บทความศึกษา 13
เพลง 138 ผมหงอกที่สวยงาม
พระยะโฮวาทำได้ทุกอย่าง
“เจ้าคิดว่าพระยะโฮวาทำไม่ได้หรือ?”—กดว. 11:23
จุดสำคัญ
เพื่อช่วยให้เราไว้วางใจพระยะโฮวามากขึ้นว่าพระองค์จะคอยดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็นเสมอ
1. โมเสสแสดงให้เห็นยังไงว่าเขาวางใจในพระยะโฮวาตอนที่นำชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์?
หนังสือฮีบรูมีรายชื่อคนที่เป็นตัวอย่างในเรื่องความเชื่อ และโมเสสก็เป็นหนึ่งในนั้น (ฮบ. 3:2-5; 11:23-25) เขาแสดงความเชื่อตอนที่นำชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ เขาไม่ได้กลัวฟาโรห์กับกองทัพอียิปต์เลย แต่วางใจในพระยะโฮวาและนำชาติอิสราเอลผ่านทะเลแดง และหลังจากนั้นก็เข้าไปสู่ที่กันดาร (ฮบ. 11:27-29) ถึงแม้ว่าชาวอิสราเอลส่วนใหญ่เริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะดูแลพวกเขาได้ไหม แต่โมเสสก็ยังคงไว้วางใจในพระยะโฮวาอยู่เสมอ แล้วโมเสสก็ไม่ผิดหวังเลยเพราะพระยะโฮวาได้จัดเตรียมอาหารและน้ำอย่างอัศจรรย์เพื่อดูแลคนของพระองค์ในที่กันดารจริง ๆ a—อพย. 15:22-25; สด. 78:23-25
2. ทำไมพระยะโฮวาถึงถามโมเสสว่า “เจ้าคิดว่าพระยะโฮวาทำไม่ได้หรือ”? (กันดารวิถี 11:21-23)
2 ถึงแม้ว่าโมเสสมีความเชื่อเข้มแข็ง แต่ประมาณ 1 ปีหลังจากที่พระยะโฮวาช่วยชาติอิสราเอลให้รอดพ้นจากกองทัพอียิปต์อย่างอัศจรรย์ โมเสสก็เริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะหาเนื้อมาให้ประชาชนของพระองค์ได้จริง ๆ ไหม โมเสสนึกภาพไม่ออกว่าพระยะโฮวาจะไปหาเนื้อจากไหนมาให้ประชาชนเป็นล้าน ๆ ที่อยู่ในที่กันดาร พระยะโฮวาก็เลยถามโมเสสกลับว่า “เจ้าคิดว่าพระยะโฮวาทำไม่ได้หรือ?” (อ่านกันดารวิถี 11:21-23) ในข้อคัมภีร์นี้ ส่วนที่บอกว่า “ทำไม่ได้หรือ” ในต้นฉบับภาษาฮีบรูพูดถึง “มือของพระยะโฮวา” ซึ่งหมายถึงพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าที่ใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ ตามความประสงค์ของพระองค์ ดังนั้น การที่พระยะโฮวาพูดแบบนี้จึงเหมือนกับพระองค์กำลังถามโมเสสว่า ‘เจ้าคิดว่าเราไม่มีพลังมากพอที่จะทำสิ่งที่เราบอกว่าจะทำเหรอ?’
3. ทำไมเราต้องคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับโมเสสและชาวอิสราเอล?
3 คุณเคยสงสัยไหมว่าพระยะโฮวาจะดูแลคุณกับครอบครัวให้มีสิ่งจำเป็นได้หรือเปล่า? ไม่ว่าคุณจะเคยสงสัยเรื่องนี้หรือไม่ ให้เรามาดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับโมเสสและชาวอิสราเอลที่เริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะดูแลพวกเขาได้จริง ๆ ไหม และเราจะดูข้อคัมภีร์บางข้อที่จะช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าพระยะโฮวาทำได้ทุกอย่าง
เรียนจากโมเสสและชาวอิสราเอล
4. อะไรอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวอิสราเอลหลายคนเริ่มสงสัยว่าพระยะโฮวาจะดูแลพวกเขาได้จริง ๆ ไหม?
