บทความศึกษา 31
เพลง 111 เหตุผลที่เรายินดี
“เรียนรู้เคล็ดลับ”ที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่
“ผมได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม”—ฟป. 4:11
จุดสำคัญ
เรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่โดยเป็นคนรู้จักเห็นค่า ถ่อมตัว และคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับความหวังในอนาคต
1. การเป็นคนพอใจในสิ่งที่มีอยู่หมายถึงอะไรและไม่ได้หมายถึงอะไร?
คุณพอใจในสิ่งที่มีอยู่ไหม? คนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่จะมีความสุขและมีความสงบใจเพราะเขาสนใจและเห็นค่ากับสิ่งดี ๆ ที่ตัวเองมีอยู่ในตอนนี้ เขาจะไม่รู้สึกแย่หรือโกรธที่ตัวเองไม่มีบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น การพอใจในสิ่งที่มีอยู่ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะอยู่เฉย ๆ และไม่ออกความพยายามทำอะไรเลย เช่น ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะพยายามทำงานรับใช้พระยะโฮวามากขึ้น (รม. 12:1; 1 ทธ. 3:1) แต่ถ้าเราเป็นคนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ถึงแม้เราจะยังไม่ได้สิทธิพิเศษในงานรับใช้เร็วอย่างที่เราอยากได้ เราก็ยังคงมีความสุขได้
2. ทำไมการไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีถึงเป็นเรื่องอันตรายมาก?
2 การไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอาจทำให้เกิดผลเสียร้ายแรง เช่น คนที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอาจทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อจะมีเงินซื้อสิ่งที่จริง ๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องมี และน่าเศร้า พี่น้องบางคนถึงกับขโมยเงินหรือสิ่งของอื่น ๆ ที่เขาอยากได้ เขาอาจคิดว่า ‘มันควรจะเป็นของฉัน’ ‘ฉันต้องการมันเดี๋ยวนี้’ หรือ ‘ฉันขอยืมเงินก้อนนี้ไปก่อน เดี๋ยวจะเอามาคืนทีหลัง’ แต่ไม่ว่าจะเป็นการขโมยในรูปแบบไหน มันก็ทำให้พระยะโฮวาไม่พอใจและทำให้ชื่อเสียงของพระองค์เสื่อมเสีย (สภษ. 30:9) ส่วนบางคนอาจรู้สึกท้อใจมากที่ไม่ได้รับสิทธิพิเศษในงานรับใช้จนถึงกับเลิกรับใช้พระยะโฮวาไปเลย (กท. 6:9) อะไรอาจทำให้ผู้รับใช้ที่อุทิศตัวให้กับพระยะโฮวาทำแบบนั้น? ปัญหาอาจเป็นเพราะเขาค่อย ๆ กลายเป็นคนที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี
3. จากฟีลิปปี 4:11, 12 เรามั่นใจได้ในเรื่องอะไร?
