บทความศึกษา 10
พี่น้องทุกคนช่วยนักศึกษาให้ก้าวหน้าจนรับบัพติศมาได้!
“เมื่ออวัยวะแต่ละส่วนทำงานอย่างดี ทั้งร่างกายก็เติบโต”—อฟ. 4:16
เพลง 85 ขอให้ต้อนรับกัน
ใจความสำคัญa
1-2. ใครบ้างที่สามารถช่วยนักศึกษาให้ก้าวหน้าจนรับบัพติศมาได้?
เอมี่จากฟิจิบอกว่า “ฉันชอบสิ่งที่ได้เรียนมากและฉันก็รู้ว่านี่แหละคือความจริง แต่กว่าฉันจะเปลี่ยนตัวเองก็ตอนที่ฉันเริ่มใช้เวลากับพี่น้อง หลังจากนั้นฉันก็ก้าวหน้าจนรับบัพติศมาเลยค่ะ” จากประสบการณ์ของเอมี่ทำให้เราได้รู้เรื่องสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าพี่น้องในประชาคมช่วยคนที่เป็นนักศึกษา เขาก็จะมีโอกาสมากกว่าที่จะก้าวหน้าจนถึงขั้นรับบัพติศมา
2 พี่น้องทุกคนมีส่วนช่วยประชาคมให้เติบโตได้ (อฟ. 4:16) เลลานีไพโอเนียร์จากวานูวาตูบอกว่า “มีสุภาษิตหนึ่งของแอฟริกาบอกว่า ‘กว่าเด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาได้ คนทั้งหมู่บ้านต้องช่วยกัน’ ฉันคิดว่าเวลาสอนคนให้เป็นสาวกก็เหมือนกัน กว่าคนคนหนึ่งจะเข้ามาในความจริงได้ พี่น้องทั้งประชาคมก็ต้องช่วยกัน” เหมือนกับที่พ่อแม่ ญาติ ๆ ครู และคนอื่นมีส่วนช่วยให้เด็กโตเป็นผู้ใหญ่โดยสอนเขาและให้กำลังใจเขา พี่น้องในประชาคมก็สามารถให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ และวางตัวอย่างที่ดีเพื่อช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้าจนรับบัพติศมาได้เหมือนกัน—สภษ. 15:22
3. คุณเรียนอะไรได้จากคำพูดของอานา โดริน และเลลานี?
3 ทำไมคนที่มีนักศึกษาควรยินดีให้พี่น้องคนอื่นช่วย? ขอให้สังเกตคำพูดของอานาไพโอเนียร์พิเศษจากมอลโดวา เธอบอกว่า “พอนักศึกษาก้าวหน้าก็คงมีหลายอย่างที่นักศึกษาต้องได้รับความช่วยเหลือ ถ้าจะให้ผู้นำการศึกษาช่วยอยู่คนเดียวก็คงไม่ไหวแน่ ๆ” โดรินไพโอเนียร์พิเศษที่รับใช้อยู่ในประเทศเดียวกันบอกว่า “หลายครั้งพี่น้องคนอื่นก็พูดอะไรที่ทำให้นักศึกษาประทับใจมาก พวกเขาพูดสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลย” เลลานีบอกอีกเหตุผลหนึ่งว่า “พอนักศึกษาเห็นว่าพี่น้องรักเขาและเป็นห่วงเขามากแค่ไหน มันก็ทำให้นักศึกษามั่นใจว่าพวกเราเป็นคนของพระยะโฮวาจริง ๆ”—ยน. 13:35
4. เราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
4 คุณอาจจะสงสัยว่า ‘ฉันจะช่วยคนที่เป็นนักศึกษาได้ยังไงถ้าฉันไม่ได้เป็นผู้นำการศึกษา?’ ให้เรามาดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้างตอนที่เราไปศึกษากับพี่น้องคนอื่น และถ้านักศึกษาของพี่น้องมาประชุม เราจะช่วยเขาได้ยังไง นอกจากนั้นเราจะดูว่าผู้ดูแลจะช่วยนักศึกษาให้ก้าวหน้าจนถึงขั้นรับบัพติศมาได้ยังไง
ตอนที่คุณไปศึกษาด้วยกันกับพี่น้อง
ถ้าพี่น้องชวนคุณไปศึกษาด้วย คุณควรจะเตรียมตัวล่วงหน้า (ดูข้อ 5-7)
5. คุณมีหน้าที่อะไรตอนไปศึกษากับพี่น้อง?