4 ให้เรามาดูท้องเรื่องด้วยกัน ตอนนั้นชาติอิสราเอลออกมาจากอียิปต์แล้วและอยู่ในที่กันดาร พวกเขาทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไปแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา “มีคนอื่น ๆ จำนวนมาก” เดินทางไปกับพวกเขาด้วย (อพย. 12:38; ฉธบ. 8:15) คนกลุ่มนี้เริ่มเบื่อมานาและทำให้ชาวอิสราเอลหลายคนเบื่อตามไปด้วย ทุกคนเลยพากันบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ (กดว. 11:4-6) พวกเขาพากันเรียกร้องจะเอาอาหารที่เคยกินตอนที่อยู่อียิปต์ โมเสสเองก็รู้สึกถูกกดดันมาก และดูเหมือนเขาคิดว่าเขาเองต้องเป็นคนที่ไปหาอาหารมาให้ประชาชนเหล่านี้กิน—กดว. 11:13, 14
5-6. เราได้เรียนอะไรจากการที่ชาวต่างชาติมีอิทธิพลกับชาวอิสราเอล?
5 ดูเหมือนว่าชาวอิสราเอลได้รับอิทธิพลจากคนต่างชาติที่ไม่เห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวาทำเพื่อพวกเขา ทุกวันนี้เราเองก็อาจได้รับอิทธิพลจากคนในโลกที่ไม่รู้จักขอบคุณ และเราอาจเริ่มไม่พอใจกับสิ่งที่พระยะโฮวาจัดเตรียมให้เรา เราอาจเริ่มคิดถึงสิ่งที่เราเคยมีหรือเริ่มอิจฉาสิ่งที่คนอื่นมี แต่ถ้าเรารู้จักพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เราจะมีความสุขมากกว่าไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นยังไงก็ตาม
6 ชาวอิสราเอลน่าจะจำไว้ว่าพระยะโฮวารับรองว่าพอพวกเขาไปถึงแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา พวกเขาจะได้รับสิ่งดี ๆ มากมายและมีความสุข แต่คำสัญญานี้จะเกิดขึ้นตอนที่พวกเขาไปถึงแผ่นดินนั้น ไม่ใช่ระหว่างที่อยู่ในที่กันดาร เหมือนกันแทนที่เราจะเอาแต่คิดว่าเรายังไม่มีอะไรบ้างในตอนนี้ เราน่าจะคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่พระยะโฮวาสัญญาว่าจะให้กับเราในโลกใหม่ และเรายังสามารถคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับข้อคัมภีร์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เราวางใจพระยะโฮวามากขึ้น
7. ทำไมเราถึงมั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาทำได้ทุกอย่าง?
7 แต่ถึงอย่างนั้นคุณอาจจะยังสงสัยว่าทำไมพระยะโฮวาถึงถามโมเสสว่า “เจ้าคิดว่าพระยะโฮวาทำไม่ได้หรือ?” พระยะโฮวาอาจกำลังช่วยให้โมเสสคิดถึง 2 อย่างคือ 1) พระองค์มีพลังอำนาจไม่จำกัด และ 2) พระองค์สามารถใช้พลังอำนาจของพระองค์ที่ไหนก็ได้ พระยะโฮวาสามารถหาเนื้อปริมาณมหาศาลมาให้กับประชาชนของพระองค์ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในที่กันดารที่ห่างไกลมาก พระองค์สามารถใช้ “อำนาจอันยิ่งใหญ่” ได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน (สด. 136:11, 12) ดังนั้น ถ้าเรากำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาสามารถช่วยเราแต่ละคนได้แน่นอนไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม—สด. 138:6, 7
8. เราจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนกับหลายคนที่อยู่ในที่กันดารได้ยังไง? (ดูภาพด้วย)
8 แล้วพระยะโฮวาก็จัดเตรียมเนื้อให้กับพวกเขาจริง ๆ พระองค์ให้มีนกคุ่มจำนวนมหาศาลมาที่ค่ายของชาวอิสราเอล แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้ขอบคุณพระยะโฮวาสำหรับการอัศจรรย์นี้เลย แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกเขาหลายคนกลับกลายเป็นคนโลภ พวกเขาออกไปจับนกคุ่มทั้งกลางวันและกลางคืน พระยะโฮวาโกรธคน “ที่ตะกละตะกลาม” เหล่านี้มาก แล้วพระองค์ก็ลงโทษพวกเขา (กดว. 11:31-34) สิ่งที่เราได้เรียนจากเรื่องนี้ก็คือ เราต้องระวังที่จะไม่กลายเป็นคนโลภ ไม่ว่าเราจะรวยหรือจนเราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการ “สะสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์” โดยการสนิทกับพระยะโฮวาและพระเยซู (มธ. 6:19, 20; ลก. 16:9) เมื่อเราทำอย่างนั้น เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะคอยดูแลเราเสมอ
หลังจากที่พระยะโฮวาให้นกคุ่มกับชาวอิสราเอลในที่กันดาร พวกเขาแสดงนิสัยยังไง? และเราได้เรียนอะไรจากเรื่องนี้? (ดูข้อ 8)
9. เรามั่นใจอะไรได้ในพระยะโฮวา?