3 เราทุกคนสามารถพอใจในสิ่งที่มีอยู่ได้ อัครสาวกเปาโลเขียนว่าเขา “ได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่ว่า [เขา] จะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม” (อ่านฟีลิปปี 4:11, 12) ตอนที่เปาโลเขียนข้อคัมภีร์นี้เขาติดคุกอยู่ แต่เขาก็ยังมีความสุขเพราะเขา “ได้เรียนรู้เคล็ดลับ” ที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ถ้าเรารู้สึกว่ายากที่จะเป็นคนแบบนั้น คำพูดและประสบการณ์ของเปาโลจะทำให้เรามั่นใจว่าเราสามารถเป็นคนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ได้ ถึงจะไม่ง่าย แต่เราก็สามารถเรียนรู้ที่จะเป็นคนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ได้ แล้วเราจะทำได้ยังไง? ให้เรามาดูคุณลักษณะต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เราเรียนรู้เคล็ดลับที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่
เห็นค่าสิ่งที่คุณมี
4. การรู้จักขอบคุณช่วยเรายังไงให้เป็นคนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่? (1 เธสะโลนิกา 5:18)
4 การรู้จักขอบคุณช่วยให้เราเป็นคนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ (อ่าน 1 เธสะโลนิกา 5:18) ตัวอย่างเช่น ถ้าเราขอบคุณและเห็นค่าที่เรามีสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ในชีวิต เราก็จะไม่หมกมุ่นกับสิ่งที่อยากได้ และเมื่อเราเห็นค่าสิทธิพิเศษที่มีในตอนนี้ มันก็จะทำให้เราตั้งใจทำงานมอบหมายนั้นอย่างเต็มที่ แทนที่จะเอาแต่คิดถึงและหาทางได้สิทธิพิเศษที่เราอยากได้ นี่เลยเป็นเหตุผลที่คัมภีร์ไบเบิลกระตุ้นให้เราพูดขอบคุณพระยะโฮวาในคำอธิษฐานด้วย การที่เรารู้จักขอบคุณจะช่วยให้เรามี “สันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่าง”—ฟป. 4:6, 7
5. ชาวอิสราเอลควรจะเห็นค่าเรื่องอะไรบ้าง? (ดูภาพด้วย)
5 ขอสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอล พวกเขาบ่นต่อว่าพระยะโฮวาหลายครั้งว่าไม่มีอาหารดี ๆ กินเหมือนตอนอยู่ที่อียิปต์ (กดว. 11:4-6) ก็จริงที่การใช้ชีวิตในที่กันดารไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีอะไรบ้างที่น่าจะทำให้ชาวอิสราเอลพอใจในสิ่งที่มีอยู่? พวกเขาน่าจะเห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวาทำเพื่อพวกเขามาแล้ว เช่น ตอนที่เป็นทาสอยู่ในอียิปต์ พวกเขาถูกกดขี่อย่างหนัก แต่พระยะโฮวาก็ช่วยพวกเขาให้รอดโดยให้มีภัยพิบัติ 10 อย่างเกิดขึ้นกับชาวอียิปต์ หลังจากเป็นอิสระแล้ว พวกเขาก็ได้ “ริบเอา” เงิน ทอง และเสื้อผ้า “จากชาวอียิปต์จนหมด” (อพย. 12:35, 36) และเมื่อชาวอิสราเอลถูกกองทัพอียิปต์ไล่ตามมาจนถึงทะเลแดง พระยะโฮวาก็ทำการอัศจรรย์โดยแยกทะเลแดงออกและให้พวกเขาเดินผ่านไปได้ และตอนอยู่ในที่กันดาร พระองค์ก็คอยดูแลพวกเขาทุกวันโดยให้มีมานากิน แล้วปัญหาอยู่ตรงไหน? ชาวอิสราเอลไม่พอใจกับสิ่งที่มี ไม่ใช่เพราะไม่มีอาหารกิน แต่เพราะพวกเขาไม่ได้เห็นค่าสิ่งที่มีอยู่
อะไรทำให้ชาวอิสราเอลกลายเป็นคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่มีอยู่? (ดูข้อ 5)
6. มีอะไรบ้างที่จะช่วยเราเป็นคนเห็นค่าและรู้จักขอบคุณ?
6 แล้วคุณจะเป็นคนรู้จักเห็นค่าและขอบคุณได้ยังไง? อย่างแรก ให้คิดดูว่าแต่ละวันคุณได้สิ่งดี ๆ อะไรบ้าง คุณอาจจดไว้วันละ 2-3 อย่าง (พคค. 3:22, 23) อย่างที่สอง ให้แสดงความขอบคุณ ให้คุณเป็นฝ่ายริเริ่มที่จะขอบคุณคนที่ทำสิ่งดี ๆ เพื่อคุณ และที่สำคัญที่สุดให้อธิษฐานขอบคุณพระยะโฮวาเป็นประจำ (สด. 75:1) และอย่างที่สาม ให้คุณเลือกสนิทกับคนที่รู้จักขอบคุณ ถ้าเราทำแบบนั้น เราก็จะมีนิสัยรู้จักขอบคุณด้วย แต่ในทางกลับกัน การอยู่ใกล้คนที่มีนิสัยไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีก็จะทำให้เรามีนิสัยแบบนั้นไปด้วย (ฉธบ. 1:26-28; 2 ทธ. 3:1, 2, 5) ถ้าเราพยายามหาโอกาสที่จะพูดขอบคุณเสมอ เราจะไม่กลายเป็นคนที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี
7. อาร์ชี่ทำอะไรบ้างเพื่อจะเห็นค่าและขอบคุณในสิ่งที่เธอมี?
