บทความศึกษา 17
พระยะโฮวาจะช่วยคุณรับมือกับความไม่แน่นอนของชีวิต
“คนทำดีเจอความลำบากหลายอย่าง แต่พระยะโฮวาจะช่วยเขาให้ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้”—สด. 34:19
เพลง 44 คำอธิษฐานของคนทุกข์ใจ
ใจความสำคัญa
1. เรามั่นใจได้ในเรื่องอะไร?
เราเป็นคนของพระยะโฮวา เรารู้ดีว่าพระองค์รักเรามากและพระองค์อยากให้เรามีชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด (รม. 8:35-39) และเรายังมั่นใจด้วยว่าถ้าเราเอาหลักการในคัมภีร์ไบเบิลไปใช้ เราก็จะได้ประโยชน์ (อสย. 48:17, 18) แต่ถ้าเราเจอปัญหาแบบไม่คาดคิดล่ะ เราควรทำยังไง?
2. เราอาจเจอปัญหาอะไรบ้าง? และตอนที่เราเจอปัญหา มันอาจทำให้เราสงสัยอะไร?
2 แม้เราจะเป็นผู้รับใช้พระยะโฮวา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เจอปัญหา เช่น บางคนในครอบครัวอาจทำให้เราผิดหวัง เราอาจมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่ทำให้เรารับใช้พระยะโฮวาไม่ได้เหมือนที่เคยทำ เราอาจเจอภัยธรรมชาติหรือถูกข่มเหง ตอนที่เราเจอปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เราอาจสงสัยว่า ‘ทำไมฉันต้องเจอแบบนี้? มันเป็นเพราะฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า? ที่ฉันต้องเจอปัญหาเป็นเพราะพระยะโฮวาไม่อวยพรฉันไหม?’ คุณเองเคยสงสัยแบบนี้บ้างไหม? ถ้าใช่ ก็อย่าเพิ่งท้อ ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหลายคนเคยรู้สึกแบบคุณมาแล้ว—สด. 22:1, 2; ฮบก. 1:2, 3
3. เราได้เรียนอะไรจากสดุดี 34:19?
3 อ่านสดุดี 34:19 ให้เรามาดูจุดสำคัญ 2 อย่างที่เราได้จากสดุดีข้อนี้ (1) ถึงจะเป็นคนดี ชีวิตก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา (2) พระยะโฮวาจะช่วยเราให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ แล้วพระองค์จะช่วยเรายังไง? วิธีหนึ่งก็คือพระองค์ช่วยเราให้มองชีวิตตามความเป็นจริง แม้พระยะโฮวาสัญญาว่าเราจะมีความสุขในการรับใช้แต่พระองค์ก็ไม่ได้รับประกันว่าชีวิตเราจะไม่มีปัญหา (อสย. 66:14) พระยะโฮวาอยากให้เราสนใจที่อนาคตคือตอนที่เราจะมีชีวิตตลอดไปและมีความสุขอย่างที่พระองค์อยากให้เราเป็น (2 คร. 4:16-18) แต่ตอนนี้พระยะโฮวาก็ยังช่วยเรารับมือกับปัญหาเป็นวัน ๆ ไป และรับใช้พระองค์ต่อไปได้—พคค. 3:22-24
4. เราจะคุยเรื่องอะไรบ้างในบทความนี้?
4 ให้เรามาดูกันว่าเราจะได้เรียนอะไรจากตัวอย่างของผู้รับใช้พระยะโฮวาทั้งในสมัยคัมภีร์ไบเบิลและสมัยปัจจุบัน และเราจะได้เห็นว่าเราอาจเจอปัญหาโดยที่เราไม่คาดคิดก็ได้ แต่ถ้าเราพึ่งพระยะโฮวาเสมอ พระองค์จะช่วยเราแน่นอน (สด. 55:22) และเมื่อเราดูตัวอย่างของผู้รับใช้เหล่านี้ ให้เราถามตัวเองว่า ‘ฉันจะทำยังไงถ้าฉันเจอแบบพวกเขา? ตัวอย่างของพวกเขาช่วยฉันยังไงให้ไว้ใจพระยะโฮวามากขึ้น? และฉันจะเอาบทเรียนที่ได้มาใช้ในชีวิตของฉันยังไง?’
