คุณจะทำมากขึ้นอีกได้ไหมเพื่อถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา?
1 นี่คือคำถามสำคัญยิ่งที่เราทุกคนพึงพิจารณา. ในฐานะผู้เลียนแบบที่ซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์นายของเรา เราถวายเกียรติพระเจ้าของเราในทุกวันนี้โดยการทำการประกาศพระนามของพระองค์อย่างเปิดเผย. นี่คือความรับผิดชอบที่เราต้องแบกหากเราจะได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า. (มโก. 13:10; ลูกา 4:18; กิจ. 4:20; เฮ็บ. 13:15) ช่างเป็นสิทธิพิเศษอันไม่อาจพรรณนาได้จริง ๆ —ใช่ เป็นเกียรติจริง ๆ —ที่จะนำข่าวดีนี้ไปยัง “แกะ” ที่ยังกระจัดกระจายยู่ซึ่งอาจยังไม่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งแห่งฝูงแกะสากลในคอกของพระยะโฮวา.—โย. 10:16.
2 คุณและลูก ๆ ของคุณจะทำมากขึ้นอีกได้ไหมเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระยะโฮวาโดยการทำงานรับใช้เพิ่มขึ้น? ในจำนวนที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทั่วโลก พี่น้องชายหญิงของคุณกำลังเข้าสู่การรับใช้ประเภทไพโอเนียร์. ในระหว่างเดือนเมษายน 1992 มียอดใหม่ผู้ที่อยู่ในงานไพโอเนียร์พิเศษ, ประจำ, หรือสมทบในประเทศไทยถึง 279 คน. คุณเองได้คำนึงถึงการเป็นไพโอเนียร์อย่างจริงจังเป็นส่วนตัวไหม? คุณสนับสนุนลูก ๆ ของคุณให้มุ่งติดตามงานรับใช้ประเภทเต็มเวลาไหม?
3 คุณน่าจะวิเคราะห์ความรู้สึกที่คุณเองมีต่องานรับใช้ประเภทไพโอเนียร์มิใช่หรือ? เมื่อไรก็ตามที่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ คุณด่วนลงความเห็นไหมว่าสภาพการณ์ของคุณไม่อำนวยให้คุณรับใช้ในฐานะไพโอเนียร์? เป็นความจริงที่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะเป็นไพโอเนียร์ได้. ความรับผิดชอบตามหลักพระคัมภีร์และข้อจำกัดอื่น ๆ กันหลายคนไว้จากการรับใช้เต็มเวลา. (1 ติโม. 5:8) แต่คุณได้ครุ่นคิดเรื่องนี้พร้อมด้วยการอธิษฐานเมื่อไม่นานมานี้ไหม? คุณได้พิจารณาเรื่องนี้เป็นครอบครัวไหมเพื่อดูว่าอย่างน้อยสมาชิกครอบครัวสักคนหนึ่งจะเป็นไพโอเนียร์ได้? หอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 15 มิถุนายน 1983 ได้ลงคำกล่าวที่กระตุ้นความคิดไว้ในหน้า 21 ดังนี้: “ที่จริงแล้ว ผู้รับใช้ทุกคนฝ่ายคริสเตียนควรพิจารณาด้วยการอธิษฐานว่าตนจะเป็นไพโอเนียร์ได้หรือไม่. สามีภรรยาคู่หนึ่งในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นไพโอเนียร์นานถึงสิบห้าปีพูดว่า ‘ทำไมเราจึงทำงานเป็นไพโอเนียร์? เราสามารถพิสูจน์ต่อพระยะโฮวาได้ไหมว่า เรามีเหตุผลอันดีหากเราไม่ได้ทำงานนี้?’ อีกหลายคนที่ไม่เป็นไพโอเนียร์อาจถามปัญหาคล้าย ๆ กันเช่น: ‘ฉันจะแก้ตัวได้จริง ๆ ไหมจำเพาะพระยะโฮวา ที่ฉันไม่เป็นไพโอเนียร์?’”