7 ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องหญิงที่ชื่ออาร์ชี่ซึ่งอยู่ที่อินโดนีเซีย เธอยอมรับว่า “ช่วงโควิด 19 ฉันเริ่มเปรียบเทียบสภาพการณ์ของตัวเองกับพี่น้องคนอื่น มันก็เลยทำให้ฉันไม่พอใจกับสิ่งที่มีอยู่” (กท. 6:4) แล้วอะไรช่วยให้อาร์ชี่เปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเอง? เธอเล่าว่า “ฉันเริ่มนับว่าฉันได้พรดี ๆ อะไรบ้างในแต่ละวันและคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่ได้รับจากการที่ได้อยู่ในองค์การของพระยะโฮวา แล้วฉันก็เลยขอบคุณพระยะโฮวาสำหรับสิ่งเหล่านี้ การทำแบบนี้ช่วยให้ฉันพอใจในสิ่งที่มีอยู่จริง ๆ” ถ้าคุณมีความคิดในแง่ลบมาก ๆ คุณจะทำแบบเดียวกันได้ไหมเพื่อจะกลับมารู้สึกเห็นค่าและขอบคุณอีกครั้ง?
ถ่อมตัว
8. เกิดอะไรขึ้นกับบารุค?
8 บารุคซึ่งเป็นเลขานุการของผู้พยากรณ์เยเรมีย์ก็เคยไม่พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เขาได้รับงานมอบหมายที่ยากมาก คือเป็นผู้ช่วยของเยเรมีย์ตอนที่เยเรมีย์ต้องประกาศการพิพากษาชาติอิสราเอลที่ไม่สำนึกบุญคุณพระยะโฮวา แต่แทนที่บารุคจะจดจ่อกับสิ่งที่พระองค์อยากให้เขาทำ เขากลับคิดถึงตัวเองมากเกินไปและคิดถึงแต่สิ่งที่เขาอยากได้ พระองค์ก็เลยเตือนบารุคผ่านทางเยเรมีย์ว่า “เจ้ากลับพยายามหาของใหญ่ให้ตัวเอง เลิกซะเถอะ” (ยรม. 45:3-5) พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือพระยะโฮวากำลังบอกบารุคว่า “เจ้าควรจะพอใจในสิ่งที่มีอยู่” บารุคยอมรับการแก้ไขและนั่นทำให้เขาสนิทกับพระองค์ต่อไป
9. ข้อคัมภีร์ที่ 1 โครินธ์ 4:6, 7 ช่วยเรายังไงให้มีมุมมองที่ถูกต้องในเรื่องสิทธิพิเศษในงานรับใช้? (ดูภาพด้วย)
9 บางครั้งคริสเตียนคนหนึ่งอาจรู้สึกว่าเขาควรได้สิทธิพิเศษบางอย่างในงานรับใช้ เขาอาจเห็นว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นในบางด้าน เช่น มีความสามารถ ขยัน มีประสบการณ์ หรือรับใช้พระยะโฮวามานานแล้ว แต่ปรากฏว่าพี่น้องคนอื่นกลับได้สิทธิพิเศษนั้นไป แล้วพี่น้องคนนี้ควรมีมุมมองยังไง? เขาควรคิดถึงคำพูดของเปาโลที่อยู่ใน 1 โครินธ์ 4:6, 7 (อ่าน) สิทธิพิเศษทุกอย่างที่เราได้รับรวมทั้งความสามารถทั้งหมดที่เรามีก็มาจากพระยะโฮวาทั้งนั้น เราได้สิ่งเหล่านี้มาไม่ใช่เพราะเราดีหรือพิเศษกว่าคนอื่น แต่เป็นเพราะพระยะโฮวาแสดงความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ต่อเรา—รม. 12:3, 6; อฟ. 2:8, 9
ที่เรามีความสามารถและสิทธิพิเศษในงานรับใช้เป็นเพราะพระยะโฮวาแสดงความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ต่อเรา (ดูข้อ 9)b
10. อะไรจะช่วยให้เราเป็นคนถ่อม?