สมัยคัมภีร์ไบเบิล
พระยะโฮวาอวยพรยาโคบตลอด 20 ปีที่เขาทำงานให้ลาบันลุงของเขา แม้ลุงจะโกงเขามาตลอด (ดูข้อ 5)
5. ลาบันทำให้ชีวิตของยาโคบมีปัญหาอะไรบ้าง? (ดูภาพหน้าปก)
5 ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล ผู้รับใช้พระยะโฮวาหลายคนก็เจอปัญหาในชีวิตโดยที่พวกเขาไม่คาดคิด ให้เรามาดูตัวอย่างของยาโคบด้วยกัน อิสอัคพ่อของยาโคบบอกให้เขาไปหาลาบันเพื่อไปขอลูกสาวของลาบันเป็นภรรยาเพราะลาบันก็นับถือพระยะโฮวาเหมือนกัน และอิสอัคยังรับรองว่าพระยะโฮวาจะอวยพรถ้ายาโคบทำตามคำแนะนำ (ปฐก. 28:1-4) ยาโคบก็เลยออกจากแผ่นดินคานาอันและเดินทางไปที่บ้านของลาบันซึ่งมีลูกสาว 2 คนคือเลอากับราเชล ยาโคบตกหลุมรักราเชลซึ่งเป็นคนน้อง เขาได้ตกลงกับลาบันว่าจะทำงาน 7 ปีเพื่อจะได้แต่งงานกับราเชล (ปฐก. 29:18) แต่เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ยาโคบคิดไว้ ลาบันหลอกเขาทำให้เขาต้องแต่งงานกับเลอาซึ่งเป็นคนพี่ และถึงลาบันจะให้ยาโคบได้แต่งงานกับราเชลในสัปดาห์ต่อมา แต่ยาโคบก็ต้องทำงานให้ลาบันอีก 7 ปี (ปฐก. 29:25-27) และไม่ใช่แค่นั้น ลาบันยังโกงยาโคบในเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจด้วย รวมแล้วลาบันเอาเปรียบยาโคบนานถึง 20 ปี—ปฐก. 31:41, 42
6. ยาโคบยังเจอปัญหาอะไรอีก?
6 นอกจากนั้น ยาโคบยังต้องอดทนกับปัญหาอื่น ๆ ด้วย ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวใหญ่ ลูก ๆ ก็ไม่ค่อยถูกกัน พวกพี่ ๆ ถึงกับขายโยเซฟน้องชายของตัวเองไปเป็นทาส แถมลูกชาย 2 คนของยาโคบคือสิเมโอนกับเลวีก็ทำให้ครอบครัวขายหน้าและทำให้พระยะโฮวาเสียชื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ราเชลภรรยาที่ยาโคบรักก็ตายตอนที่คลอดลูกชายคนที่ 2 มิหนำซ้ำตอนที่เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ยาโคบก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อียิปต์ทั้งที่ตัวเองอายุมากแล้ว—ปฐก. 34:30; 35:16-19; 37:28; 45:9-11, 28
7. พระยะโฮวาทำให้ยาโคบเห็นยังไงว่าพระองค์ยังรักเขาเสมอ?