5 คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบที่จะช่วยนักศึกษาให้เข้าใจคัมภีร์ไบเบิลก็คือผู้นำการศึกษา แต่ถ้าผู้นำการศึกษาชวนคุณให้ไปศึกษาด้วย คุณก็มีหน้าที่ที่จะช่วยเขาและสนับสนุนเขา (ปญจ. 4:9, 10) แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้างตอนที่คุณไปศึกษากับพี่น้อง?
6. คุณจะทำตามหลักการที่อยู่ในสุภาษิต 20:18 ได้ยังไงตอนที่ไปศึกษาด้วยกันกับพี่น้อง?
6 เตรียมก่อนศึกษา อย่างแรก คุณอาจจะถามผู้นำการศึกษาเกี่ยวกับนักศึกษาของเขา (อ่านสุภาษิต 20:18) คุณอาจจะถามข้อมูลบางอย่างของนักศึกษา เช่น เขาเชื่อเรื่องอะไร อายุเท่าไหร่ หรือครอบครัวของเขาเป็นแบบไหน นอกจากนั้น คุณอาจจะถามผู้นำการศึกษาว่า “ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องอะไรกันอยู่? มีจุดไหนไหมที่อยากจะเน้นเป็นพิเศษในการศึกษาครั้งนี้? มีอะไรที่ฉันต้องระวังไหม? มีอะไรที่ฉันควรพูดหรือไม่ควรพูดไหม? มีอะไรที่ฉันพอจะทำได้ไหมเพื่อช่วยให้นักศึกษาก้าวหน้ามากขึ้น?” ก็จริงที่ผู้นำการศึกษาจะไม่เล่าความลับของนักศึกษาให้คุณฟัง แต่สิ่งที่เขาบอกจะเป็นประโยชน์กับคุณแน่นอน มิชชันนารีที่ชื่อจอยก็ทำแบบนี้ตอนที่ชวนพี่น้องไปศึกษาด้วยกัน เธอบอกว่า “มันช่วยให้เขารู้ว่าจะพูดอะไรตอนที่ไปศึกษาด้วยกัน และทำให้เขาอยากช่วยนักศึกษาของฉันด้วย”
7. ถ้าคุณไปศึกษาด้วยกันกับพี่น้องทำไมคุณต้องเตรียมตัวด้วย?
7 ถ้าพี่น้องชวนคุณให้ไปศึกษาด้วยกัน คุณก็น่าจะเตรียมตัวก่อนที่จะไปศึกษากับเขา (อสร. 7:10) โดรินที่พูดถึงก่อนหน้านี้บอกว่า “ผมรู้สึกขอบคุณมากถ้าคนที่ไปศึกษากับผมเตรียมตัวมาก่อน เพราะสิ่งที่เขาพูดมันจะเป็นประโยชน์จริง ๆ” นอกจากนั้น นักศึกษาคงจะสังเกตว่าคุณสองคนเตรียมตัวมาดี และนี่จะทำให้เขาอยากเลียนแบบคุณ ถึงคุณจะไม่ค่อยมีเวลาเตรียมตัวอย่างละเอียด แต่อย่างน้อยให้คุณดูคร่าว ๆ ว่าอะไรเป็นจุดสำคัญก็ยังดี
8. คุณจะทำยังไงให้คำอธิษฐานของคุณมีผลกับนักศึกษาจริง ๆ?
8 การอธิษฐานเป็นส่วนสำคัญของการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล คุณควรคิดไว้ก่อนว่าจะพูดอะไรถ้าผู้นำการศึกษาขอให้คุณนำอธิษฐาน ถ้าคุณทำแบบนั้นคำอธิษฐานของคุณก็จะเข้าถึงหัวใจและมีผลกับนักศึกษามากกว่า (สด. 141:2) พี่น้องญี่ปุ่นที่ชื่อฮานาเอะยังจำคำอธิษฐานของพี่น้องที่มากับผู้นำการศึกษาของเธอได้ ฮานาเอะบอกว่า “พอฉันได้ฟังคำอธิษฐานของเธอ ฉันรู้เลยว่าเธอสนิทกับพระยะโฮวามาก และฉันก็อยากจะเป็นเหมือนเธอ เธอพูดชื่อของฉันในคำอธิษฐานด้วย มันทำให้ฉันรู้ว่าเธอรักฉันมากเลยค่ะ”
9. จากยากอบ 1:19 คุณจะช่วยผู้นำการศึกษาได้ยังไง?