9 พระยะโฮวาพร้อมจะดูแลคนของพระองค์ในทุกวันนี้ด้วย แต่นี่หมายความว่าเราจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินหรือจะไม่มีทางขาดแคลนอาหารเลยไหม?b ไม่ใช่ เรามั่นใจได้แน่นอนว่าพระยะโฮวาจะไม่มีวันทิ้งเรา พระองค์จะคอยช่วยเราให้รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้ แล้วเราจะแสดงยังไงว่าเรามั่นใจว่าพระยะโฮวาจะดูแลเรา? ให้เรามาดู 2 สถานการณ์ด้วยกันคือ (1) ตอนที่เรารับมือกับปัญหาเรื่องเงิน และ (2) ตอนที่เรากังวลว่าจะมีเงินใช้ไหมตอนที่อายุมาก
ตอนที่เรารับมือกับปัญหาเรื่องเงิน
10. อะไรอาจทำให้เราเจอปัญหาเรื่องเงิน?
10 ยิ่งจุดจบของโลกชั่วใกล้จะมาถึงมากเท่าไหร่ เราก็คาดหมายได้เลยว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะแย่ลงมากเท่านั้น ปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด อาจทำให้เรามีปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้เราตกงาน สูญเสียทรัพย์สิน หรือแม้แต่สูญเสียบ้านของเรา เมื่อเราเจอเหตุการณ์เหล่านี้ เราอาจต้องหางานใหม่ หรือแม้แต่อาจจะต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่นเพื่อจะหางานทำ แล้วอะไรจะช่วยให้เราตัดสินใจในแบบที่แสดงให้เห็นว่าเราไว้วางใจพระยะโฮวา?
11. มีอะไรที่ช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาเรื่องเงินได้? (ลูกา 12:29-31)
11 สิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้มากก็คือการอธิษฐานระบายความกังวลกับพระยะโฮวา (สภษ. 16:3) ให้อธิษฐานขอสติปัญญาจากพระยะโฮวาเพื่อจะช่วยให้คุณตัดสินใจในแบบที่ฉลาด และช่วยให้คุณมีความสงบใจเพื่อจะไม่ “กังวล” กับปัญหาของตัวเองมากเกินไป (อ่านลูกา 12:29-31) นอกจากนั้น ให้คุณอธิษฐานอ้อนวอนพระยะโฮวาช่วยให้คุณพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ (1 ทธ. 6:7, 8) คุณยังสามารถค้นคว้าคำแนะนำขององค์การที่ช่วยให้รับมือกับปัญหาเรื่องเงินได้ พี่น้องหลายคนได้ประโยชน์จากคำแนะนำเหล่านี้ที่มีอยู่ในเว็บไซต์ jw.org
12. เมื่อคริสเตียนต้องตัดสินใจในเรื่องที่มีผลกับครอบครัว เขาควรคิดถึงคำถามอะไรบ้าง?