7 ถึงยาโคบจะเจอแต่ปัญหาเข้ามาไม่หยุดหย่อน แต่เขาก็ยังเชื่อในพระยะโฮวาและคำสัญญาของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง และพระยะโฮวาก็ทำให้ยาโคบเห็นว่าพระองค์ยังรักเขาเสมอ เช่น แม้ยาโคบจะโดนโกง แต่พระองค์ก็อวยพรให้เขามีทรัพย์สมบัติเยอะขึ้นเรื่อย ๆ และลองนึกดูว่ายาโคบจะขอบคุณพระยะโฮวาขนาดไหนที่ได้มีโอกาสเจอกับโยเซฟลูกชายที่เขาคิดว่าตายไปนานแล้ว การที่ยาโคบสนิทกับพระยะโฮวาทำให้เขาสามารถรับมือกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตได้ (ปฐก. 30:43; 32:9, 10; 46:28-30) ดังนั้น ถ้าเราสนิทกับพระยะโฮวาเสมอ ถึงจะเจอปัญหาโดยไม่คาดคิด เราก็จะรับมือได้แน่นอน
8. กษัตริย์ดาวิดอยากทำอะไร?
8 กษัตริย์ดาวิดอยากทำอะไรหลายอย่างเพื่อรับใช้พระยะโฮวา แต่เขาก็ไม่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างที่หวังไว้ เช่น ดาวิดอยากสร้างวิหารเพื่อพระยะโฮวามาก ๆ เขาเลยไปคุยกับผู้พยากรณ์นาธันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนาธันก็บอกว่า “เชิญท่านทำตามที่ต้องการเถอะ เพราะพระเจ้าเที่ยงแท้อยู่กับท่านแล้ว” (1 พศ. 17:1, 2) เราคงนึกออกว่าคำพูดนี้คงต้องทำให้ดาวิดได้กำลังใจขนาดไหน เขาอาจถึงกับเริ่มวางแผนทำโครงการใหญ่นี้ทันที
9. ดาวิดทำยังไงหลังจากที่เขาได้ยินข่าวที่ทำให้ผิดหวัง?
9 แต่ “คืนนั้น” พระยะโฮวาสั่งให้นาธันไปบอกดาวิดว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนสร้างวิหารให้พระองค์ แต่จะเป็นลูกชายคนหนึ่งของเขาที่ได้ทำงานนี้ (1 พศ. 17:3, 4, 11, 12) ดาวิดผิดหวังมาก แล้วเขาทำยังไง? เขาเปลี่ยนเป้าหมายทันที เขาเตรียมการเพื่อจะช่วยโซโลมอนสร้างวิหารโดยรวบรวมเงินทองและวัสดุต่าง ๆ เพื่อช่วยโครงการนี้—1 พศ. 29:1-5
10. พระยะโฮวาอวยพรดาวิดยังไง?
10 หลังจากที่พระยะโฮวาบอกดาวิดไปแล้วว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนสร้างวิหารให้พระองค์ พระยะโฮวาก็ทำสัญญากับดาวิดทันทีว่าลูกหลานคนหนึ่งของเขาจะได้เป็นกษัตริย์ตลอดไป (2 ซม. 7:16) ลองนึกดูสิว่าเมื่อดาวิดฟื้นขึ้นมาในโลกใหม่ เขาจะดีใจขนาดไหนที่ได้รู้ว่ากษัตริย์ที่ปกครองเขาในช่วง 1,000 ปีคือพระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นลูกหลานของเขา นี่ช่วยให้เราเห็นว่าถึงแม้ว่าเราไม่สามารถทำทุกอย่างในงานรับใช้ของพระยะโฮวาอย่างที่เราหวังไว้ แต่พระองค์ก็อาจให้สิ่งดี ๆ อย่างอื่นกับเราในแบบที่เราไม่คาดคิด
11. แม้รัฐบาลของพระเจ้ายังไม่มาอย่างที่คริสเตียนในยุคแรกหวังไว้ แต่พวกเขาได้รับพรอะไรจากพระเจ้า? (กิจการ 6:7)
11 คริสเตียนยุคแรก คริสเตียนในยุคแรกก็ต้องเจอกับความไม่แน่นอนของชีวิตเหมือนกัน เช่น พวกเขารอที่จะให้รัฐบาลของพระเจ้ามา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ (กจ. 1:6, 7) แล้วพวกเขาทำอะไรระหว่างที่รอ? พวกเขาทุ่มเทให้กับงานประกาศ และพอเห็นว่าข่าวดีแพร่ออกไป พวกเขาก็รู้เลยว่าพระยะโฮวาช่วยพวกเขาอยู่—อ่านกิจการ 6:7
12. คริสเตียนในยุคแรกทำยังไงเมื่อเกิดการขาดแคลนอาหาร?