4 อีกบทความหนึ่งในหอสังเกตการณ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ให้ความเห็นที่ตรงจุดดังนี้: “เราทุกคนควรซื่อตรงกับตัวเอง ท่านพูดไหมว่า ‘น้ำใจสมัคร แต่ร่างกายไม่ให้?’ แต่น้ำใจสมัครจริง ๆ ไหม? เราจงหลีกเลี่ยงอย่าใช้ความอ่อนแอของร่างกายมาเป็นข้อแก้น้ำใจไม่สมัครเลย.”—หอฯ 15/2/79 หน้า 28.
5 บิดามารดาซึ่งต้องการให้บุตรประสบความสำเร็จ: สุภาษิต 15:20 ให้คำรับรองแก่เราว่า “บุตรที่มีปัญญาย่อมทำให้บิดาปลื้มใจยินดี.” บิดามารดาผู้เลื่อมใสในพระเจ้าย่อมปีติยินดีอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อบุตรชายหญิงของเขามุ่งติดตามแบบชีวิตแห่งงานรับใช้ที่อุทิศแด่พระยะโฮวา. กระนั้น ลูก ๆ ของคุณจะไม่เลือกแนวทางอันฉลาดสุขุมโดยอัตโนมัติ. การล่อใจของโลกนี้มีพลังมาก. คุณที่เป็นบิดามารดา ค่านิยมของลูก ๆ ของคุณนั้นส่วนใหญ่ก็ได้รับการนวดปั้นโดยค่านิยมของคุณนั่นแหละ. หากคุณพูดในแง่ดีเสมอเกี่ยวกับผลประโยชน์ของงานรับใช้เต็มเวลา หากคุณสนับสนุนบุตรวัยหนุ่มสาวของคุณให้เสาะหาเพื่อนที่เป็นไพโอเนียร์ที่อุทิศตัว หากคุณเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่างานรับใช้ประเภทไพโอเนียร์คืองานประจำชีวิตอันมีเกียรติยิ่งที่ลูก ๆ ของคุณอาจมุ่งทำได้แล้วละก็ เจตคติในแง่ดีเช่นนี้แหละจะมีผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อลูก ๆ ของคุณอย่างแน่นอน. จงช่วยเขาให้ตระหนักถึงคุณค่าแห่งการสร้างชื่อเสียงอันดีกับพระยะโฮวาแทนที่จะสร้างกับมนุษย์.
6 หนุ่มสาวทั้งหลาย สุภาษิต 22:1 เน้นการเลือกที่คุณต้องทำดังนี้: “น่าจะเลือกชื่อเสียงดีมากกว่าเลือกทรัพย์สมบัติ และมีคนนับถือก็ดีกว่ามีเงินทองอีก.” ชื่อเสียงชนิดใดที่คุณจะสร้างเพื่อตัวคุณเอง? จงคิดถึงชายหญิงที่เราอ่านถึงพวกเขาในพระคัมภีร์ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงกับพระเจ้าโดยงานรับใช้ที่ได้อุทิศตัวทำ. มีลูกา นายแพทย์ผู้เป็นที่รัก และฮะโนค ซึ่งดำเนินกับพระเจ้าเที่ยงแท้. ซามูเอลซึ่งได้รับการศึกษาอันดีเยี่ยมเท่าที่จะมีได้ เริ่มงานรับใช้ของท่าน ณ พระวิหารของพระยะโฮวาเมื่ออายุยังเยาว์. คุณคิดไหมว่าผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์เหล่านั้นเคยเสียใจที่เขาได้เลือกทางนี้? ทำไมล่ะ? พวกเขาทุกคนต่างดำเนินชีวิตที่มีความสุข, บังเกิดผล, และน่าตื่นเต้น. และเขาได้รับความโปรดปรานอันถาวรจากพระยะโฮวา!—เพลง. 110:3; 148:12, 13; สุภา. 20:29ก; 1 ติโม. 4:8ข.
