ให้การชี้นำที่เขาจำเป็นต้องมี
บุตรของคุณจะเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองให้พ้นจากการประพฤติผิดศีลธรรมที่เพิ่มขึ้นของโลกได้อย่างไร? ไม่ใช่จากโทรทัศน์ ซึ่งหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งระบุว่าอยู่ในอันดับสี่ของแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องเพศ. มิใช่จากโรงเรียน เพราะสิ่งที่ครูสั่งสอนนั้นเป็นไปตามค่านิยมและมาตรฐานซึ่งเปลี่ยนไป ของโลกที่ผิดศีลธรรม. และแน่นอนไม่ใช่จากเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังโดยเพื่อนในโรงเรียนของลูกคุณ.
ถ้าจะทำให้การศึกษาด้านศีลธรรมและชีวิตครอบครัวประสบผลสำเร็จ ต้องเริ่มต้นที่บ้าน. ดังที่ครูโรงเรียนมัธยมผู้ห่วงใยคนหนึ่งบอกว่า “ใครสักคนต้องกล้าพูดว่า ‘เดี๋ยวก่อน เจ้าหนู มันจะไม่ทำให้เจ้าเสียหาย ถ้ารอให้ถึงเวลา!’”
คุณเคยสอนลูกอย่างนั้นไหม? เมื่อคำนึงถึงการทะลักเข้ามาของเรื่องราวทางเพศซึ่งรายล้อมเราอยู่ บางครั้งคุณสงสัยไหมว่า คุณรู้วิธีสอนพวกเขาหรือไม่?
ผลกระทบของตัวอย่าง
วิถีชีวิตของบิดามารดามีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณฉันใด ตัวอย่างของคุณก็ส่งผลกระทบอันทรงพลังต่อชีวิตลูก ๆ ของคุณฉันนั้น. ตัวอย่างที่ว่านั้นเผยให้เห็นว่าคุณรักพวกเขาขนาดไหนและคุณต้องการให้เขาเป็นคนชนิดใด.
ถ้าคุณรักษาพรหมจรรย์ไว้จนถึงวันที่คุณสมรส คุณย่อมบอกลูกของคุณได้ว่าการกระทำดังกล่าวทำให้คุณมีความสุขเพียงไร. คุณปู่คนหนึ่งจำวันนั้นได้เกือบ 60 ปีมาแล้ว เมื่อคุณพ่อของเขาบอกว่าการแต่งงานเป็นความเบิกบานยินดีเหลือเกินโดยรู้ว่าตนมิได้เข้าส่วนในการประพฤติผิดศีลธรรม ซึ่งอาจทำให้การสมรสของเขามัวหมองได้ภายหลัง. การสนทนาครั้งนั้นมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคุณปู่อย่างยิ่ง และเขาเชื่อว่าตัวอย่างของตนมีผลกระทบต่อชีวิตบุตรหลานเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ดี ถ้าลูกรู้ว่าชีวิตในตอนต้น ๆ ของคุณมิได้เป็นตัวอย่างที่ดี คุณควรแน่ใจว่าลูก ๆ รู้ถึงสาเหตุที่คุณได้เปลี่ยน. มิใช่เพียงเพราะคุณอายุมากขึ้นแต่เพราะคุณได้พบมาตรฐานที่สูงส่งกว่าสำหรับการดำเนินชีวิต.
การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
บิดามารดาผู้ประสบความสำเร็จมักจะออกความเห็นว่า พวกเขาให้เวลามากสักเพียงไรเพื่อฟังลูก ๆ ของตน. พวกเขาทราบว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของลูก ๆ. คาเรนจัดเวลาเป็นพิเศษเพื่อจะทำงานในห้องครัวตอนบ่าย. โดยวิธีนี้ เมื่อลูกสาวกลับบ้าน พวกเขาจะคุยกับเธอได้ถึงสิ่งซึ่งเกิดขึ้นที่โรงเรียนในระหว่างวันนั้น.