12 แล้วก็เกิดการขาดแคลนอาหาร “ทั่วโลก” ซึ่งคริสเตียนยุคแรกก็ได้รับผลกระทบด้วย (กจ. 11:28) ลองนึกดูว่าพวกเขาจะลำบากกันขนาดไหน คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องกังวลแน่ ๆ ว่าจะทำยังไงให้ครอบครัวมีอาหารพอกิน แล้ววัยรุ่นที่คิดจะทำงานรับใช้มากขึ้นล่ะ พวกเขารู้สึกไหมว่าต้องเลื่อนแผนนี้ออกไปก่อน? แต่ไม่ว่าคริสเตียนยุคแรกจะเจอความยากลำบากอะไร พวกเขาก็พร้อมจะปรับตัว พวกเขายังคงประกาศต่อไปเท่าที่ทำได้ และเต็มใจแบ่งสิ่งที่พวกเขามีให้เพื่อนร่วมความเชื่อในแคว้นยูเดีย—กจ. 11:29, 30
13. ในช่วงขาดแคลนอาหาร คริสเตียนในยุคแรกได้รับพรจากพระยะโฮวายังไง?
13 ในช่วงขาดแคลนอาหาร พระยะโฮวายังคงอวยพรคริสเตียนในยุคแรกยังไง? พี่น้องที่ได้รับสิ่งของบรรเทาทุกข์เห็นเลยว่าพระยะโฮวาช่วยพวกเขาจริง ๆ (มธ. 6:31-33) และพวกเขาคงต้องเห็นค่าและสนิทกับเพื่อนร่วมความเชื่อที่มาช่วยพวกเขาแน่นอน ส่วนคนที่บริจาคหรือคนที่มีส่วนร่วมในงานบรรเทาทุกข์ก็มีความสุขที่ได้ให้ (กจ. 20:35) พระยะโฮวาอวยพรพวกเขาทุกคนที่พยายามปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
14. เกิดอะไรขึ้นกับเปาโลและบาร์นาบัส? และผลเป็นยังไง? (กิจการ 14:21, 22)
14 คริสเตียนในยุคแรกเจอการข่มเหงบ่อย ๆ ซึ่งบางครั้งเป็นตอนที่พวกเขาไม่คิดว่าจะเจอแบบนั้น ให้เราดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปาโลและบาร์นาบัสตอนที่พวกเขาประกาศอยู่ที่เมืองลิสตรา ตอนแรกคนในเมืองนั้นต้อนรับเปาโลกับบาร์นาบัสอย่างดี แต่หลังจากนั้นมีบางคนมา “ยุยงฝูงชน” ให้ต่อต้านเปาโล เลยทำให้บางคนในเมืองนั้นที่ตอนแรกต้อนรับเปาโลถึงกับเอาหินขว้างและปล่อยให้เขาตาย (กจ. 14:19) ถึงจะเป็นอย่างนั้น เปาโลกับบาร์นาบัสก็ยังคงประกาศต่อไปในเมืองอื่น แล้วผลเป็นยังไง? พวกเขาสามารถช่วย “หลายคน” ให้เข้ามาเป็นสาวกได้ และตัวอย่างกับคำพูดของพวกเขาก็ทำให้คริสเตียนคนอื่นได้กำลังใจ (อ่านกิจการ 14:21, 22) การที่เปาโลกับบาร์นาบัสไม่ยอมแพ้และไม่ทิ้งงานรับใช้ตอนที่ถูกข่มเหงทำให้หลายคนได้ประโยชน์จริง ๆ ดังนั้น ถ้าเรายังคงรับใช้พระยะโฮวาต่อ ๆ ไปและไม่ยอมแพ้ เราจะได้รับพรแน่นอน
สมัยของเรา
15. คุณได้เรียนอะไรจากตัวอย่างของพี่น้องแมกมิลแลน?