9 ช่วยผู้นำการศึกษา โอมามูโยวีพี่น้องหญิงที่เป็นไพโอเนียร์พิเศษจากไนจีเรียบอกว่า “พี่น้องที่ไปด้วยจะช่วยได้มากเลยค่ะถ้าเขาตั้งใจฟังในช่วงที่เรากำลังศึกษากัน และคงจะดีถ้าเขาจะพูดออกความเห็นด้วยแต่ไม่มากเกินไป เพราะเขารู้ว่าคนที่มีหน้าที่นำการศึกษาก็คือผู้นำการศึกษา” แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าจะพูดอะไรและพูดเมื่อไหร่? (สภษ. 25:11) ขอให้คุณตั้งใจฟังตอนที่ผู้นำการศึกษากับนักศึกษาคุยกัน พอคุณทำแบบนั้น คุณก็จะรู้ว่าคุณจะพูดได้ตอนไหน (อ่านยากอบ 1:19) แต่คุณก็ต้องคิดก่อนพูดด้วย ตัวอย่างเช่น คุณต้องไม่พูดมากเกินไป ไม่พูดแทรกตอนที่ผู้นำการศึกษากำลังอธิบายอยู่ หรือไม่ชวนคุยเรื่องอื่น แต่คุณอาจจะพูดสั้น ๆ ใช้ตัวอย่างหรือคำถามเพื่อทำให้จุดที่กำลังคุยกันชัดเจนมากขึ้น บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าช่วยอะไรได้ไม่มากตอนที่กำลังศึกษา แต่แค่คุณชมนักศึกษาและแสดงว่าคุณสนใจเขาจริง ๆ คุณก็ช่วยให้เขาก้าวหน้าได้เหมือนกัน
10. ประสบการณ์ของคุณจะช่วยนักศึกษาของพี่น้องได้ยังไง?
10 เล่าประสบการณ์ของคุณ ถ้าคุณคิดว่าประสบการณ์ของคุณจะช่วยนักศึกษาได้ คุณก็อาจจะเล่าสั้น ๆ ให้เขาฟังว่าคุณเจอความจริงยังไง คุณเอาชนะปัญหาต่าง ๆ ได้ยังไง หรือคุณอาจจะเล่าให้เขาฟังว่าคุณเห็นพระยะโฮวาช่วยคุณยังไงบ้าง (สด. 78:4, 7) ประสบการณ์ของคุณอาจจะเป็นสิ่งที่นักศึกษาจำเป็นต้องได้ยินอยู่พอดี มันอาจจะช่วยให้เขามีความเชื่อที่เข้มแข็งขึ้น หรือเขาอาจจะได้กำลังใจที่จะก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นรับบัพติศมา หรือมันอาจจะช่วยให้เขารู้ว่าเขาจะเอาชนะปัญหาที่กำลังเจออยู่ตอนนั้นได้ยังไง (1 ปต. 5:9) กาเบรียลไพโอเนียร์จากบราซิลจำได้ว่าประสบการณ์ของพี่น้องช่วยเขาได้มากตอนที่เขายังเป็นนักศึกษา เขาเล่าว่า “ประสบการณ์ของพี่น้องช่วยให้ผมรู้ว่าพระยะโฮวาเห็นว่าเราต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง ถ้าพวกเขาเอาชนะมันได้ ผมก็เอาชนะได้เหมือนกัน”
ตอนที่นักศึกษามาประชุม
เราทุกคนสามารถให้กำลังใจนักศึกษาของพี่น้องให้อยากมาประชุมอีก (ดูข้อ 11)
11-12. ทำไมเราควรต้อนรับนักศึกษาของพี่น้องที่มาประชุม?
11 เพื่อนักศึกษาจะก้าวหน้าจนรับบัพติศมาได้ เขาต้องมาประชุมเป็นประจำ นี่จะช่วยเขาได้มากจริง ๆ (ฮบ. 10:24, 25) ปกติแล้วผู้นำการศึกษาจะเป็นคนชวนนักศึกษามาประชุมครั้งแรก แต่เราทุกคนก็สามารถช่วยเขาให้อยากมาประชุมกับเราอีก เราจะทำแบบนั้นได้ยังไง?
