แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
© 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
วันที่ 7-13 กรกฎาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สุภาษิต 21
หลักการที่จะช่วยให้ชีวิตคู่มีความสุข
ห06 15/9 น. 28 ว. 13
“จงชื่นใจยินดีด้วยกันกับภรรยาซึ่งอยู่ด้วยกันมาแต่หนุ่มสาว”
13 จะว่าอย่างไรหากชีวิตสมรสตกอยู่ในความตึงเครียดเพราะวิธีที่คู่สมรสปฏิบัติต่อกัน? การหาทางแก้ไขต้องอาศัยความพยายาม. ตัวอย่างเช่น อาจเป็นได้ว่ารูปแบบของคำพูดที่ไม่กรุณาค่อย ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตสมรสของคุณและในเวลานี้ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว. (สุภาษิต 12:18) ดังพิจารณาแล้วในบทความก่อน นี่อาจก่อผลเสียหายร้ายแรง. สุภาษิตข้อหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “ไปอาศัยอยู่ที่ป่าเปลี่ยวดีกว่าอาศัยอยู่กับหญิงที่มักทะเลาะและบ่นจู้จี้.” (สุภาษิต 21:19) หากคุณเป็นภรรยาในครอบครัวที่เป็นอย่างนั้น ก็ขอให้ถามตัวเองว่า ‘นิสัยของฉันทำให้เป็นเรื่องยากที่สามีจะอยู่ใกล้ ๆ ฉันไหม?’ คัมภีร์ไบเบิลบอกสามีดังนี้: “จงรักภรรยาของตนและอย่ามีใจขมขื่นต่อนาง.” (โกโลซาย 3:19, ฉบับแปลใหม่) หากคุณเป็นสามี จงถามตัวเองว่า ‘ฉันมีท่าทีเย็นชา ซึ่งยั่วยุให้ภรรยาแสวงหาความอบอุ่นจากที่อื่นไหม?’ แน่ล่ะ ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับการประพฤติผิดศีลธรรมทางเพศ. แต่กระนั้น ข้อเท็จจริงที่ว่าเรื่องน่าเศร้าเช่นนั้นอาจเกิดขึ้นได้เป็นเหตุผลที่ดีที่จะพิจารณาปัญหากันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา.
วันที่ 28 กรกฎาคม–3 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สุภาษิต 24
ทำให้ตัวเองเข้มแข็งเพื่อพร้อมรับมือกับปัญหา
ห20.12 น. 15
คำถามจากผู้อ่าน
สุภาษิต 24:16 บอกว่า “คนดีอาจล้มถึงเจ็ดครั้งแต่จะลุกขึ้นมาได้” ข้อนี้หมายถึงคนที่ทำบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วพระเจ้าก็ให้อภัยเขาไหม?
ไม่ใช่ ข้อนี้ไม่ได้หมายถึงแบบนี้ แต่ข้อนี้หมายถึงคนที่เจอปัญหาและความลำบากหลายอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนกับเขาล้มลงหลายครั้ง แต่เขายังลุกขึ้นมา พยายามสู้กับปัญหาที่เจอ และยังอดทนได้
จากทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าสุภาษิต 24:16 ไม่ได้หมายถึงการทำบาป แต่หมายถึงการเจอกับปัญหาหรือความลำบากซ้ำแล้วซ้ำอีก ในโลกชั่วนี้คนดีอาจจะต้องเจอปัญหาสุขภาพหรือปัญหาอย่างอื่น เขาอาจจะโดนรัฐบาลข่มเหงอย่างหนัก แต่เขามั่นใจได้ว่าพระเจ้าจะช่วยให้เขารับมือและอดทนกับปัญหาต่าง ๆ ได้ มีกี่ครั้งแล้วที่คุณเห็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเจอปัญหา แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี เรามั่นใจว่า “พระยะโฮวาประคองทุกคนที่กำลังจะล้ม และดึงทุกคนที่หมอบฟุบอยู่ให้ลุกขึ้น”—สด. 41:1-3; 145:14-19