15 ช่วงก่อนปี 1914 คนของพระยะโฮวาตั้งตารอคอยบางอย่าง เช่น พี่น้องเอ. เอช. แมกมิลแลนกับพี่น้องหลายคนในสมัยนั้นมั่นใจว่าอีกไม่นานพวกเขาจะได้ไปสวรรค์ พี่น้องแมกมิลแลนพูดประโยคหนึ่งในคำบรรยายเดือนกันยายนปี 1914 ว่า “นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้บรรยายสาธารณะ” แต่ปรากฏว่าคำบรรยายนั้นไม่ใช่คำบรรยายสุดท้ายของเขา พี่น้องแมกมิลแลนเขียนในเวลาต่อมาว่า “พวกเราบางคนอาจรีบสรุปเกินไปว่ากำลังจะได้ไปสวรรค์ ที่จริง สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราก็คือการทุ่มเทให้กับงานของผู้เป็นนาย” พี่น้องแมกมิลแลนทุ่มเททำงานรับใช้จริง ๆ เขาขยันประกาศมาก เขายังให้กำลังใจพี่น้องหลายคนที่ติดคุกเพราะรักษาความเป็นกลางด้วย นอกจากนั้น เขาเข้าร่วมการประชุมเสมอไม่ขาดแม้แต่ตอนที่เขาแก่มากแล้ว พี่น้องแมกมิลแลนได้ประโยชน์อะไรจากการขยันทำงานรับใช้ระหว่างที่รอให้ความหวังเป็นจริง? เขาได้เขียนไว้ไม่นานก่อนที่เขาจะตายในปี 1966 ว่า “จนถึงตอนนี้ความเชื่อของผมก็ยังคงเข้มแข็งเหมือนที่ผ่านมา และมันไม่เคยลดน้อยลงเลย” เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเราทุกคนจริง ๆ โดยเฉพาะตอนที่เรารู้สึกว่าเราอดทนรอนานกว่าที่คิดไว้—ฮบ. 13:7
16. พี่น้องเฮอร์เบิร์ต เจนนิงส์กับภรรยาเจอปัญหาอะไรที่ไม่คาดคิด? (ยากอบ 4:14)
16 คนของพระยะโฮวาหลายคนต้องเจอปัญหาสุขภาพแบบไม่ทันตั้งตัว เช่น ในบทความเรื่องราวชีวิตจริงของพี่น้องเฮอร์เบิร์ต เจนนิงส์b เขาเล่าว่าเขากับภรรยามีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เป็นมิชชันนารีในประเทศกานา แต่อยู่ดี ๆ วันหนึ่งเขาก็เป็นโรคร้ายที่เกี่ยวกับอารมณ์ พี่น้องเจนนิงส์ยกข้อความจากยากอบ 4:14 ขึ้นมาแล้วบอกว่าสิ่งที่เขาต้องเจอเป็นเหมือน “‘วันพรุ่งนี้’ ที่เราไม่ได้คาดคิด” (อ่าน) เขาพูดต่อไปว่า “เพื่อเผชิญความเป็นจริง เราเตรียมอำลาจากประเทศกานา รวมถึงเพื่อนฝูงที่เราสนิทสนม และกลับประเทศแคนาดา [เพื่อไปรักษา]” พระยะโฮวาช่วยพี่น้องเจนนิงส์กับภรรยาให้รับใช้อย่างซื่อสัตย์ต่อไปได้ถึงแม้พวกเขาต้องเจอปัญหาที่หนักมาก
17. ประสบการณ์ของพี่น้องเจนนิงส์มีประโยชน์ยังไงกับพี่น้องคนอื่น?