12 ต้อนรับนักศึกษาอย่างอบอุ่น (รม. 15:7) ถ้านักศึกษารู้สึกว่าตอนที่เขามาประชุมมีแต่คนต้อนรับเขา เขาก็อยากจะกลับมาประชุมกับเราอีก ขอคุณต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นแต่อย่าทำให้เขาอึดอัด แนะนำเขาให้รู้จักกับพี่น้องคนอื่นด้วย ขอคุณเข้าไปคุยกับเขา อย่าคิดว่าเดี๋ยวผู้นำการศึกษาก็จะดูแลเขาเอง ผู้นำการศึกษาของเขาอาจจะยังไม่มาหรือยุ่งกับงานมอบหมายอย่างอื่นที่หอประชุมอยู่ก็ได้ ตอนที่เขาพูดก็ให้คุณตั้งใจฟังเขาและทำให้เขาเห็นว่าคุณสนใจเขาจริง ๆ แล้วถ้าคุณต้อนรับนักศึกษาอย่างอบอุ่นแบบนี้ ผลจะเป็นยังไง? ขอให้สังเกตประสบการณ์ของพี่น้องดีมิทรีที่เพิ่งรับบัพติศมาได้ 2-3 ปีแต่ตอนนี้เป็นผู้ช่วยงานรับใช้แล้ว เขาพูดถึงวันที่เขามาประชุมวันแรกว่า “ตอนนั้นผมรออยู่ข้างนอกหอประชุม แล้วก็ทำตัวไม่ถูก พอพี่น้องคนนึงเห็นผม เขาก็รีบเข้ามาหาผมแล้วก็ชวนเข้าไปในหอประชุม พี่น้องคนอื่น ๆ ก็เข้ามาทักผม ผมไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะดีกับผมขนาดนี้ ผมชอบมากเลยครับ อยากให้มีประชุมแบบนี้ทุกวันเลย ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ที่ไหนมาก่อน”
13. ตัวอย่างที่ดีของคุณจะช่วยนักศึกษาของพี่น้องได้ยังไง?
13 เป็นตัวอย่างที่ดี ตัวอย่างที่ดีของคุณจะช่วยให้นักศึกษามั่นใจว่าสิ่งที่เขาเรียนเป็นความจริง (มธ. 5:16) วีทาลีไพโอเนียร์จากมอลโดวาพูดถึงตอนที่เขาเป็นนักศึกษาว่า “ตอนนั้นผมพยายามสังเกตว่าพี่น้องคิดกันยังไง พวกเขาทำอะไร ใช้ชีวิตแบบไหน มันทำให้ผมมั่นใจว่าพยานพระยะโฮวาเป็นศาสนาแท้”
14. ตัวอย่างของคุณจะช่วยให้นักศึกษาของพี่น้องก้าวหน้ามากขึ้นได้ยังไง?
14 ถ้านักศึกษาอยากจะรับบัพติศมา เขาต้องเอาสิ่งที่เรียนไปใช้ก่อน ถึงการทำแบบนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้านักศึกษาเห็นว่าคุณทำตามหลักการในคัมภีร์ไบเบิลแล้วคุณได้รับประโยชน์ยังไง เขาก็คงอยากเลียนแบบคุณ (1 คร. 11:1) ให้เรามาดูประสบการณ์ของฮานาเอะที่พูดถึงก่อนหน้านี้ เธอบอกว่า “ฉันไม่ได้เรียนแค่จากหนังสือเท่านั้น แต่ฉันได้เรียนจากตัวอย่างของพี่น้องด้วย ตัวอย่างของพวกเขาทำให้รู้ว่าฉันจะให้กำลังใจคนอื่นยังไง และฉันจะให้อภัยและแสดงความรักได้ยังไง เวลาพวกเขาพูดถึงคนอื่น พวกเขาก็พูดแต่เรื่องดี ๆ ของคนนั้น ฉันอยากเป็นเหมือนพวกเขาค่ะ”
15. เราจะเอาสุภาษิต 27:17 ไปใช้กับนักศึกษาของพี่น้องได้ยังไง?