12 พี่น้องบางคนตัดสินใจไปทำงานในที่ที่ห่างไกลจากครอบครัว แล้วตอนหลังก็มาคิดได้ว่าไม่น่าตัดสินใจแบบนั้นเลย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะทำงานอะไร แทนที่จะคิดถึงแต่ว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ คุณควรคิดว่างานนั้นจะส่งผลยังไงกับความสัมพันธ์ที่ครอบครัวของคุณมีต่อพระยะโฮวา (ลก. 14:28) ให้ถามตัวเองว่า ‘ถ้าฉันต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว สามีหรือภรรยาของฉันจะเป็นยังไง? งานนี้จะทำให้ฉันสามารถเข้าร่วมการประชุมได้ทุกรายการ เข้าร่วมในงานประกาศ หรือสามารถใช้เวลากับพี่น้องได้ไหม?’ และถ้าคุณมีลูกคุณก็ต้องถามตัวเองด้วยว่า ‘ฉันจะเลี้ยงลูก “ด้วยคำสั่งสอนและคำตักเตือนจากพระยะโฮวา” ได้ยังไงถ้าฉันไม่ได้อยู่กับลูก?’ (อฟ. 6:4) ขอให้คุณตัดสินใจในแบบที่สอดคล้องกับความคิดของพระยะโฮวา ไม่ใช่ตัดสินใจตามคำแนะนำของคนในครอบครัว ญาติ หรือเพื่อนที่ไม่ได้เอาหลักการในคัมภีร์ไบเบิลมาใช้c ให้เรามาดูประสบการณ์ของโทนี่ด้วยกัน โทนี่อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันตก มีคนมาเสนองานดี ๆ ให้กับเขาหลายงาน แต่เขาต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ โทนี่อธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้และคุยกับภรรยา แล้วเขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่รับข้อเสนอ แต่จะอยู่กับครอบครัวต่อไปและพยายามลดค่าใช้จ่ายลง เมื่อมองย้อนกลับไป โทนี่บอกว่า “การที่ผมตัดสินใจแบบนี้ทำให้ผมมีสิทธิพิเศษได้ช่วยหลายคนให้รู้จักพระยะโฮวาและได้มีโอกาสช่วยลูก ๆ ให้สนิทกับพระองค์ ครอบครัวของเราได้เรียนรู้ว่า ตราบใดที่เราทำตามคำแนะนำที่อยู่ในมัทธิว 6:33 พระยะโฮวาก็จะดูแลเราเสมอ”
ตอนที่เรากังวลว่าจะมีเงินใช้ไหมตอนอายุมาก
13. เราอาจทำอะไรได้บ้างตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่เราจะสามารถมีเงินใช้ตอนที่เราอายุมากขึ้น?
13 เรายังสามารถแสดงให้เห็นว่าเราไว้วางใจพระยะโฮวาตอนที่วางแผนว่าจะทำยังไงตอนอายุมาก คัมภีร์ไบเบิลสนับสนุนให้เราขยันทำงานเพื่อจะมีเงินใช้ในวันข้างหน้า (สภษ. 6:6-11) ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่มีเหตุผลที่เราจะวางแผนเก็บเงินไว้สำหรับอนาคตเท่าที่เราทำได้ เพราะเงินก็เป็นเครื่องป้องกันในระดับหนึ่ง (ปญจ. 7:12) แต่เราจะไม่ให้การหาเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต
14. ตอนที่เรากำลังวางแผนเรื่องเงิน ฮีบรู 13:5 ช่วยเรายังไง?