17 ตัวอย่างของพี่น้องเจนนิงส์และคำพูดของเขาในบทความเรื่องราวชีวิตจริงช่วยพี่น้องหลายคนได้มากจริง ๆ พี่น้องหญิงคนหนึ่งเขียนมาว่า “ไม่มีบทความใดทำให้ดิฉันซาบซึ้งใจมากเท่ากับบทความนี้ . . . เมื่อได้อ่านว่าบราเดอร์เจนนิงส์ต้องถอนตัวจากงานมอบหมายของเขาเพื่อรักษาอาการป่วย ดิฉันก็มองสถานการณ์ของตนเองอย่างสมดุล” พี่น้องชายอีกคนหนึ่งก็รู้สึกคล้ายกัน เขาบอกว่า “หลังจากรับใช้เป็นผู้ปกครองในประชาคมมาสิบปี ผมก็ต้องสละสิทธิพิเศษนั้นเนื่องจากมีอาการป่วยทางจิต ผมรู้สึกล้มเหลวมากถึงขนาดที่บ่อยครั้งผมไม่สามารถจะอ่านเรื่องราวชีวิตจริง . . . แต่ความพากเพียรของบราเดอร์เจนนิงส์ทำให้ผมมีกำลังใจ” เรื่องราวเหล่านี้เตือนเราว่าตอนที่เราอดทนกับปัญหาที่ไม่คาดคิด เราก็สามารถทำให้พี่น้องได้กำลังใจ ถึงชีวิตจะไม่เป็นอย่างที่เราหวังไว้ แต่เราก็ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นในเรื่องความเชื่อและความอดทนได้—1 ปต. 5:9
ถ้าเราไว้ใจพระยะโฮวา การที่เราเจอปัญหาที่ไม่คาดคิดจะทำให้เราสนิทกับพระองค์มากขึ้นได้ (ดูข้อ 18)
18. อย่างที่เห็นในภาพสมมุติ คุณได้เรียนอะไรจากตัวอย่างของแม่ม่ายในไนจีเรีย?
18 คนของพระยะโฮวาต้องเจอกับภัยพิบัติด้วย เช่น โรคระบาดโควิด-19 ให้เรามาดูประสบการณ์ของพี่น้องที่เป็นแม่ม่ายในไนจีเรีย เธอแทบไม่มีเงินกับอาหารเหลืออยู่เลย เช้าวันหนึ่งลูกสาวบอกเธอว่าตอนนี้พวกเขาเหลือข้าวแค่ถ้วยเดียว ถ้ามื้อนี้กินหมด มื้อต่อไปก็จะไม่มีอะไรกินแล้ว แม่ก็บอกลูกสาวว่าถึงจะไม่มีเงินหรืออาหารเหลือแล้ว แต่พวกเขาก็ควรเลียนแบบแม่ม่ายเมืองศาเรฟัทที่ทำอาหารมื้อสุดท้าย แล้วไว้ใจพระยะโฮวาเต็มร้อยว่าพระองค์จะดูแล (1 พก. 17:8-16) ก่อนที่แม่ลูกคู่นี้จะคิดว่ามื้อเที่ยงจะไปหาอาหารที่ไหนมากิน พวกเขาก็ได้รับสิ่งของบรรเทาทุกข์จากพี่น้องซึ่งมีอาหารที่ทำให้พวกเขาอยู่กันได้มากกว่า 2 อาทิตย์ คนที่เป็นแม่บอกว่าเธอไม่เคยคิดเลยว่าพระยะโฮวาจะตั้งใจฟังเธอคุยกับลูกขนาดนี้ เราเห็นว่าถ้าเราไว้ใจพระยะโฮวา การที่เราเจอปัญหาที่ไม่คาดคิดจะทำให้เราสนิทกับพระองค์มากขึ้นได้—1 ปต. 5:6, 7
19. พี่น้องอะเลคเซย์ เยียร์ชอฟเจอการข่มเหงอะไร?