7 เมื่อลูก ๆ ประสบความสำเร็จในชีวิต บิดามารดาย่อมรู้สึกภาคภูมิใจ. สิ่งที่พวกเขาทุ่มเทลงไปในการอบรม, ตีสอน, และสอน “มรดกจากพระยะโฮวา” นั้น ได้รับตอบแทนมากมายหลายเท่าทีเดียว. (เพลง. 127:3) จะมีอะไรทำให้บิดามารดาภาคภูมิใจมากไปกว่าการที่ลูกชายหรือลูกสาวทำทุกสิ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระยะโฮวาล่ะ? หนุ่มสาวหลายคนในสมัยปัจจุบันกำลังเดินตามรอยเท้าของลูกา, ฮะโนค, และซามูเอล ดังที่จดหมายฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง: “ผมอายุ 16 ปี. ผมเริ่มเป็นไพโอเนียร์ประจำ . . . เก้าเดือนหลังจากผมรับบัพติสมา และผมได้รับพระพรจากพระยะโฮวานับแต่นั้น. . . . นอกจากนี้ การเป็นไพโอเนียร์ยังช่วยคุณในโรงเรียนด้วย. เมื่อก่อน ผมถูกเพื่อนร่วมชั้นล้อที่ผมเป็นพยาน. แต่เดี๋ยวนี้ เนื่องจากผมต้องศึกษาส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก ผมก็สามารถ ‘ตอบคนที่สบประมาทผมได้.’”
8 การศึกษาเพื่อเตรียมคนเราไว้พร้อมในงานรับใช้: ในจุดนี้เราน่าจะคำนึงถึงปัญหาในเรื่องการศึกษาฝ่ายโลก. นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องมีแง่คิดอันสมดุล. หอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 1 พฤศจิกายน 1992 มีบทความ “การศึกษาโดยมีจุดมุ่งหมาย.” ภายใต้หัวเรื่องย่อย “การศึกษาอย่างเพียงพอ” กล่าวถึงจุดนี้ว่า “คริสเตียนควรเป็นคนเลี้ยงตัวเองได้ แม้ว่าเขาเป็นผู้ประกาศเต็มเวลาในฐานะไพโอเนียร์ก็ตาม.” (2 เธ. 3:10-12) . . . เยาวชนคริสเตียนต้องมีการศึกษาสูงแค่ไหนเพื่อเข้าหลักเกณฑ์ของคัมภีร์ไบเบิลและเป็นไปตามพันธะหน้าที่ของเขาฝ่ายคริสเตียน? . . . จะตั้งอะไรเป็นเกณฑ์สำหรับคำ [ค่าจ้าง] ‘พอที่จะอยู่ได้’ . . . ของคนเหล่านั้นที่ประสงค์จะรับใช้ฐานะไพโอเนียร์ประกาศข่าวดี? บุคคลดังกล่าวปกติแล้วต้องการใช้เวลาส่วนหนึ่งของวันทำงานเพื่อมีรายได้เพื่อจะไม่ ‘เป็นภาระ’ แก่พวกพี่น้องหรือครอบครัวของเขา.—1 เธ. 2:9.”
9 ถ้าผู้ที่คิดจะเป็นไพโอเนียร์คิดว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อช่วยเขาให้มุ่งสู่งานรับใช้เต็มเวลา หอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 1 พฤศจิกายน 1992 เสนอแนะดังนี้: “สำหรับพยานวัยเยาว์ เมื่อมีทางเป็นไปได้ก็เรียนหลักสูตรนี้เมื่อยังอยู่ที่บ้าน โดยการทำเช่นนี้จะสามารถรักษานิสัยการศึกษาฝ่ายคริสเตียนอย่างที่เคยปฏิบัติ, การเข้าร่วมประชุม, และร่วมงานประกาศสั่งสอนต่อไป.”
10 มีประสบการณ์จากแอฟริกาของเยาวชนวัย 20 ปีซึ่งจำต้องเข้าโรงเรียนพาณิชย์ แม้ว่าหัวใจของเขาใฝ่ในงานรับใช้ประเภทไพโอเนียร์ก็ตาม. แม้จะเรียนอยู่ที่โรงเรียน เขาก็สมัครเป็นไพโอเนียร์สมทบ. เพื่อนวัยเดียวกันล้อเลียนเขา บอกว่าเขาคงจะสอบตกแน่ ๆ. เขาตอบเพื่อน ๆ พวกนั้นเสมอว่า “จงแสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรมของพระเจ้าก่อนเสมอ.” โดยการใช้วินัยกับตัวเอง เขาจะตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวันและเตรียมการเรียนสองชั่วโมงแล้วก็ร่วมในการประกาศตอนบ่ายเมื่อเลิกเรียน. ทั้งโรงเรียนตกตะลึงเมื่อเยาวชนคนนี้ได้ที่สามในการสอบพิเศษเพื่อเลือกนักเรียนสามคนสำหรับรางวัลทุนการศึกษาพิเศษ. นักเรียนที่สอบได้ที่สองเป็นผู้สนใจซึ่งไพโอเนียร์ของเราคนนี้ศึกษาพระคัมภีร์ด้วยที่โรงเรียน. นักเรียนที่สอบได้ที่หนึ่งก็เป็นพยานฯ ที่กระตือรือร้นอีกคนหนึ่งในโรงเรียนนี้.