14 พระเยซูเล่าตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่องไม่ฉลาดที่จะตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินแต่ไม่สนใจที่จะ “ร่ำรวยในสายตาพระเจ้า” (ลก. 12:16-21) เหตุผลหนึ่งก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง (สภษ. 23:4, 5; ยก. 4:13-15) และพระเยซูยังบอกด้วยว่าเราทุกคนต้องพร้อมจะสละหรือ “ทิ้ง” ทรัพย์สมบัติของตัวเองเพื่อเป็นสาวกของท่าน (ลก. 14:33) เราเห็นเรื่องนี้ได้จากคริสเตียนในศตวรรษแรกที่อยู่ในยูเดียที่เต็มใจสูญเสียทรัพย์สมบัติของตัวเอง (ฮบ. 10:34) ในปัจจุบัน พี่น้องหลายคนยอมสละทรัพย์สินที่มีอยู่หรือแม้แต่ยอมตกงานเพราะไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง (วว. 13:16, 17) อะไรช่วยให้พวกเขาทำแบบนั้นได้? สิ่งที่ช่วยพวกเขาได้ก็คือ พวกเขามั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวาที่บอกว่า “เราจะไม่มีวันทิ้งเจ้า เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเลย” (อ่านฮีบรู 13:5) ดังนั้น แม้ว่าเราพยายามเต็มที่ที่จะวางแผนเรื่องเงินในอนาคต แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นกับเรา เราก็มั่นใจว่าพระยะโฮวาจะช่วยเราแน่นอน
15. พ่อแม่ที่เป็นคริสเตียนควรมองการมีลูกยังไง? (ดูภาพด้วย)
15 ในบางวัฒนธรรม สามีภรรยาจะคิดว่าต้องมีลูกเพื่อจะให้ลูกมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่ พวกเขามองว่าลูกเป็นสิ่งที่ต้องมีใน “แผนเกษียณ” ของพวกเขา แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพ่อแม่ต้องเป็นฝ่ายดูแลเอาใจใส่ความจำเป็นของลูก (2 คร. 12:14) แน่นอนว่าพ่อแม่อาจจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือบางอย่างจากลูกตอนที่พวกเขาแก่ตัวลง และลูกก็ยินดีที่จะดูแลพ่อแม่ (1 ทธ. 5:4) แต่พ่อแม่คริสเตียนรู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขมากที่สุดไม่ใช่การเลี้ยงลูกเพื่อให้ลูกมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่ แต่ความสุขของพวกเขามาจากการช่วยลูกให้ได้เป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวา—3 ยน. 4
สามีภรรยาคริสเตียนจะคิดถึงหลักการในคัมภีร์ไบเบิลเมื่อต้องตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา (ดูข้อ 15)d
16. พ่อแม่จะเตรียมลูกให้พร้อมที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้ยังไง? (เอเฟซัส 4:28)
16 ให้คุณสอนลูกโดยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขาในเรื่องการไว้วางใจพระยะโฮวาและช่วยลูกให้เตรียมตัวที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้เมื่อโตขึ้น สอนเขาตั้งแต่ยังเล็กให้เป็นคนขยันทำงาน (สภษ. 29:21; อ่านเอเฟซัส 4:28) แล้วเมื่อลูกเริ่มโตขึ้น ก็สอนเขาให้ตั้งใจเรียน พ่อแม่สามารถค้นคว้าหลักการในคัมภีร์ไบเบิลและเอามาช่วยลูกให้ตัดสินใจว่าเขาควรเรียนอะไร นี่จะช่วยให้ลูกพร้อมจะหาเลี้ยงตัวเองได้และสามารถทำงานรับใช้ได้มากขึ้น
17. เรามั่นใจในเรื่องอะไรได้?
17 ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวามั่นใจได้เลยว่าพระองค์จะดูแลพวกเขาให้มีสิ่งจำเป็นแน่นอนและพระองค์อยากช่วยพวกเขาจริง ๆ ยิ่งจุดจบของโลกนี้ใกล้เข้ามา เราก็ยิ่งต้องวางใจในพระยะโฮวามากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เราวางใจว่าพระยะโฮวาสามารถใช้พลังอำนาจของพระองค์เพื่อดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็นได้เสมอ เรามั่นใจได้แน่นอนว่าพระยะโฮวาสามารถทำได้ทุกอย่างและพระองค์สามารถช่วยเราได้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน
เพลง 150 ขอให้มาหาพระเจ้าเพื่อจะรอด
a ดู “คำถามจากผู้อ่าน” ในหอสังเกตการณ์ เดือนตุลาคม 2023
b ดู “คำถามจากผู้อ่าน” ในหอสังเกตการณ์ 15 กันยายน 2014
c ดูบทความ “ไม่มีใครเป็นทาสของนายสองคนได้” ในหอสังเกตการณ์ 15 เมษายน 2014
d คำอธิบายภาพ สามีภรรยาคริสเตียนคุยกับลูกสาวของพวกเขาที่รับใช้ในโครงการก่อสร้างหอประชุมกับสามี