วันที่ 4-10 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สุภาษิต 25
หลักการที่จะช่วยในเรื่องการพูด
ห15 15/12 น. 21 ว. 15-16
ใช้ความสามารถในการพูดของคุณอย่างเหมาะสม
15 วิธีที่เราพูดกับคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญมากพอ ๆ กับเรื่องที่เราพูด ผู้คนชอบฟังพระเยซูเพราะท่านสอนได้น่าฟังและสอนอย่างกรุณา (ลูกา 4:22) เมื่อเราพูดอย่างกรุณา คนอื่นก็จะชอบฟังและยอมรับสิ่งที่เราพูด (สุภา. 25:15) เราจะพูดกับคนอื่นอย่างกรุณาก็ต่อเมื่อเรานับถือเขาและคำนึงถึงความรู้สึกของเขา พระเยซูก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ตอนที่ท่านเห็นฝูงชนพยายามเดินทางมาฟังท่านสอน พระเยซูยินดีให้เวลาและสอนพวกเขา (มโก. 6:34) ถึงแม้บางครั้งพระเยซูจะถูกด่า แต่ท่านก็ไม่ได้ด่าตอบ—1เป. 2:23
16 ถึงแม้เรารักครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเรา แต่บางครั้งเราก็อาจพูดกับพวกเขาอย่างไม่กรุณาเพราะเราสนิทกับพวกเขาอยู่แล้ว เราอาจคิดว่าเราไม่ต้องระวังวิธีที่เราพูดกับเขาก็ได้ แต่พระเยซูไม่เคยพูดกับเพื่อนของท่านอย่างไม่กรุณา เมื่อพวกสาวกเถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ ท่านพูดแก้ไขพวกเขาอย่างกรุณา แล้วใช้ตัวอย่างของเด็กเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนวิธีคิด (มโก. 9:33-37) ผู้ดูแลในประชาคมสามารถเลียนแบบตัวอย่างของพระเยซูได้โดยให้คำแนะนำคนอื่น ๆ อย่างสุภาพอ่อนโยน—กลา. 6:1
ห95 1/4 น. 17 ว. 8
เร้าใจให้เกิดความรักและการงานที่ดี—โดยวิธีใด?
8 ในการรับใช้พระเจ้าของเรา พวกเราทุกคนจะเร้าใจซึ่งกันและกันได้โดยการวางตัวอย่าง. พระเยซูได้เร้าใจบรรดาผู้ที่ฟังพระองค์อย่างแน่นอน. พระองค์ทรงรักงานเผยแพร่ของคริสเตียนและยกย่องงานนี้. พระองค์ตรัสว่า งานนี้เป็นดั่งอาหารสำหรับพระองค์. (โยฮัน 4:34; โรม 11:33) ความกระตือรือร้นเช่นนี้อาจส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง. คุณจะแสดงให้เห็นเช่นเดียวกันนั้นไหมว่าคุณชื่นชมยินดีกับงานรับใช้? ขณะที่คุณจะระมัดระวังหลีกเลี่ยงการพูดในเชิงโอ้อวด จงเล่าประสบการณ์ดี ๆ ของคุณให้คนอื่นในประชาคมฟัง. คราใดที่เชิญชวนคนอื่นทำงานร่วมกับคุณ ก็จงดูว่าคุณจะช่วยเขาให้ประสบความเพลิดเพลินอย่างแท้จริงในการสนทนากับผู้คนด้วยเรื่องพระยะโฮวา พระผู้สร้างองค์ใหญ่ยิ่งของเรา.—สุภาษิต 25:25.