11 ผู้ปกครองทำส่วนของเขา: ผู้ปกครองในประชาคม ซึ่งมีความภูมิใจในงานที่พวกไพโอเนียร์ทำอยู่ ให้การหนุนกำลังใจอย่างมากแก่เหล่าผู้รับใช้ที่กระตือรือร้นเหล่านี้. พวกผู้ปกครองยินดีจะทำเช่นนี้เพราะเขาทราบว่าไพโอเนียร์ที่ทำงานหนักและบังเกิดผลนั้นเป็นพระพรแก่ประชาคมไม่ว่าที่ใด ๆ. หลังจากรับใช้เป็นไพโอเนียร์ประจำเป็นเวลาหนึ่งปีหรือกว่านั้น พี่น้องเหล่านั้นก็มีคุณสมบัติสำหรับการเข้ารับการฝึกอบรมพิเศษในโรงเรียนการรับใช้ประเภทไพโอเนียร์. หลักสูตรนี้เป็นเครื่องมืออันไม่อาจประเมินค่าได้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของพวกไพโอเนียร์. ถึงแม้พวกไพโอเนียร์จะอยู่แนวหน้าในงานนี้ พวกเขาก็ต้องการการสนับสนุนด้วยความรักเช่นกัน และผู้ปกครองควรตื่นตัวเพื่อสนองความต้องการนี้.—1 เป. 5:1-3.
12 พวกผู้ปกครองจะสามารถให้การกระตุ้นหนุนใจต่องานไพโอเนียร์ได้อย่างไร? จุดเริ่มต้นที่ดีน่าจะเป็นการประเมินดูเป็นระยะ ๆ ว่าใครที่อาจเอื้อมแขนเพื่อจะได้สิทธิพิเศษนี้. ผู้ปกครองอาจเข้าพบแต่ละคนซึ่งดูเหมือนอยู่ในฐานะที่เหมาะจะเป็นไพโอเนียร์ได้ รวมทั้งหลายคนซึ่งเป็นไพโอเนียร์สมทบเป็นประจำ, ผู้ที่เกษียณแล้ว, แม่บ้าน, และนักเรียน. ขณะที่ไม่ควรทำให้ใครก็ตามรู้สึกว่ามีพันธะจะต้องสมัคร แต่ด้วยการหนุนใจเล็กน้อยอย่างที่จะทำตามได้ คนเหล่านั้นที่มีความปรารถนาจะเป็นแต่ยังลังเลอยู่ก็อาจตระหนักว่าการเป็นไพโอเนียร์เป็นสิ่งที่เขาจะทำได้.
13 ในการให้การสนับสนุนแก่คนที่ต้องการจะสมัคร ผู้ปกครองควรจำไว้เสมอว่า ไม่จำเป็นที่ผู้สมัครจะต้องเป็นไพโอเนียร์สมทบหลายเดือนเสียก่อนจึงจะสมัครเป็นไพโอเนียร์ประจำได้. (พระราชกิจของเรา ฉบับสิงหาคม 1986 หน้า 9-10 ว. 24-26) ถูกแล้ว ผู้ปกครองควรแน่ใจอย่างสมเหตุผลว่าผู้สมัครอยู่ในฐานะที่จะทำตามข้อเรียกร้องเรื่องเวลาได้.
14 หลังจากคณะกรรมการการรับใช้ของประชาคมตรวจดูใบสมัครและเลขาธิการตรวจดูให้แน่ใจว่ามีการตอบคำถามทุกข้อแล้ว ควรส่งใบสมัครนั้นถึงสมาคมทันที.