19 ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พี่น้องของเราหลายคนต้องเจอการข่มเหงอย่างที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องอะเลคเซย์ เยียร์ชอฟที่อยู่ในรัสเซีย ตอนที่พี่น้องอะเลคเซย์รับบัพติศมาในปี 1994 พยานฯ ในแถบที่เขาอยู่มีอิสระที่จะนมัสการพระยะโฮวาอยู่บ้าง แต่ต่อมาสถานการณ์ในรัสเซียก็เปลี่ยนไป ในปี 2020 บ้านของพี่น้องอะเลคเซย์ถูกค้นและข้าวของหลายอย่างของเขาถูกยึด หลายเดือนต่อมา เขาก็ถูกตั้งข้อหาคดีอาญา ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะมีคนหนึ่งที่แกล้งทำเป็นสนใจและเรียนคัมภีร์ไบเบิลมาปีกว่าแอบถ่ายคลิปวีดีโอแล้วส่งให้ตำรวจ ผู้ชายคนนี้ทรยศหักหลังแบบนี้ได้ยังไง!
20. พี่น้องอะเลคเซย์สนิทกับพระยะโฮวามากขึ้นได้ยังไง?
20 การที่พี่น้องอะเลคเซย์ถูกข่มเหงทำให้เกิดผลดีอะไรบ้างไหม? พี่น้องอะเลคเซย์สนิทกับพระยะโฮวามากขึ้น เขาบอกว่า “ผมอธิษฐานด้วยกันกับภรรยาบ่อยขึ้น ผมรู้ว่าผมไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ถ้าพระยะโฮวาไม่ช่วย” เขายังบอกอีกว่า “การศึกษาส่วนตัวช่วยให้ผมรับมือกับความท้อแท้ได้ ผมคิดใคร่ครวญถึงตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ในอดีต มีหลายเรื่องในคัมภีร์ไบเบิลที่ทำให้รู้ว่าเราต้องมีใจสงบและวางใจพระยะโฮวา”
21. เราได้เรียนอะไรบ้างในบทความนี้?
21 เราได้เรียนอะไรบ้างในบทความนี้? ชีวิตเราไม่แน่นอนและเราอาจเจอปัญหาในแบบที่ไม่คาดคิด ถึงจะเป็นอย่างนั้น พระยะโฮวาจะช่วยผู้รับใช้ของพระองค์แน่นอนถ้าพวกเขาไว้ใจและพึ่งพระองค์ ข้อคัมภีร์หลักของบทความนี้บอกว่า “คนทำดีเจอความลำบากหลายอย่าง แต่พระยะโฮวาจะช่วยเขาให้ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้” (สด. 34:19) ขอให้เราพยายามคิดถึงพลังอำนาจของพระยะโฮวาที่จะช่วยเราได้ ไม่ใช่เอาแต่คิดถึงความลำบากที่เราเจอ ถ้าเราทำอย่างนั้น เราจะพูดได้เหมือนกับเปาโลที่บอกว่า “ผมมีกำลังทนได้ทุกสิ่งเพราะพระองค์ให้กำลังกับผม”—ฟป. 4:13
เพลง 38 พระองค์จะทำให้คุณเข้มแข็ง
a แม้ในทุกวันนี้เราอาจเจอปัญหาแบบที่ไม่คาดคิดและชีวิตเราไม่แน่นอน แต่เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะช่วยผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ทุกคน พระยะโฮวาเคยช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ในอดีตมาแล้วยังไง? และพระองค์กำลังช่วยเราในทุกวันนี้ยังไง? ให้เรามาดูตัวอย่างจากคัมภีร์ไบเบิลและตัวอย่างในปัจจุบันที่จะช่วยให้เรามั่นใจว่าถ้าเราพึ่งพระยะโฮวา พระองค์ก็จะช่วยเราด้วย
b ดูหอสังเกตการณ์ 1 ธันวาคม 2000 หน้า 24-28