วันที่ 11-17 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สุภาษิต 26
อยู่ให้ห่างจาก “คนโง่”
it-2-E น. 729 ว. 6
ฝน
ฤดู ในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญามีฤดูหลัก ๆ 2 ฤดู คือฤดูร้อนกับฤดูหนาว หรืออาจจะบอกได้ว่าเป็นช่วงหน้าแล้งกับช่วงหน้าฝน (เทียบกับ สด 32:4; พซม 2:11, เชิงอรรถ) ช่วงประมาณกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนตุลาคมจะมีฝนน้อยมาก นอกจากนั้น ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวฝนก็แทบจะไม่ตกเลย และสุภาษิต 26:1 ก็ทำให้เห็นว่าไม่ควรจะมีฝนตกในฤดูเก็บเกี่ยว (เทียบกับ 1ซม 12:17-19) ปกติแล้วในช่วงหน้าฝน ก็จะไม่ได้มีฝนตกตลอด แต่จะมีวันที่ฟ้าใสด้วย และเนื่องจากช่วงที่ฝนตกก็เป็นฤดูหนาว ตอนที่มีฝนตกลงมาอากาศก็จะหนาวมาก (อสร 10:9, 13) ดังนั้น เป็นเรื่องเหมาะถ้าจะมีที่หลบฝนที่อบอุ่นและสบาย—อสย 4:6; 25:4; 32:2; โยบ 24:8
ห87 1/10 น. 23 ว. 12
การตีสอนก่อผลเป็นความสุขสำราญ
12 มาตรการที่รุนแรงกว่านั้นอาจจำเป็นสำหรับบางคน ดังที่แจ้งในสุภาษิต 26:3 “แส้เหมาะกับม้า บังเหียนเหมาะกับลาฉันใด ไม้เรียวเหมาะกับหลังคนโฉดเขลาฉันนั้น.” บางครั้งพระยะโฮวาได้ทรงปล่อยให้ชาติยิศราเอลถูกกำราบโดยความยากลำบากต่าง ๆ ที่เขานำมาสู่ตัวเอง. “เพราะเขาได้ขัดขืนต่อถ้อยคำของพระองค์ และได้ประมาทต่อคำสั่งสอนของพระองค์ผู้สูงสุด. เหตุฉะนั้น พระองค์ได้ทรงกระทำให้ใจของเขาท้อลงด้วยงานหนัก เขาทั้งหลายได้สะดุดล้มลง ไม่มีผู้ใดช่วยเขา. ขณะนั้นเขาได้ร้องทูลพระยะโฮวาเพราะความทุกข์ยากของเขา และพระองค์ได้ทรงช่วยให้พ้นจากการยากลำบากของเขา.” (บทเพลงสรรเสริญ 107:11-13) แต่คนโง่ ทำใจแข็งกระด้างกระทั่งไม่อาจรับการตีสอนเพื่อการแก้ไข: “คนที่ถูกห้ามปรามอยู่บ่อย ๆ และยังทำตัวเป็นคนคอแข็ง คนนั้นจะถูกทำลายเสียทันที และไม่มีหนทางแก้ไข.”—สุภาษิต 29:1.
it-2-E น. 191 ว. 4
ง่อย, พิการ
การใช้ในเชิงสุภาษิต โซโลมอนซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ฉลาดมากบอกว่า “คนที่ไว้ใจให้คนโง่ทำงาน ก็เหมือนคนที่ทำให้เท้าตัวเองพิการและทำร้ายตัวเอง” คนที่จ้างคนโง่ให้ทำงานก็กำลังทำให้ตัวเองต้องเสียผลประโยชน์ งานที่เขาตั้งใจไว้ก็จะไม่สำเร็จและตัวเขาเองก็จะได้รับผลเสียหายด้วย—สภษ 26:6
ชีวิตคริสเตียน
ศึกษาส่วนตัวเพื่อจะมี ‘สติปัญญาที่จะทำให้รอดได้’
ห18.03 น. 29 ว. 6
6 นอกจากนั้น การอธิษฐาน การศึกษาคัมภีร์ไบเบิล และการคิดใคร่ครวญจะช่วยเราให้สอนตัวเองและควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นด้วย แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่ชอบหรือรู้สึกว่ายากที่จะศึกษาส่วนตัวล่ะ? อย่าเพิ่งท้อ ถ้าคุณยอมให้พระยะโฮวาช่วย พระองค์จะช่วยคุณให้ “เพาะความรู้สึกอยากรับถ้อยคำบริสุทธิ์ของพระเจ้า” (1 เปโตร 2:2) อย่างแรก คุณต้องอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยคุณบังคับตัวเองให้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิล บางทีคุณอาจเริ่มจากศึกษาโดยใช้เวลาสั้น ๆ ในแต่ละครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะค่อย ๆ รู้สึกว่าการศึกษาส่วนตัวเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น และคุณจะสนุกกับการศึกษามากขึ้น คุณจะรู้สึกรักช่วงเวลาสงบ ๆ ที่ได้ใช้เวลาใคร่ครวญความคิดของพระยะโฮวา—1 ทิโมธี 4:15
วันที่ 18-24 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สุภาษิต 27
เพื่อนแท้จะช่วยเราได้ยังไงบ้าง?
