอิสราเอลที่มีชื่อเสียงมาท้าทายอำนาจของโมเสสและไม่ให้ความนับถือกับตำแหน่งที่พระเจ้าให้กับโมเสส พวกเขาบอกว่า “ชาวอิสราเอลทุกคน [ไม่ใช่แค่โมเสสคนเดียว] เป็นคนบริสุทธิ์ และพระยะโฮวาก็อยู่กับพวกเขา” (กดว. 16:1-3) ก็จริงสำหรับพระยะโฮวาแล้ว “ชาวอิสราเอลทุกคน” เป็นคนบริสุทธิ์ แต่พระองค์ก็เลือกโมเสสให้เป็นผู้นำประชาชนของพระองค์ (กดว. 16:28) การที่พวกเขาตำหนิโมเสสก็เท่ากับว่ากำลังตำหนิพระยะโฮวา พวกเขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการ แต่สนใจแค่สิ่งที่ตัวเองต้องการ นั่นก็คืออยากได้อำนาจและชื่อเสียงมากขึ้น พระยะโฮวาก็เลยประหารพวกหัวหน้าที่กบฏเหล่านี้รวมถึงคนนับหมื่นที่เข้าข้างพวกเขา (กดว. 16:30-35, 41, 49) ทุกวันนี้ เรารู้ว่าพระยะโฮวาไม่พอใจคนที่ไม่ยอมรับการชี้นำที่มาจากองค์การของพระองค์
คุณจะสนับสนุนใคร? (ดูข้อ 11)
12. ทำไมเรามั่นใจองค์การของพระยะโฮวาได้เสมอ?
12 เรามั่นใจในองค์การของพระยะโฮวาได้เสมอ เมื่อทาสที่ซื่อสัตย์และสุขุมเห็นว่าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับความจริงบางอย่างในคัมภีร์ไบเบิลหรือวิธีที่เรารับใช้พระยะโฮวา พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะปรับเปลี่ยน (สภษ. 4:18) พวกเขาทำแบบนั้นก็เพราะการทำให้พระยะโฮวาพอใจคือสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากนั้น พวกเขาพยายามเต็มที่ที่จะตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ โดยอาศัยคัมภีร์ไบเบิลซึ่งเป็นมาตรฐานที่ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาทุกคนต้องทำตาม
13. “มาตรฐานของคำสอนที่เป็นประโยชน์” หมายถึงอะไร? และเราต้องทำอะไรกับมาตรฐานนั้น?
13 “ยึดมั่นกับมาตรฐานของคำสอนที่เป็นประโยชน์” (2 ทธ. 1:13) “มาตรฐานของคำสอนที่เป็นประโยชน์” หมายถึงคำสอนของคริสเตียนที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิล (ยน. 17:17) คำสอนเหล่านั้นคือพื้นฐานความเชื่อของพวกเรา องค์การของพระยะโฮวาสอนเราให้ยึดมั่นกับมาตรฐานเหล่านี้ ตราบใดที่เราทำแบบนั้น พระองค์ก็จะอวยพรเรา
14. คริสเตียนบางคนไม่ได้ยึดมั่นกับ “มาตรฐานของคำสอนที่เป็นประโยชน์” ยังไง?