เออร์ลีน มักจะอยู่คอยลูกสาวเมื่อพวกเขากลับบ้านตอนกลางคืนและฟังเธอเล่าถึงเรื่องทั้งหมดที่ได้ทำในวันนั้น. เออร์ลีนพูดว่า “ถ้ามีอะไรต้องแก้ไข ดิฉันก็จะจัดการในโอกาสหลังได้. แต่ดิฉันจะไม่มีทางรู้เรื่องนั้นเลยถ้าไม่ได้ฟัง.” เธอได้รักษาการติดต่อสนทนากับลูกสาวจนกระทั่งพวกเขาจบการศึกษาตลอดถึงช่วงที่อยู่ในการติดต่อฝากรัก. การใช้เวลากับลูก ๆ อย่างนั้นย่อมช่วยไม่ให้มีเรื่องปวดหัวมากมายในภายหลัง.
แต่จะว่าอย่างไรถ้าลูก ๆ ไม่ช่างพูด? ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณอาจจะถามตัวเองว่า ‘ลูกเป็นคนเงียบโดยธรรมชาติ หรือพวกเขากลัวที่จะเผยเรื่องราวเนื่องจากกิริยาที่ฉันแสดงออกในคราวก่อน? ฉันจะทำให้ลูก ๆ มั่นใจในตัวฉันได้อีกไหม โดยบากบั่นเป็นพิเศษในขณะนี้ เพื่อแสดงความสนใจในตัวเขา? ฉันจะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับลูก ๆ ได้ไหม เพื่อเขาจะเผยเรื่องเล็กน้อยออกมาในขณะนี้และบางทีภายหลังจะเผยเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น?’
ข้อเตือนที่สำคัญ
ลูกของคุณจำเป็นต้องได้รับคำเตือนเรื่องผลเสียหายจากการผิดศีลธรรม. ยกตัวอย่าง ไม่ว่าเขาได้ยินข้อแย้งในทางตรงข้ามมามากเท่าไร แต่เขาควรรู้ว่าไม่มีวิธีคุมกำเนิดใด ๆ ที่สมบูรณ์แบบ. การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงปรารถนาและโรคที่ติดต่อทางเพศมักจะเกิดขึ้นแม้ใช้เครื่องมือคุมกำเนิด. องค์การวางแผนครอบครัวบอกว่า ถุงยางพลาดในการป้องกันการตั้งครรภ์ร้อยละ 12 เมื่อใช้งาน และอัตราพลาดในการป้องกันไวรัสเอดส์อาจสูงกว่านั้นอีก.
หนุ่มสาวหลายคนดูเหมือนจะมั่นใจว่าความหายนะไม่มีวันเกิดขึ้นกับตน. แต่โรคที่ติดต่อทางเพศ รวมทั้งเอดส์ อาจจะแพร่ได้โดยผู้คนซึ่งยังไม่มีอาการ และผู้ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนแพร่เชื้อให้ผู้อื่น. โรคเช่นนั้นหลายชนิดซึ่งกำลังเกิดภัยพิบัติต่อคนหนุ่มสาวในปัจจุบันอาจทำให้เป็นหมัน, ทารกไม่สมประกอบ, ทำให้เป็นมะเร็ง, และกระทั่งเสียชีวิต.
เพื่อเป็นตัวอย่าง เชื่อกันว่าชาวอเมริกัน 40 ล้านคนเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ หนึ่งในบรรดาโรคร้ายแรง ซึ่งบัดนี้ยังไม่รู้วิธีรักษา. มารดาผู้ติดเชื้ออาจแพร่ไปยังบุตรได้. เด็กผู้ไร้เดียงสาเหล่านี้อาจจะกลายเป็นเด็กปัญญาอ่อน, เกิดผลเสียหายถาวรต่อระบบประสาทส่วนกลาง หรือเสียชีวิตเพราะอวัยวะภายในติดเชื้ออย่างรุนแรง. ช่างเป็นการจ่ายด้วยราคาแพงอย่างน่าสยองสำหรับชั่วเวลาสั้น ๆ ที่หวังจะได้ความเพลิดเพลิน!