it-2-E น. 491 ว. 3
เพื่อนบ้าน
ถึงอย่างนั้น ให้เราไว้ใจและพึ่งพาเพื่อนตอนที่ต้องการความช่วยเหลือ เหมือนที่หนังสือสุภาษิตแนะนำว่า “อย่าทิ้งเพื่อนของคุณหรือเพื่อนของพ่อ และอย่าไปบ้านพี่น้องตอนที่คุณลำบาก เพื่อนบ้าน [ชา เคนʹ] ที่อยู่ใกล้ก็ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ไกล” (สภษ 27:10) ผู้เขียนหนังสือสุภาษิตอาจหมายถึงว่า เพื่อนสนิทมีค่ามาก และเราควรขอความช่วยเหลือจากเขาแทนที่จะขอความช่วยเหลือจากญาติแท้ ๆ ของเราโดยเฉพาะถ้าญาติของเราอยู่ไกล เนื่องจากญาติอาจไม่พร้อมที่จะช่วยเราได้เท่ากับเพื่อนสนิท
วันที่ 25-31 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สุภาษิต 28
คนชั่วกับคนดีต่างกันยังไง?
ห93 15/5 น. 26 ว. 2
คุณประพฤติตามพระยะโฮวาทุกประการไหม?
“คนชอบธรรมมีใจกล้าหาญ [เชื่อมั่น, ล.ม.] ดุจสิงโต.” (สุภาษิต 28:1) พวกเขาสำแดงความเชื่อ, หมายพึ่งพระวจนะของพระเจ้าด้วยความมั่นใจ, และมุ่งหน้าในการรับใช้พระยะโฮวาด้วยความกล้าหาญไม่ว่าเผชิญกับอันตรายใด ๆ.
ห97 15/3 น. 13 ว. 5
จงน้อมใจของท่านเพื่อการสังเกตเข้าใจ
5 สุภาษิตในคัมภีร์ไบเบิลช่วยเราใช้การสังเกตเข้าใจและเลี่ยงการประพฤติที่ไม่เหมาะสม. ตัวอย่างเช่นสุภาษิต 10:23 (ฉบับแปลใหม่) บอกว่า “คนโง่กระทำความผิด [“ประพฤติหละหลวม,” ล.ม.] เหมือนการเล่นสนุก แต่ความประพฤติอันกอปรด้วยปัญญา เป็นความเพลิดเพลินแก่คนที่มีความเข้าใจ [“การสังเกตเข้าใจ,” ล.ม.].” คนที่การประพฤติหละหลวมเป็นเช่น “การเล่นสนุก” นั้นมองไม่เห็นว่าแนวทางของตนผิด และไม่แยแสต่อพระเจ้าผู้ทรงอยู่ในฐานะที่ทุกคนต้องให้การต่อพระองค์. (โรม 14:12) “คนโง่” เช่นนั้นบิดเบือนการหาเหตุผลของตนจนถึงขั้นทึกทักเอาเองว่า พระเจ้าไม่ทรงเห็นการทำผิดของพวกเขา. ที่จริง โดยสิ่งที่พวกเขาทำก็เหมือนกับพูดว่า “พระเจ้า [“พระยะโฮวา,” ล.ม.] ไม่มี.” (บทเพลงสรรเสริญ 14:1-3; ยะซายา 29:15, 16) เนื่องจากไม่ได้รับการชี้นำจากหลักการของพระเจ้า พวกเขาจึงขาดการสังเกตเข้าใจและไม่สามารถตัดสินเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง.—สุภาษิต 28:5.