14 จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่ยึดมั่นกับ “มาตรฐานของคำสอนที่เป็นประโยชน์”? ให้เรามาดูตัวอย่างของคริสเตียนในยุคแรกด้วยกัน ช่วงหนึ่งมีข่าวลือว่าวันของพระยะโฮวามาถึงแล้ว อาจมีการแพร่ข่าวลือนี้ทางจดหมายที่ทำให้เข้าใจว่ามาจากอัครสาวกเปาโล คริสเตียนบางคนในเมืองเธสะโลนิกาไม่ได้ตรวจสอบให้ดีซะก่อน พวกเขาเลยเชื่อข่าวลือนั้นและถึงกับแพร่ข่าวลือนั้นต่อไปด้วย คริสเตียนเหล่านี้จะไม่ถูกหลอกถ้าพวกเขาจำสิ่งที่เปาโลสอนไว้ตอนที่เปาโลยังอยู่กับพวกเขา (2 ธส. 2:1-5) เปาโลเลยเขียนจดหมายแนะนำพี่น้องเหล่านั้นว่าอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน และเพื่อจะช่วยพี่น้องเหล่านี้ให้ไม่ถูกหลอกอีกในอนาคต เปาโลก็เลยลงท้ายจดหมายฉบับที่ 2 ของเขาที่เขียนถึงพี่น้องในเมืองเธสะโลนิกาว่า “ผมเปาโลเขียนคำทักทายส่วนนี้ด้วยตัวผมเอง ผมเขียนแบบนี้เพื่อเป็นการรับรองจดหมายทุกฉบับ”—2 ธส. 3:17
15. เราจะปกป้องตัวเองยังไงจากเรื่องโกหกที่ดูเหมือนเป็นเรื่องจริง? ขอยกตัวอย่าง (ดูภาพด้วย)
15 เราได้เรียนอะไรจากจดหมายที่เปาโลเขียนถึงพี่น้องในเมืองเธสะโลนิกา? เมื่อเราได้ยินอะไรบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เราเรียนจากคัมภีร์ไบเบิล หรือเมื่อเราได้ยินข่าวลือที่น่าตกใจบางอย่าง เราต้องใช้วิจารณญาณเพื่อจะมองให้ออกว่าอะไรคือความจริง ในสมัยสหภาพโซเวียต พวกผู้ต่อต้านได้ส่งจดหมายที่ดูเหมือนว่ามาจากสำนักงานใหญ่มาถึงพี่น้องที่นั่น จดหมายนั้นสนับสนุนให้พี่น้องบางคนแยกออกมาตั้งองค์การของตัวเอง จดหมายนั้นดูเหมือนมาจากสำนักงานใหญ่จริง ๆ แต่พี่น้องที่ซื่อสัตย์ก็ไม่หลงกลเพราะพวกเขารู้ว่าคำแนะนำในนั้นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาได้รับการสอนมา ทุกวันนี้ ศัตรูของเราที่พยายามบิดเบือนความจริงก็อาจใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อทำให้เราสับสนและแตกแยกกัน แทนที่เราจะ “หวั่นไหวง่ายจนขาดเหตุผล” ให้เราปกป้องตัวเองโดยการคิดอย่างรอบคอบว่าสิ่งที่เราได้อ่านหรือได้ยินสอดคล้องกันไหมกับความจริงที่เราได้เรียนรู้มา—2 ธส. 2:2; 1 ยน. 4:1
อย่าถูกหลอกด้วยเรื่องโกหกที่ดูเหมือนเป็นเรื่องจริง (ดูข้อ 15)a
16. อย่างที่บอกไว้ในโรม 16:17, 18 เราควรทำยังไงถ้ามีบางคนแพร่เรื่องที่ขัดกับความจริง?
16 เป็นหนึ่งเดียวกันเสมอกับคนที่ภักดีต่อพระยะโฮวา พระยะโฮวาอยากให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันในการนมัสการแท้ เราจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้เสมอถ้าเรายึดมั่นกับความจริง ใครก็ตามที่แพร่เรื่องที่ขัดกับความจริงก็ทำให้เกิดความแตกแยกในประชาคม ดังนั้น พระยะโฮวาเลยเตือนเราว่า “อย่าคบกับพวกเขา” ไม่อย่างนั้นตัวเราเองอาจทิ้งความจริงไปด้วย—อ่านโรม 16:17, 18
17. เมื่อเรามองออกว่าอะไรคือความจริงและยึดมั่นกับความจริงนั้น เราจะได้ประโยชน์อะไร?
17 เมื่อเรามองออกว่าอะไรคือความจริงและยึดมั่นกับความจริงไว้เสมอ เราจะสนิทกับพระยะโฮวาและมีความเชื่อเข้มแข็ง (อฟ. 4:15, 16) เราจะไม่ถูกหลอกด้วยคำสอนเท็จและโฆษณาชวนเชื่อของซาตาน และเราจะได้รับการปกป้องจากพระยะโฮวาในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ ดังนั้น ให้พวกคุณยึดมั่นกับความจริงไว้เสมอ “แล้วพระเจ้าที่มีสันติสุขจะอยู่กับพวกคุณ”—ฟป. 4:8, 9
เพลง 118 “ขอช่วยให้พวกเรามีความเชื่อมากขึ้น”
a คำอธิบายภาพ ภาพสมมุติของเหตุการณ์เมื่อหลายสิบปีก่อน พี่น้องในอดีตสหภาพโซเวียตได้รับจดหมายที่ดูเหมือนมาจากพี่น้องในสำนักงานใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วจดหมายนี้มาจากคนที่เป็นศัตรูกับเรา ส่วนในทุกวันนี้ ศัตรูอาจแพร่เรื่องโกหกเกี่ยวกับองค์การของพระยะโฮวาทางอินเทอร์เน็ต