10 เราเป็นคนถ่อมตัวได้โดยคิดใคร่ครวญตัวอย่างของพระเยซู ลองนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนที่พระเยซูล้างเท้าให้กับพวกอัครสาวก อัครสาวกยอห์นเขียนว่า “พระเยซูรู้ว่า [1] พระเจ้าผู้เป็นพ่อได้มอบทุกอย่างไว้ให้ท่านแล้ว [2] ท่านรู้ว่าท่านมาจากพระเจ้า และ [3] กำลังจะกลับไปหาพระองค์” แต่ถึงอย่างนั้น พระเยซูกลับ “เริ่มล้างเท้าให้พวกสาวก” (ยน. 13:3-5) จริง ๆ พระเยซูจะคิดก็ได้ว่าพวกอัครสาวกน่าจะเป็นฝ่ายมาล้างเท้าให้ท่าน แต่ตอนที่พระเยซูอยู่บนโลก ท่านไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองสมควรจะมีชีวิตที่สะดวกสบายกว่านี้ (ลก. 9:58) ท่านถ่อมตัวและพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเราจริง ๆ—ยน. 13:15
11. ความถ่อมช่วยให้เดนนิสพอใจในสิ่งที่มีอยู่ยังไง?
11 พี่น้องเดนนิสจากเนเธอร์แลนด์พยายามเต็มที่ที่จะเลียนแบบพระเยซูในเรื่องความถ่อม แต่เขาก็ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาบอกว่า “ตอนที่ผมเห็นบางคนได้สิทธิพิเศษบางอย่าง บางครั้งความหยิ่งก็ผุดขึ้นมาในใจผม ผมไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ พอเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่ ผมก็จะศึกษาส่วนตัวเรื่องความถ่อม ผมยังเก็บข้อคัมภีร์เกี่ยวกับความถ่อมไว้ในแอป JW Library® เพื่อจะกลับไปหาอ่านได้ง่าย ๆ และผมยังดาวน์โหลดวีดีโอคำบรรยายที่เกี่ยวกับความถ่อมไว้ในโทรศัพท์และเข้าไปดูบ่อย ๆ ด้วยa ผมได้เรียนรู้ว่าทุกอย่างที่ผมทำเพื่อพระยะโฮวาควรทำให้พระองค์ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นมายกย่องผม พระยะโฮวาให้เราทุกคนได้มีส่วนช่วยงานของพระองค์ แต่พระองค์ต่างหากที่ทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้” ถ้าคุณเริ่มไม่พอใจเพราะไม่ได้สิทธิพิเศษที่อยากได้ ขอให้พยายามเต็มที่ที่จะเป็นคนถ่อมตัว นี่จะช่วยให้คุณสนิทกับพระยะโฮวาและพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี—ยก. 4:6, 8
คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับความหวังในอนาคต
12. ความหวังอะไรบ้างในอนาคตที่ช่วยให้เราพอใจในสิ่งที่มีอยู่? (อิสยาห์ 65:21-25)
12 เราจะพอใจในสิ่งที่มีอยู่มากขึ้นได้ถ้าเราคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับความหวังที่ยอดเยี่ยมในอนาคต พระยะโฮวาบอกไว้ในหนังสืออิสยาห์ว่าพระองค์เข้าใจว่าเราเจอปัญหาอะไรบ้าง และพระองค์สัญญาว่าจะทำให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป (อ่านอิสยาห์ 65:21-25) เราจะได้อยู่ในบ้านที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย เราจะได้ทำงานที่ทำแล้วมีความสุข เราจะได้กินอาหารอร่อย ๆ และดีต่อสุขภาพ และเราจะไม่ต้องคอยกังวลว่าตัวเราเองหรือลูก ๆ ของเราจะเจออันตรายไหม (อสย. 32:17, 18; อสค. 34:25) เรามั่นใจได้ว่าความหวังต่าง ๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงแน่นอนในอนาคต
13. เราเจอปัญหาอะไรบ้าง? และการคิดถึงความหวังในอนาคตช่วยเรายังไง?