15 เลขาธิการควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเสมอถึงปัญหาใด ๆ ที่ไพโอเนียร์อาจประสบ. นี่เป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะในประชาคมที่มีไพโอเนียร์หลายคน. นอกจากการทบทวนเกี่ยวกับกิจกรรมของพวกไพโอเนียร์ในต้อนสิ้นปีรับใช้แล้ว ดังที่มีคำขอในรายงานวิเคราะห์ของประชาคม (s-10) เลขาธิการควรเชิญผู้ดูแลการรับใช้มาพูดคุยกันในตอนต้นเดือนมีนาคมเพื่อดูว่าใครบ้างที่อาจไม่ได้ทำเวลาตามข้อเรียกร้องและจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่เป็นส่วนตัว. (ดูพระราชกิจของเรา ฉบับกุมภาพันธ์ 1993, คำประกาศ.) ถ้าให้การช่วยเหลือโดยไม่ชักช้า ไพโอเนียร์คนนั้นก็อาจสามารถทำให้สำเร็จตามข้อเรียกร้องเมื่อสิ้นปีรับใช้นั้น.
16 ไพโอเนียร์ใหม่ ๆ หลายคนอายุยังน้อยและค่อนข้างใหม่ในความจริง. แน่นอน น้ำใจสมัครของพวกเขาทำให้เราปีติยินดี! แต่คนใหม่ ๆ เหล่านี้ยังต้องการการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความชำนาญในงานตามบ้าน เพื่อกลับเยี่ยมเยียนอย่างบังเกิดผล และเพื่อสอนในการศึกษาพระคัมภีร์. หากไม่ได้รับการฝึกอบรมเหล่านี้ คนใหม่ ๆ เหล่านี้อาจท้อใจหลังจากปีหนึ่งผ่านไปหรือราว ๆ นั้น และในที่สุดก็เลิกงานไพโอเนียร์เพราะงานรับใช้ไม่ได้ผลที่ดี. ผู้ปกครองที่ตื่นตัวเสมออาจสามารถสังเกตเห็นได้ถึงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้น หรือการเฉื่อยลงในการงาน. หากให้การเอาใจใส่ในทันทีและไพโอเนียร์ได้รับการช่วยเหลือให้จัดการกับปัญหาของเขา เขาก็จะชื่นชมกับงานรับใช้ที่บังเกิดผลอีกหลายปีทีเดียว.
17 คุณจะหาปลาในแหล่งน้ำที่ห่างไกลได้ไหม?: สาวกบางคนของพระเยซูเป็นชาวประมง. บางครั้ง หลังจากหาปลาตลอดทั้งคืน อวนของเขาก็ยังว่างเปล่า. (โย. 21:3) ในส่วนต่าง ๆ ของประเทศนี้ซึ่ง ‘การจับคน’ ได้ดำเนินมาหลายปีแล้ว ไพโอเนียร์บางคนอาจลงความเห็นว่ามี “ปลา” เหลือน้อยนักใน “แหล่งน้ำ” ของประชาคมที่เขาสังกัด. (มัด. 4:19) เมื่อเปรียบเทียบดู เรารู้สึกตื่นเต้นมิใช่หรือที่ได้อ่านรายงานที่มาจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งผู้ประกาศและไพโอเนียร์กำลังนำการศึกษาพระคัมภีร์มากมาย? ความยินดีที่พวกไพโอเนียร์และมิชชันนารีในประเทศเหล่านั้นได้ประสบนับว่าเห็นได้ชัดทีเดียว. (หอฯ 1/9/92 หน้า 20 ว. 15) ฉะนั้น หากไพโอเนียร์ที่ทำงานหนักบางคนอยู่ในฐานะที่จะโยกย้ายไปยังประเทศที่มีความต้องการมากกว่า เขาควรพิจารณาเรื่องนี้กับสำนักงานสาขาก่อนจะย้าย.