เพศสัมพันธ์แบบลักลอบซึ่งแพร่เชื้อโรคนี้อาจไม่ได้ให้ความสนุกเสียเลยด้วยซ้ำ. นักวิจัยซึ่งสอบถามหนุ่มสาวหลายคน ได้กล่าวว่า “สำหรับผู้หญิงแล้ว ประสบการณ์ [ทางเพศ] ในวัยรุ่นเป็นไปในทางลบมากกว่าในทางบวกถึงสองเท่า.” บิดามารดาจำต้องย้ำกับบุตรว่าเพศสัมพันธ์—วิธีอันน่าพิศวงซึ่งพระผู้สร้างของเรามุ่งหมายไว้สำหรับการทำให้มนุษย์เต็มแผ่นดินโลกที่สวยงาม—ไม่ควรจะเริ่มต้นด้วยการลักลอบนอกขอบเขตของสายสมรส.
คำสั่งสอนที่จำเป็นสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ
บุตรของคุณต้องเรียนรู้ว่าวิธีที่แน่นอนวิธีเดียวเท่านั้นที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาซึ่งมากับเพศสัมพันธ์ก่อนการสมรสคือ ปฏิบัติตามหลักการที่พระเจ้าวางไว้ซึ่งกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าได้ผล. หลักการอะไร? ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรส ครั้นแล้วซื่อสัตย์อย่างไม่ผันแปรตลอดชีวิตต่อบุคคลผู้เป็นที่รักซึ่งจะดีที่สุดถ้าเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนอื่นมาก่อนเช่นกัน.
อย่างไรก็ดี เหตุผลขั้นพื้นฐานในการหลีกหนีกิจปฏิบัติผิดศีลธรรม มิใช่เพราะว่าสิ่งนี้ก่อปัญหาหลายอย่าง แต่เพราะพระผู้สร้างของเราบอกว่าผิด. คัมภีร์ไบเบิลกระตุ้นหนุนใจว่า “ให้ . . . เว้นจากการล่วงประเวณี.” “การล่วงประเวณีนั้น จงหลีกหนีเสีย.” เพราะเหตุใด? เพราะผู้ซึ่งปฏิบัติเช่นนั้นเป็นนิสัย “จะไม่ได้รับส่วนในราชอาณาจักรของพระเจ้า.”—1 เธซะโลนิเก 4:3; 1 โกรินโธ 6:9, 10, 18.
การปฏิบัติตามหลักการของพระเจ้านำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและอิ่มใจมากกว่า และป้องกันเราไว้จากโรคติดต่อทางเพศ, การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงปรารถนา, ปัญหาของครอบครัวที่มีบิดาหรือมารดาเพียงฝ่ายเดียว, และความปวดร้าวใจที่ถูกทอดทิ้งโดยผู้ซึ่งใช้เราเพื่อจุดประสงค์อันเห็นแก่ตัว.
เป็นเวลากว่า 2500 ปีมาแล้ว ถ้อยคำที่บันทึกไว้โดยผู้พยากรณ์สมัยโบราณของพระเจ้าปรากฏเป็นความจริงเสมอมาที่ว่า “เราคือยะโฮวา, พระเจ้าของเจ้าผู้สั่งสอนเจ้า, เพื่อประโยชน์แก่ตัวของเจ้าเอง, และผู้นำเจ้าให้ดำเนินในทางที่เจ้าควรดำเนิน. โอ้ถ้าเจ้าได้เชื่อฟังคำสั่งสอนของเราแล้ว, ความเจริญของเจ้าก็จะเป็นดังแม่น้ำไหล, และความชอบธรรมของเจ้าก็จะมีบริบูรณ์ดังคลื่นในมหาสมุทร.”—ยะซายา 48:17, 18.
แต่หลักการทางศีลธรรมเหล่านี้ เข้ากันได้อย่างไรกับการนัดพบในปัจจุบัน? คำถามนี้จะพิจารณาในบทความต่อไป.