13 ตอนนี้เป็นเวลาที่เรายิ่งต้องคิดถึงความหวังในอนาคตอยู่เสมอ ทำไม? เพราะเรากำลังอยู่ใน “สมัยสุดท้าย” และเราทุกคนก็เจอปัญหาซึ่งทำให้ชีวิตเรา “มีแต่ความยุ่งยากลำบาก” (2 ทธ. 3:1) พระยะโฮวาช่วยเราทุกวันให้อดทนกับปัญหาต่าง ๆ ได้โดยให้การชี้นำ กำลัง และความช่วยเหลือที่จำเป็น (สด. 145:14) นอกจากนั้น ความหวังในอนาคตยังช่วยให้เรารับมือกับความยากลำบากได้ เช่น ตอนนี้คุณอาจต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อดูแลให้ครอบครัวมีสิ่งจำเป็น แต่คุณจะต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดไหม? ไม่เลย พระยะโฮวาให้สิ่งจำเป็นกับคุณในตอนนี้ และจะให้มากยิ่งกว่านี้อีกไม่รู้กี่เท่าในโลกใหม่ (สด. 9:18; 72:12-14) หรือคุณอาจกำลังทนกับอาการเจ็บปวดเรื้อรัง โรคซึมเศร้า หรือปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่คุณจะต้องจมอยู่กับความทุกข์แบบนี้โดยไม่มีความหวังเลยไหม? ไม่ ในโลกใหม่ความเจ็บป่วยและความตายจะไม่มีอีกต่อไป (วว. 21:3, 4) ความหวังนี้ช่วยให้เรารับมือกับปัญหาที่เราเจออยู่ได้ และช่วยให้เราไม่โกรธหรือรู้สึกขมขื่นกับชีวิต เราสามารถมีความสุขและสงบใจได้แม้ต้องเจอกับเรื่องที่ไม่ยุติธรรม สูญเสียคนที่รัก ทนกับความเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือเจอกับเรื่องแย่ ๆ ในชีวิต เพราะอะไร? ก็เพราะไม่ว่าปัญหาที่เราเจอจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน เรารู้ว่า “ความยากลำบากที่เราเจอนั้นจะมีอยู่ช่วงสั้น ๆ” และในโลกใหม่เราจะไม่ต้องทนทุกข์กับปัญหาเหล่านี้อีกเลย—2 คร. 4:17, 18
14. เราจะทำให้ความหวังชัดเจนยิ่งขึ้นในใจเราได้ยังไง?
14 ในเมื่อความหวังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราพอใจในสิ่งที่มีอยู่ แล้วเราจะทำให้ความหวังของเราชัดเจนยิ่งขึ้นในใจได้ยังไง? เหมือนกับที่บางคนต้องใส่แว่นตาเพื่อจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลได้ชัดเจน เราก็ต้องคอยนึกภาพชีวิตในโลกใหม่บ่อย ๆ เพื่อความหวังของเราจะชัดเจนขึ้น ตอนที่รู้สึกกังวลมากเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงิน ให้เรานึกภาพว่าในโลกใหม่เราจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเรื่องหนี้สินอีกต่อไปและจะไม่มีการแบ่งแยกระหว่างคนรวยกับคนจน และตอนที่เราผิดหวังที่ไม่ได้สิทธิพิเศษที่เราอยากได้ ให้เราคิดดูว่าเรื่องนี้จะไม่สำคัญเลยถ้าในโลกใหม่เราได้เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบและได้รับใช้พระยะโฮวาเป็นพัน ๆ ปี (1 ทธ. 6:19) บางครั้งเราอาจกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มากเกินไปจนทำให้ยากที่จะนึกภาพโลกใหม่ แต่ถ้าเราคิดถึงคำสัญญาของพระยะโฮวาบ่อย ๆ เราก็จะทำได้ง่ายขึ้น
15. คุณได้เรียนอะไรจากคำพูดของคริสต้า?