15 เป็นเพื่อนกับนักศึกษา ถึงนักศึกษาของพี่น้องจะมาประชุมประจำแล้ว คุณก็ยังต้องทำให้นักศึกษาเห็นว่าคุณยังสนใจเขาอยู่ (ฟป. 2:4) ลองทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น คุณอาจจะชมเขาที่เขาก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงตัวเองบางอย่าง อาจจะถามเขาว่าเรียนคัมภีร์ไบเบิลเป็นยังไงบ้าง ถามเกี่ยวกับครอบครัวของเขาและเกี่ยวกับงานที่เขาทำ แต่คุณก็ต้องระวังที่จะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป การคุยกับเขาแบบนี้จะช่วยให้คุณสนิทกับเขามากขึ้น ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับเขา คุณก็จะช่วยให้เขาก้าวหน้าจนรับบัพติศมาได้ (อ่านสุภาษิต 27:17) ฮานาเอะที่ตอนนี้เป็นไพโอเนียร์ประจำคิดถึงตอนที่เธอมาประชุมครั้งแรก เธอเล่าว่า “พอฉันมีเพื่อนที่หอประชุม ฉันก็อยากมาประชุมมากเลยค่ะ ขนาดฉันเหนื่อยมาก ฉันก็ไม่ขาดประชุม ฉันชอบใช้เวลากับพวกเขา และมันยังช่วยให้ฉันเลิกคบกับเพื่อนเก่า ๆ ที่ไม่ได้เชื่อเหมือนกับฉันด้วย ฉันอยากจะสนิทกับพระยะโฮวาและกับพี่น้องมากขึ้น ฉันเลยตัดสินใจรับบัพติศมา”
16. คุณจะทำอะไรได้อีกเพื่อช่วยให้นักศึกษาของพี่น้องรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ในประชาคม?
16 ตอนที่นักศึกษาของพี่น้องก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณน่าจะพยายามช่วยนักศึกษาให้รู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของประชาคม วิธีหนึ่งก็คือ “แสดงน้ำใจต้อนรับแขก” (ฮบ. 13:2) เดนีสจากมอลโดวาพูดถึงช่วงที่เขายังเป็นนักศึกษาว่า “พี่น้องชวนผมกับภรรยาไปกินข้าวและไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง พอได้ยินประสบการณ์ของพวกเขาว่าพระยะโฮวาช่วยพวกเขายังไงบ้าง เราก็ได้กำลังใจมากเลย การได้ใช้เวลากับพี่น้องแบบนี้ มันทำให้ผมมั่นใจว่าผมอยากรับใช้พระยะโฮวาจริง ๆ และมั่นใจว่าเราจะมีชีวิตที่มีความสุขแน่ ๆ” พอนักศึกษาของพี่น้องเป็นผู้ประกาศ คุณก็ชวนเขาให้ไปรับใช้ด้วยกันกับคุณได้ จีเอโก้พี่น้องจากบราซิลพูดถึงตอนที่เขาเป็นนักศึกษาว่า “พี่น้องหลายคนชอบชวนผมไปประกาศด้วยกัน สำหรับผมแล้ว นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดเลยครับที่ผมจะรู้จักพวกเขา ผมได้เรียนจากพวกเขาหลายอย่าง และนี่ก็ทำให้ผมสนิทกับพระยะโฮวาและพระเยซูมากขึ้นด้วย”
ผู้ดูแลจะช่วยได้ยังไง?
ผู้ดูแล ถ้าคุณสนใจนักศึกษา คุณก็ช่วยให้เขาก้าวหน้าขึ้นได้ (ดูข้อ 17)
17. ผู้ดูแลจะช่วยนักศึกษาได้ยังไง?