18 ในตอนแรก ๆ บางคนอาจเริ่มเป็นไพโอเนียร์เนื่องจากเขารู้ว่านั่นเป็นสิ่งถูกต้องที่จะทำแต่สงสัยว่าเขาจะทำให้สำเร็จได้ไหม. เขาอาจสมัครด้วยความไม่แน่ใจบางประการและมีข้อจำกัดบางอย่าง. ในตอนเริ่มต้น ผลงานของเขาในการประกาศอาจมีน้อยมาก. แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขามีความชำนาญเพิ่มขึ้น และมีหลักฐานเกี่ยวกับพระพรจากพระยะโฮวาเหนือการงานของเขา. ดังนั้นเอง ความชื่นชมยินดีและความมั่นใจของเขาจึงเพิ่มขึ้น. สำหรับบางคน การเป็นไพโอเนียร์ถึงกับเป็นขั้นตอนที่นำไปสู่การรับใช้ในเบเธล, การอบรมที่กิเลียดและงานมิชชันนารี, โรงเรียนฝึกอบรมเพื่อการรับใช้, และแม้แต่งานผู้ดูแลเดินทาง.
19 อาจเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะย้ายไปอีกประเทศหนึ่งหรือได้รับประโยชน์จากการอบรมที่กิเลียด แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะจับปลาในแหล่งน้ำอื่น ๆ ในประเทศหากเขตทำงานปัจจุบันของคุณไม่เกิดผลเท่าไรนัก. การย้ายเช่นนั้นอาจเรียกร้องให้คุณปรับเปลี่ยนแบบชีวิตของคุณ แต่บำเหน็จฝ่ายวิญญาณย่อมจะมีมากมายจริง ๆ.—มัด. 6:19-21.
20 หรือหากสภาพการณ์ของคุณอำนวย คุณอาจสามารถช่วยประชาคมใกล้เคียงในหมวดที่คุณสังกัดก็ได้. หากคุณมีคุณวุฒิ ผู้ดูแลหมวดของคุณจะยินดีให้ข้อแนะเกี่ยวกับประชาคมในหมวดนั้นที่คงจะได้รับประโยชน์จากไพโอเนียร์อีกคนหนึ่ง.
21 ไพโอเนียร์และผู้ประกาศบางคนเคยสามารถรับใช้ต่อความจำเป็นในเขตของเขาเองขณะที่ยังคงอยู่ที่บ้าน. เขาอาจรู้อีกภาษาหนึ่ง. คุณพบเห็นภายในเขตทำงานของคุณไหมว่ามีประชากรกลุ่มใหญ่พอสมควรทีเดียวที่พูดอีกภาษาหนึ่ง? มีผู้คนซึ่งต้องการได้รับข่าวสารราชอาณาจักรจากคนใดคนหนึ่งที่ใช้ภาษามือของคนใบ้บ้างไหม? คนที่รู้ภาษาอื่นอาจช่วยได้อย่างมากในการเข้าถึงคนทุกชนิดด้วยข่าวสารราชอาณาจักร. ถึงแม้เรื่องนี้อาจเป็นข้อท้าทายอย่างยิ่ง นี่ก็อาจมีผลตอบแทนอย่างมากเช่นกัน.—1 ติโม. 2:4; ติโต 2:11.
22 หากคุณกำลังทำทุกสิ่งเท่าที่คุณสามารถทำได้อยู่แล้วในขณะนี้เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระยะโฮวา ก็จงชื่นชมยินดีในสิทธิพิเศษแห่งการรับใช้ที่คุณมีอยู่ในปัจจุบัน. หากคุณรู้สึกว่าคุณสามารถทำมากขึ้น จงนำเรื่องนี้ทูลต่อพระยะโฮวาในคำอธิษฐาน. จงวิเคราะห์ตามความเป็นจริงว่าสภาพการณ์อะไรบ้างที่อำนวยให้คุณทำการเปลี่ยนแปลง. จงพูดคุยกับผู้ปกครองซึ่งมีน้ำใจไพโอเนียร์หรือกับผู้ดูแลหมวดถึงแผนการทั้งหมดของคุณ. เมื่อคุณได้ทำการตัดสินใจอย่างที่จะทำตามได้พร้อมด้วยการอธิษฐานแล้ว จงทำตามทันที จงมั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวาที่จะทรงให้เกียรติแก่ผู้ที่ถวายพระเกียรติแด่พระองค์.—เฮ็บ. 13:5, 6; 1 ซามู. 2:30.