15 ให้เรามาดูว่าความหวังช่วยคริสต้าซึ่งเป็นภรรยาของเดนนิสที่พูดถึงก่อนหน้านี้ยังไง เธอเล่าว่า “ฉันเป็นโรคที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฉันเลยต้องนั่งบนรถเข็นและเกือบจะนอนบนเตียงตลอดเวลา ฉันรู้สึกปวดทุกวัน เมื่อเร็ว ๆ นี้หมอเพิ่งบอกว่าฉันไม่มีหวังแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะดีขึ้นได้ แต่พอได้ยินแบบนั้นฉันก็คิดขึ้นมาทันทีว่า ‘ไม่ใช่สักหน่อย หมอมองว่าไม่มีหวัง แต่ฉันมีความหวังที่ช่วยให้สงบใจได้จริง ๆ’ ถึงตอนนี้ฉันต้องอดทนใช้ชีวิตในโลกนี้ แต่อีกไม่นานฉันจะมีความสุขตลอดไปในโลกใหม่”
“คนที่เกรงกลัวพระองค์จะไม่ขาดอะไรเลย”
16. ทำไมดาวิดถึงบอกว่าคนที่เกรงกลัวพระยะโฮวา “จะไม่ขาดอะไรเลย”?
16 ถึงแม้เราเป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวาและพอใจในสิ่งที่มีอยู่ แต่เราก็ยังต้องเจอปัญหาในชีวิต เช่น กษัตริย์ดาวิดสูญเสียลูกอย่างน้อย 3 คน โดนกล่าวหาแบบผิด ๆ ถูกทรยศ และต้องหนีการตามล่านานหลายปี แต่ตอนที่เขาอดทนกับปัญหาต่าง ๆ เขาก็ยังพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เขาพูดถึงพระยะโฮวาว่า “คนที่เกรงกลัว [พระยะโฮวา] จะไม่ขาดอะไรเลย” (สด. 34:9, 10) ทำไมดาวิดถึงบอกแบบนั้น? เพราะถึงแม้พระยะโฮวาจะไม่ได้ปกป้องเขาไม่ให้มีปัญหาในชีวิตเลย แต่เขาก็ไม่ได้ขาดอะไรจริง ๆ (สด. 145:16) เหมือนกับดาวิด เราก็มั่นใจได้ด้วยว่าพระยะโฮวาจะช่วยเราตอนที่เราเจอความยากลำบาก และเราจะมีความสุขและสงบใจได้เสมอไม่ว่าสภาพการณ์ของเราจะเป็นยังไง
17. ทำไมคุณถึงตั้งใจที่จะเรียนรู้เคล็ดลับที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่?
17 พระยะโฮวาอยากให้คุณเป็นคนที่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ (สด. 131:1, 2) ดังนั้น ขอให้พยายามเรียนรู้เคล็ดลับในเรื่องนี้ ถ้าคุณพยายามเห็นค่าในสิ่งที่มี ถ่อมตัว และทำให้ความหวังของตัวเองชัดเจนอยู่เสมอ คุณก็จะสามารถพูดได้ว่าฉันเป็นคนที่ “พอใจในสิ่งที่มีอยู่”—ฟป. 4:11
เพลง 118 “ขอช่วยให้พวกเรามีความเชื่อมากขึ้น”
a ตัวอย่างเช่น ดูวีดีโอการนมัสการตอนเช้าเรื่องพระยะโฮวาคอยดูแลคนที่ถ่อมตัว และเรื่องความหยิ่งทำให้พินาศ
b คำอธิบายภาพ พี่น้องชายทำงานบำรุงรักษาอาคารขององค์การ พี่น้องหญิงที่เรียนภาษามือถูกสัมภาษณ์ในการประชุมหมวด และพี่น้องชายกำลังบรรยายสาธารณะ