17 ให้เวลากับนักศึกษา คุณเป็นผู้ดูแลไหม? ถ้าคุณสนใจและเป็นห่วงนักศึกษาของพี่น้องจริง ๆ คุณก็ช่วยเขาให้ก้าวหน้าจนถึงขั้นรับบัพติศมาได้ คุณน่าจะคุยกับนักศึกษาเป็นประจำตอนที่เขามาประชุม พยายามจำชื่อเขาให้ได้โดยเฉพาะตอนที่เขาเริ่มยกมือตอบ ถ้าคุณทำแบบนี้ เขาก็จะรับรู้ได้ว่าคุณสนใจเขาจริง ๆ อีกอย่างหนึ่งที่คุณทำได้ก็คือคุณน่าจะหาเวลาไปศึกษาด้วยกันกับพี่น้องบ่อย ๆ คุณอาจจะช่วยนักศึกษาได้มากกว่าที่คุณคิดซะอีก แจ็คกี้ไพโอเนียร์จากไนจีเรียบอกว่า “นักศึกษาของฉันหลายคนตกใจมากที่มารู้ทีหลังว่า คนที่ฉันพาไปด้วยคือผู้ดูแล มีนักศึกษาคนนึงบอกว่า ‘อาจารย์ที่โบสถ์ไม่มีทางทำแบบนี้หรอก เขาจะไปหาแต่คนรวย ๆ และก็คนที่จ่ายตังค์ให้เขาเท่านั้น’” ตอนนี้นักศึกษาคนนี้มาประชุมหลายครั้งแล้ว
18. ผู้ดูแลจะทำตามกิจการ 20:28 ได้ยังไง?
18 ฝึกพี่น้องที่เป็นผู้นำการศึกษาและให้กำลังใจเขา ผู้ดูแล คุณมีหน้าที่สำคัญที่จะช่วยพี่น้องให้ทำงานรับใช้ได้ดีขึ้น ซึ่งนี่รวมถึงการนำการศึกษาด้วย (อ่านกิจการ 20:28) ถ้ามีพี่น้องชวนคุณไปศึกษาด้วยกัน แต่เขาอายที่จะนำการศึกษา คุณอาจจะช่วยนำแทนเขาก็ได้ แจ็คกี้ที่พูดถึงก่อนหน้านี้บอกว่า “ผู้ดูแลชอบถามฉันบ่อย ๆ เรื่องนักศึกษา พอพวกเขารู้ว่าฉันต้องเจอกับปัญหาอะไร พวกเขาก็ให้คำแนะนำที่ช่วยฉันได้มากเลยค่ะ” นอกจากนั้น ผู้ดูแลยังทำอะไรได้หลายอย่างเพื่อให้กำลังใจผู้นำการศึกษาด้วย (1 ธส. 5:11) แจ็คกี้บอกว่า “ฉันชอบเวลาที่ผู้ดูแลให้กำลังใจและบอกว่าขอบคุณสำหรับงานหนักที่ฉันทำ มันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นเหมือนกับได้กินน้ำเย็น ๆ ในวันที่แดดร้อน ๆ คำชมของพวกเขาทำให้ฉันมีความสุขและมั่นใจมากขึ้นที่จะนำการศึกษา”—สภษ. 25:25
19. อะไรที่ทำให้เราทุกคนมีความสุข?
19 ถึงตอนนี้เราจะไม่มีนักศึกษา แต่เราก็ช่วยนักศึกษาของพี่น้องให้ก้าวหน้าจนถึงขั้นรับบัพติศมาได้ ให้เราเตรียมตัวอย่างดีก่อนจะไปศึกษาด้วยกันกับพี่น้อง และในช่วงศึกษา เราก็ช่วยพี่น้องได้แต่ไม่ต้องพูดเยอะเกินไป และตอนที่นักศึกษามาหอประชุม เราก็พยายามไปคุยกับเขา เป็นเพื่อนเขา และเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาด้วย ส่วนผู้ดูแลก็สามารถให้กำลังใจนักศึกษาโดยให้เวลากับเขา และผู้ดูแลยังให้กำลังใจผู้นำการศึกษาได้ด้วยโดยฝึกและชมพวกเขา คงมีไม่กี่อย่างที่จะทำให้เรามีความสุขมากไปกว่าการที่เราได้ช่วยคนหนึ่งให้มารักและรับใช้พระยะโฮวา ถึงแม้สิ่งที่เราทำจะเป็นส่วนเล็กน้อยก็ตาม
เพลง 79 สอนพวกเขาให้มีความเชื่อมั่นคง
a ไม่ใช่ทุกคนจะมีนักศึกษา แต่ทุกคนสามารถช่วยคนที่เรียนคัมภีร์ไบเบิลให้ก้าวหน้าจนรับบัพติศมาได้ ในบทความนี้จะมาดูว่าเราจะช่วยพวกเขาให้ก้าวหน้าจนถึงขั้นนั้นได้ยังไง